<<>> จากที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้เปิดเผยในการแถลงข่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีช่วงหนึ่งได้มีการกล่าวถึง การขอความร่วมมือสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ ในเรื่องของการถ่ายทอดมวยไทยว่า “ตอนนี้ขอความร่วมมือทีวีทุกช่อง โดยได้ส่งสัญญาณไปที่สถานีโทรทัศน์ทั้งหลายว่าอย่างน้อยในเดือนเมษายนนี้ควรจะงดถ่ายทอดสดการชกมวย โดยเฉพาะมวยที่จัดขึ้นใหม่

 

 

 

แม้จะออกข่าวว่าชกกันโดยไม่มีคนเข้าไปดู ถ่ายทอดเพื่อที่จะให้คนที่กักกันที่บ้านได้ดูเพลิดเพลินก็ไม่ควร เพราะความจริงการที่เวทีจัดชกมวยกันเองถึงไม่มีคนดูก็เป็นความเสี่ยงของผู้ที่ชกมวย แล้วมีการถ่ายทอดก็จะเป็นความเสี่ยงให้คนมามั่วสุม ชุมนุมกันเชียร์ บางครั้งก็ไม่ได้ดูอย่างเดียวแต่ดื่มไปด้วย ก็เลยขอความกรุณาให้งดการถ่ายทอดโทรทัศน์รายการดังกล่าวไปแล้ว”

 

ภายหลังจากที่มีการแถลงถึงประเด็นดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางสนามมวยหลักที่มีการถ่ายทอดมวยไทยในช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่นเวทีลุมพินี ราชดำเนิน ช่อง 7 สี หรือเวทีมวยสยามอ้อมน้อย ก็ได้รับคำตอบว่าทุกสนามได้ปฏิบัติตามประกาศของภาครัฐ รวมทั้งของกรุงเทพมหานครทั้งหมด คืองดจัดมวย และจึงไม่มีการถ่ายทอดจากเวทีมาตรฐานดังกล่าวเลยตั้งแต่ช่วงที่ประกาศออกมาแล้ว โดยช่อง 7 ระบุชัดว่าเดือนเมษายนจะไม่มีการจัดมวยที่เวทีช่อง 7 ซึ่งได้ประกาศงดไปนานแล้ว ขณะที่เวทีอื่น ๆ ก็เลื่อนอย่างไม่มีกำหนด

 


นายองอาจ ใจทัศน์กุล ผู้บรรยายมวยไทยเวทีมวยสยามอ้อมน้อย ได้เปิดเผยว่า ไม่เข้าใจว่าท่านออกมาพูดทำไมในตอนนี้ที่ทุกคนในวงการมวยก็ปฏิบัติตามการประกาศของภาครัฐอยู่แล้ว มันคลุมเครือที่จะทำให้มองว่าวงการมวยไทยยังฝ่าฝืนหรือไม่รับผิดชอบ มีการละเมิดประกาศของรัฐอยู่อีก คนไม่รู้ก็จะตำหนิวงการมวยไทยว่าไม่รับผิดชอบทั้งที่ทุกเวทีมีความรับผิดชอบและให้ความร่วมมือ ก็ไม่ทราบว่าท่านไปเอาข้อมูลมาจากไหน หรือหมายถึงอะไรกันแน่ที่พูดถึงการถ่ายทอดมวยที่ยังมีอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็มีการนำเทปการชกมวยไทยเก่ามารีรันเท่านั้น

 

 

เนื่องจากว่าเขาเช่าเวลาช่องต่าง ๆ ไว้ ก็ต้องหาวิธีการใช้พื้นที่ในช่วงเวลานั้น จะจอดำได้หรือทางช่องเขาจะยอมหรือเปล่า ถ้าท่านไม่อยากให้มีการรีรันเทปมวยเก่า ๆ เลยท่านก็ควรยื่นมือมาช่วยผู้เช่าช่วงเวลาเพื่อทำรายการมวยเขา เขาจะได้ไปหาเนื้อหาอื่น ๆ มาลง ที่เขารีรันอยู่นี้คนดูก็ไม่มากมายเพราะมันไม่ได้เสียอะไรเนื่องจากรู้ผลกันอยู่แล้ว เขาก็ดูกันไปเรื่อย ๆ เหมือนกันกับดูรายการบันเทิง หรือรายการอื่น ๆ 

@ News  Photo Credit : กีฬาเดลินิวส์

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments