-@@- ถึงวันนี้เวทีมวยลุมพินีที่ถนนพระราม 4 ได้กลายเป็นตำนานไปแล้ว หลังจากที่มีการปิดตัวลงไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียวมีการจัดมวยนัดยิ่งใหญ่ปิดตำนานวิกทุ่งราบลุมพินี โดยมีคลื่นมหาชนแฟนมวยมาร่วมกันรำลึกอดีตที่เวทีแห่งนี้มากมาย และในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะมีการเปิดสนามอย่างเป็นทางการที่เวทีลุมพินีแห่งใหม่ที่ถนนรามอินทรา โดยทางผู้บริหารของเวทีได้มอบหมายให้”เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ศึกเพชรยินดี รับหน้าที่อีกครั้ง หลังจากได้จัดนัดปิดตำนานไปแล้ว และมาจัดอีกในนัดเปิดป้ายแดงด้วยคู่มวยอลังการ
นัดพบคนดัง กับ แบน ท่าพระ ในสัปดาห์นี้ จะพาแฟนมวยไปพบกับบุคคลสำคัญผู้หนึ่งที่ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการจัดมวยนัดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คือ ”เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ แห่งศึกเพชรยินดี ซึ่งจะมาพูดคุยหลากหลายเรื่องราวของเวทีลุมพินีที่เก่าและที่ใหม่ ซึ่งจะได้เริ่มตำนานบทใหม่ของวงการมวยเมืองไทย รวมไปถึงมุมมองที่น่าสนใจกับเวทีแห่งนี้ และคู่มวยที่นำมาชกในครั้งนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไปพบกับเสี่ยเน้าได้เลย
มวยสยาม – ความผูกพันชีวิตโปรโมเตอร์กับเวทีลุมพินีก่อนย้ายมาที่รามอินทรา
เสี่ยเน้า – ”ผมผูกพันกับเวทีแห่งนี้มาตั้งแต่เป็นโปรโมเตอร์ที่ลุมพินีได้ 32 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2525 จนกระทั่งได้รับเกียรติให้จัดมวยนัดส่งท้ายวิกทุ่งราบ แม้ว่าเวทีแห่งนี้จะไม่ใช่เวทีที่สวยงามอะไร แต่เป็นตำนานที่ทั่วโลกกล่าวขวัญกันมาก เป็นความผูกพันของคนวงการมวยทุกคน ว่าไปก็ใจหายเหมือนกันที่จะต้องจากที่นี่ไป เพราะมันเหมือนบ้านของเราที่อยู่อาศัยมานาน ถึงจะเก่าแต่ก็มีความสุข ถึงจะมีฝนตกหลังคารั่ว น้ำท่วมบ้าง หรือเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่สงบของบ้านเมืองก็เจอมาหมดแล้ว ผมเชื่อว่าความผูกพันนี้ตัวผมและคนวงการมวยทุกคนไม่มีวันลืมเลือนเวทีลุมพินี พระราม 4 แน่นอน”
มวยสยาม – ยุคแรกของเสี่ยเน้าที่มาเป็นโปรโมเตอร์ลุมพินีเป็นมาอย่างไร?
เสี่ยเน้า – ”แรกเริ่มเดิมทีผมมาจัดมวยที่ลุมพินีใช้ชื่อว่า ศึกเพชรพล 1 โดยเป็นโปรโมเตอร์รับเชิญจากทางสนามให้มาจัดมวยนัดวันเกิดลุมพินี ซึ่งวันนั้นทำยอดค่าผ่านประตูได้ 1.5 ล้านบาท ไม่มีชาวต่างชาติแม้แต่รายเดียว เก็บค่าดูแค่ 150 บาท โดยจัดในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพอดี แฟนมวยทั้งสนามร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพร มันเป็นภาพที่ผมยังจดจำอยู่ถึงทุกวันนี้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม วันนั้นมีมวยดังอย่าง วิชาญน้อย, เผด็จศึก, ขาวสด มาชกรายการนี้หมด ซึ่งเป็นยุคของ ”เสธ.ชาย” พ.อ.ชาย ดิษยเดช เป็นนายสนามมวย จากนั้นอีก 3 ปีถึงได้เป็นโปรโมเตอร์ลุมพินี”
มวยสยาม – จัดมวยนัดนั้นไปแล้ว รู้สึกติดใจอยากเป็นโปรโมเตอร์แล้วหรือยัง?
เสี่ยเน้า – ”ไม่นะ ผมบอกตามตรงว่าช่วงนั้นไม่เคยคิดที่จะเป็นโปรโมเตอร์เลย จนกระทั่งมีการเชิญอีก 3 ครั้งให้ผมมาเป็นโปรโมเตอร์ แต่ผมปฏิเสธไปหมด ยุคนั้นเป็นช่วงปลายของ พล.ต.อัศนี สมุทรเสน เป็นนายสนาม โดยมี พ.อ.สุธีร์ พรหมใจรักษ์ เป็นหัวหน้าฝ่ายรายการ ท่านมาประสานกับผม แต่ผมปฏิเสธไปว่าไม่พร้อม จนกระทั่ง พ.อ.สุธีร์มาอีก หนนี้ท่านบอกว่าไม่ได้มาทาบทาม แต่มาบังคับให้ผมเป็นโปรโมเตอร์ลุมพินี เพราะช่วงนั้น โกเฮง อ่าวถาวร สุขภาพก็ไม่ดีและมีปัญหาด้านการเงิน จึงอยากให้ผมมาเป็นโปรโมเตอร์ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นประโยชน์กับเวทีลุมพินีมากกว่า เพราะเห็นว่าผมมีศักยภาพพอ มีมวยแม่เหล็กในการดูแลหลายคน”
มวยสยาม – ชีวิตการทำงานของโปรโมเตอร์ยุคนั้นต่างกับยุคนี้อย่างไร?
