-@@- เหยี่ยวข่าว..สายมวยที่ยังมีไฟ สว่าง วาบพอศอนี้ ผมว่ายังไม่มีใครเก้าวล้ำเส้น นินจาดำคนนนี้ไปได้..ครับ..ผมกำลังจะพูดถึง แชมป์แฟนพันธุ์แท้ มวยโลกคนแรกของเมืองไทย คุณ “สอดสร้อย สาวสังเวียน” ซึ้งเป็นหนึ่งในทีมครอบครัวไทยเรคที่ทรงคุณค่า..ยิ่ง มื้อนี้ผมจะจับเอาซิรีย์ชีวิตของเจ้าหนึ่ง ฉัตรชัย สาสกุล Chatchai Sasakul เมื่อครั้งที่เขาบุกโตเกียวทำศึกชิงโลกคำรบสามกับเจ้าหมีขาว ยูริ อาร์บาชาคอฟ โดยมีเข็มขัด 112 WBC เป็นเดิมพัน จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เกือบจะ 20 ปีเข้าไปแล้ว เรามารีเทิร์นกับความหลังครั้งเก่าแบบเข้มข้นสไตล์ของคุณ สร้อย ชีโฟร์ ได้เลยนะ..บัดนาว…
ในช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นสะบายอย่างนี้ ย้อนไปในอดีตเมื่อ 17 ปีก่อน ช่วงเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1997 หรือ พ.ศ.2540
มีศึกชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต WBC เป็นศึก”ชำระแค้น” ของนักมวยไทย ที่มีชื่อว่า “ฉัตรชัย สาสะกุล” ปล. ที่ถูก นามสกุล ต้องมี สาหร่ะ อะ..ครับ !!
(ตั๋วเข้าชม มวยโลกนัดนี้ ที่ Tsukisamu Green Dome, Sapporo, Hokkaido, Japan “ซือกิซามู กรีน โดม, ซัปโปโร ฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเชียวนะคุณ)
สมัยโน้นต้องไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองนะครับ มี ทีมงานเพชรยินดี ขบวนสื่อมวลชน ยกทีมคับคั่ง
ตัวผม ก่อนออกจากบ้าน สมัยนั้น ลูกสาวคนโต ยังตัวเล็ก กับพ่อและแม่ พร้อมจะเดินทางแล้วครับ)
สาวๆแฟนมวย (รึเปล่า) ไปส่ง นักมวย มั๊ง..?!? รวมทั้ง แซมซั่น กระทิงแดงยิม ก็ไปส่ง เจ้าหนึ่ง ด้วยเหมือนกัน
ปล. ขออนุญาต เลียนแบบ พี่ปลาก้าง มั่งนะครับ อย่าโกรธกันนะพี่ !!
พี่สาวคนสวย “พีจี๊ด” ล่ามคนเก่ง ขณะกำลังทำหน้าที่แปล คำถามของสื่อมวลญี่ปุ่น ที่แห่กันมารอรับ “เจ้าหนึ่ง”ฉัตรชัย เมื่อเดินทางจากเมืองไทย ถึงสนามบินนาริตะ โตเกียว
มหานครโตเกียว ยามค่ำคืน เมื่อ 17 ปีที่แล้ว โอว์ แม่เจ้า พ้มเพิ่งเคยเดินทางไปครั้งแรก ต้องตื่นตา ตื่นใจ เป็นธรรมดา แถมยังได้ไป เยือน โตเกียว โดม เม็กกะวงการมวย แดนซามูไรอีกด้วย
ส่วนตัว “ครูหนึ่ง”หรือ “เจ้าหนึ่ง” ฉัตรชัย ในตอนนั้น ออกไปไหนไม่ได้ครับ ต้องรีดลดอบตัว และกระโดดเชือก คุมน้ำหนักให้ได้ตามพิกัด
