<<>> “บัวขาว” คืนสังเวียนรอบเกือบ 3 ปี ที่กัมพูชา เจอนักชกเบลารุส ผู้เคยน็อก “เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง”
Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) หลังจากสิ้นสุดภารกิจผู้จัดการทีมคิกบอกซิ่ง ทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ 2021 เจ้าตัวก็ได้ข่าวดี
เมื่อยืนยันโปรแกรมชกกับ ดมิทรี วาลัส คู่ชกชาวเบลารุส ในศึก World Fight Tournament ณ สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา แข่งขันวันที่ 6 กรกฎาคม 2022
รายการมวยนัดนี้ เป็นศึกใหญ่ที่ชาวกัมพูชาให้ความสนใจ โดยมีรัฐบาลให้การสนับสนุน อนุญาตให้ใช้ สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช ขนาดความจุ 60,000 คน มูลค่าการก่อสร้างกว่า 6,000 ล้านบาท เป็นสังเวียนการชก ก่อนจะใช้เป็นสนามหลักในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
ในรายการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาการต่อสู้ประเภทต่างๆ ที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย, มวยขแมร์, คิกบ็อกซิ่ง และอื่นๆ
ด้าน คู่เอกเป็นการชกกติกามวยไทยระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ กับ ดมิทรี วาลัตส์ ถ่ายทอดสดทั่วประเทศกัมพูชา ขณะที่แฟนมวยชาวไทย รับชมได้ทางไลฟ์สดแฟนเพจ World Fight Tournament เวลา 17:00-19:00 น. (เวลาไทยกับกัมพูชาเท่ากัน)
การขึ้นสังเวียนมวยไทยของบัวขาวในครั้งนี้ เป็นการกลับมาชกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังขึ้นชกไฟต์สุดท้าย ชนะน็อค คริส เอ็นกิมบี้ นักชกคองโก ยกแรก เมื่อ 27 ต.ค.2019 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
โดยก่อนหน้าการชก บัวขาวเดินทางไปโปรโมทการแข่งขันหลายครั้งจนกลายเป็นนักมวยขวัญใจชาวกัมพูชา จึงไม่แปลก เมื่อกลุ่มทุนจัดอีเว้นท์สกีฬาการต่อสู้อย่าง เวิลด์ ไฟต์ ทัวร์นาเมนต์ จะจัดรายการมวยเพื่อโปรโมทประเทศกัมพูชาและสนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช จึงเลือกบัวขาวมาชกเป็นคู่เอก
แม้ว่าบัวขาวจะหยุดชกไปนานถึง 33 เดือน แต่ผู้จัดก็ไม่ได้ประกบให้ซูเปอร์สตาร์มวยไทยเจอกับนักมวยฝีมือธรรมดา เพราะต้องการให้เป็นการชกที่สนุกสมศักดิ์ศรีมวยคู่เอก จึงนำเอา ดมิทรี วาลัตส์ มาเป็นคู่ต่อกร
สำหรับ นักชกวัย 33 ปีจากเบลารุส เคยมาคว้าแชมป์ท็อปคิง เวิลด์ ซีรีส์ รุ่น 70 กิโลกรัม ที่เมืองไทยเมื่อ 7 ปีก่อน เคยเอาชนะน็อค เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง แค่ยกแรก, ชนะคะแนน เดชฤทธิ์ เสถียรมวยไทยยิม(ภพธีรธรรม) อดีตมวยสร้าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ชนะน็อค รุ่งราวี ศศิประภายิม ยกแรก
รวมทั้งเคยดวลกับนักมวยไทยชื่อดังอย่าง ยอดวิชา ยอดวิชามวยไทยยิม, ปกรณ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ ชูเจริญ ดาบรันสารคาม มาแล้ว
@ News Photo Credit :: 