เสี่ยเน้า – ”แตกต่างกันมาก ยุคนั้นมี คุณทรงชัย รัตนสุบรรณ เป็นโปรโมเตอร์ที่โด่งดังมากในวงการมวยเมืองไทย ผมเป็นน้องใหม่จะทำอะไรเกินหน้ารุ่นพี่ดูจะไม่เหมาะ ก็ตามกันเรื่อยมา ผมไม่มีความคิดทะเยอทะยานที่จะมาเป็นโปรโมเตอร์เบอร์ 1 จนกระทั่งคุณทรงชัยลาออกจากลุมพินีในยุค พล.อ.วันชัย นิลเขียว เป็นนายสนาม ท่านจึงมอบหมายให้ผมช่วยดูแลงานต่อ ซึ่งต้องยอมรับว่าช่วงนั้นผมเจอกับมรสุมมากมาย โดยเฉพาะการมาจัดมวยทางช่อง 5 ผมจัดมาได้ 7 เดือนขาดทุนไปร่วม 10 ล้าน แต่ผมก็ยังสู้ เพราะต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า ในเมื่อทรงชัยทำแล้ว ผมทำไมจะทำไม่ได้”
มวยสยาม – สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดในการทำงานให้กับเวทีลุมพินี
เสี่ยเน้า – ”ผมได้จัดมวยนัดวันเกิดสนามมากที่สุด นับตั้งแต่คุณทรงชัยลาออกไป 14 ปี ผมจัดมาตลอด ซึ่งต้องขอบคุณสนามที่ไว้วางใจผม และได้จัดมวยนัดสั่งลา ซึ่งวันนั้นผมได้เห็นภาพของแฟนมวยรุ่นเก่าหลายคนที่ไม่เคยเจอมานาน ได้มาร่วมกันปิดตำนาน แม้ว่าช่วงนั้นสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบก็ตาม และก็ดีใจที่ได้มีโอกาสจัดมวยนัดเปิดป้ายแดงที่ลุมพินี รามอินทรา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 57”
มวยสยาม – การจัดมวยนัดเปิดป้ายแดงมีการเตรียมงานอย่างไรบ้าง?
เสี่ยเน้า – ”จริงๆ แล้วเวทีลุมพินีมีการทดลองจัดไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ไปแล้ว ซึ่งก็มีเสียงเรียกร้องจากแฟนมวยให้ปรับปรุงหลายอย่าง ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมได้รับมอบหมายให้จัดมวยนัดนี้มานานกว่า 3 เดือน ยอมรับว่าเครียด เพราะต้องจัดให้ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี จึงปรึกษากับคุณทรงชัยที่เดิมทีจะจัดรายการใหญ่ในวันที่ 3 มีนาคม แต่ก็ยอมเสียสละมวยดังมาชกในรายการนี้ ซึ่งผมบอกเลยว่ามวยชุดนี้ทั้งหมดจะยกไปในช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ราชดำเนิน จะเห็นว่ามวยของสายวันทรงชัยปะทะกับเพชรยินดีหลายคู่ ไม่ว่าจะเป็น พระจันทร์ฉาย พบ มนต์ดำ, ธนญชัย พบ รุ่งเพชร, เพชรทวี พบ ไข่มุกขาว, สิงห์ทองน้อย พบ เพชรพนมรุ้ง, ปกรณ์ พบ สิงห์ดำ และยังมี ซุปเปอร์แบงค์ กับ แสงมณี ที่จะร่วมชกมวยรอบ จึงถือว่ารายการนี้แฟนมวยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง’‘
มวยสยาม – มวยนัดเปิดสนามวันนั้นมีข่าวจะถ่ายทอดสด 2 ช่วง
เสี่ยเน้า – ”ช่วงบ่าย 2 โมงเศษจะเป็นมวยสากล เป็นการป้องกันแชมป์สภามวยโลกเอเชียของ นกน้อย ซีพีเฟรชมาร์ท พบกับผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น และมวยประกอบรายการที่น่าดูอีกหลายคู่ จะถ่ายทอดทางช่อง 7 สี จากนั้นในช่วงค่ำ 21.50-23.50 น. ช่อง 5 จะถ่ายทอดสดมวยไทย โดยเฉพาะมวยรอบคิง ไฟเตอร์ 4 แมน ทัวร์นาเมนต์ สามเอ ไก่ย่างห้าดาว, ซุปเปอร์แบงค์ ม.รัตนบัณฑิต, ซุปเปอร์เล็ก ว.สังข์ประไพ และ แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ จะจับสลากประกบคู่บนเวที ชก 3 ยกเอาผู้ชนะไปชิงชนะเลิศ แชมป์ได้ 3 แสน รองแชมป์ได้ 2 แสน และยังมี แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม พบ น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว และ สมรักษ์ ท.เทพสุทิน พบ ทรู วาเรนสตาร์โวนี่ จากสหรัฐฯ ผมลงทุนมวยรายการนี้ไปร่วม 6 ล้านบาท แม้ยอดค่าผ่านประตูจะไม่ถึง แต่เพื่อศักดิ์ศรีลุมพินีต้องทำให้ดีที่สุด”
-@ ขอขอบคุณ ข่าว-ภาพ-คลิป : แบน ท่าพระ –www.siamsport.co.th