เราจำต้องค้างที่โตเกียว หนึ่งคืน จากนั้นวันรุ่งขึ้น ต้องต่อเครื่องภายใน ไปเดินทางไปฮอกไกโด ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น เปรียบไปก็เหมือน กรุงเทพ เชียงใหม่ นั่นแหละครับ
คนญี่ปุ่นเอง ยังบอกเลยว่า ทางเหนือที่เกาะฮอกไกโดนั้น ทั้งหนาว และสาวเหนือ ก็น่ารัก กว่าสาวภาคกลาง ด้วย (อะแฮ่ม.. ขออนุญาต คนที่บ้านครับ)นี่มัน เรื่องอดีต แต่ผมไม่เคย ออกนอกลู่นอกทางนะคะ
กลางคืนก็เปิป อาหาร ญี่ปุ่นแบบนี้ แหละคับ ปิ้ง-ย่าง นี่ทานกันมาก่อน จะมีในเมืองไทย ถึง 10 กว่าปีเชียวนะ ..คุยซะอีก
คณะสื่อมวลชน ด้านหน้าขวามือ “พี่เอก” ปัจจุบัน บก.ใหญ่กีฬา หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ เชียวนะขอรับ
ผมหน่ะ ไม่ประสีประสา อะไรหรอกครับ ต้องให้ พระอาจารย์ เหลือง ขวาสุด (คงไม่ต้องบรรยาย) ท่านเป็น คนชี้แนะ พาไปหมดแหระ แต่ ยังโชคดี มี ล่ามสาวๆเจ้าถิ่น ช่วยพาเดินเล่น ยามกลางคืน (รายละเอียด จำไม่ได้ แระครับ)
ถ้าจำไม่ผิดเราไปถึงค่าย “เคียวเอ้” เพื่อดู ยูริ อาร์บาชาคอฟ ซ้อมโชว์สื่อด้วยหนา
ดูลีลา ของ”ไอ้หมีขาว” เพียงแค่ซ้อม ก็รู้แล้วว่า ไม่ธรรมดา คุณอย่าไปเชื่อ วิกิพีเดีย ที่ว่า ยูริ คิดจะเลิกแขวนนวม ชกไปงั้นๆ ..ไม่จริงหรอกครับ
เพียงแต่ว่า เขามีปัญหา เจ็บข้อมือ จากการป้องกันกับนักมวยญี่ปุ่น และเรื่องที่ว่า เขาจะปักหลักเปิดยิมใหม่ ในฮอกไกโด หลังแต่งงานกับภรรยาชาวญี่ปุ่นแล้ว นั่นหล่ะ เป็นเรื่องจริง
การให้ ฉัตรชัย แก้มือ อีกครั้ง ..จำต้องย้ายไปชกที่ฮอกไกโด นั่นหน่ะ
เพราะทางเคียวเอ้ ต้องการให้ อากาศหนาวเย็นที่นั่น ชิงความได้เปรียบ
แต่ฟ้าดิน ไม่เป็นใจ ปีนั้น ใกล้ช่วงกลางเดือน ธ.ค.แล้วแท้ๆ แต่หิมะ กลับยังไม่ตกเสียนี่ ..น่าแปลกโดยแท้
นักมวยดาวรุ่งคนหนึ่ง ว่ากันว่า มวยมหาลัยฯ ยุคนั้น ถ้าไม่มี “ทรงศักดิ์ แก่นท้าว” มาขวางหน้า ไม่แน่ ดาวรุ่งตัวดำปิ๊ดปี๋ ผู้นี้ อาจแจ้งเกิด แล้วเผลอๆ อาจเลยเถิด ไปชิง ยูริ แทน ครูหนึ่ง เลยก็เป็นได้ 555
เห็นคนโน้นซ้อม คนนี้ แอ๊ก คนอย่างเสี่ยเน้า เลยคันไม้คันมือ ..”ขอกูจ้วงสักทีเถอะว่ะ ..ฮึม..”) เสี่ยใหญ่ เพชรยินดี คงคิดในใจ..
……แหมแมะ..กำลังจะมันยังไม่ทันได้ซด แต่พื้นที่หมดเสียแล้ว..เอาไว้ต่อตอน2 ก็แล้วกัน..นะครับ…..