<<>> เรื่องเศร้าบนผืนผ้าใบ เมื่อการ “โกง” ครั้งหนึ่ง ทำให้คนโกงต้องจ่ายราคาอันแสนแพงกับการกระทำของตัวเอง ส่วนผู้ถูกโกงสูญเสียทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิต…!!!

ในโลกที่มีสิ่งมีชีวิตมารวมกัน ย่อมต้องมีกฎกติกาเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นในสังคมมนุษย์ ไปจนกระทั่งสังคมสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ 


ส่วนในแวดวงกีฬา กฎกติกาคือเครื่องมือในการทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม 

แต่ภายใต้กฎกติกาที่มีนั้น การไม่ทำตามกติกา ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น ในเมื่อผู้ที่อยู่ภายใต้กติกานั้นเป็นมนุษย์ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง อยากได้ อยากมี

ซึ่งการไม่ทำตามกติกา หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “โกง” นั้น ถ้านักกีฬาคนไหนคิดจะทำ ก็ย่อมต้องยอมรับผลกระทบที่ตามมา เพราะเรื่องเหล่านี้ย่อมมี “ราคา” ที่ต้องจ่าย…


ที่หยิบเรื่องนี้มาพูดถึง เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งได้เห็นบทสัมภาษณ์ของ ดีออนเทย์ ไวล์เดอร์ ยอดมวยกำปั้นหนักรุ่นยักษ์ชาวอเมริกัน ที่ออกมาท้าเหยง ๆ ให้ ไทสัน ฟิวรี คู่ปรับชาวอังกฤษยอมให้เขาได้แก้มือ หลังเจ้าตัวพ่ายยักษ์ผู้ดีหมดรูปในการชกไฟต์ 2 ของทั้งคู่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

แต่ประเด็นคือ ไวล์เดอร์ บอกว่าเขาเชื่อว่า ฟิวรี น่าจะ “โกง” ด้วยการยัดวัสดุบางอย่างเอาไว้ในนวม ทำให้หมัดหนักกว่าปกติ 


ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีอย่างนี้มาแล้ว เมื่อครั้งที่ อันโตนิโอ มาร์การิโต นักชกเม็กซิกัน ใช้สารคล้ายปูนปลาสเตอร์พอกที่สันหมัดระหว่างพันมือ ก่อนการชกไฟต์ที่เขาแพ้ เชน มอสลีย์ เมื่อปี 2009 ซึ่งวัสดุที่ว่าจะแข็งตัวเมื่อเปียกน้ำ 

ครั้งนั้น มาร์การิโต โดนจับได้ และราคาที่เขาต้องจ่ายคือการโดนแบนยาว และถูกตราหน้าว่าเป็น “ไอ้ขี้โกง” 

ส่วนกรณีของ ฟิวรี ผมเชื่อว่าคงเป็น “ข้ออ้าง” ของ ไวล์เดอร์ มากกว่า เพราะทั้งตอนพันมือและสวมนวม มันต้องมีตัวแทนของฝ่ายตรงข้ามมาคอยสังเกตการณ์อยู่แล้ว 


กรณีของ มาร์การิโต เป็นการ “โกง” ด้วยการยัดวัสดุบางอย่างเข้าไปในนวมชก แต่นอกจาก “ยัด” ของบางอย่างเข้าไป การ “ดึง” บางอย่างออกมาจากนวม ก็ถือเป็นการ “โกง” เช่นกัน 

และเป็นการ “โกง” ที่คนทำต้องจ่ายด้วยราคาที่แพงมหาศาล เพราะทำให้คู่ชก “ถึงตาย…!!!”

16 มิ.ย. 1983 เมดิสัน สแควร์ การ์เดน เมกกะมวยกลางมหานครนิวยอร์ก บิลลี คอลลินส์ จูเนียร์ มวยสร้างดาวรุ่งรุ่นเวลเตอร์เวต ชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช ขึ้นสังเวียนเจอกับ หลุยส์ เรสโต คู่ชกชาวเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นนักชกล่ารางวัลธรรมดา ๆ 


ก่อนชก คอลลินส์ จูเนียร์ ถูกมองว่าเหนือกว่า แต่พอชกกันจริง เขากลับโดนหมัดของ เรสโต เล่นงานจนหน้าตาบวมเป่งก่อนแพ้คะแนนหลุดลุ่ยแบบพลิกล็อก

 
  สภาพใบหน้าของ บิลลี คอลลินส์ จูเนียร์ หลังชก


หลังประกาศคะแนน บิลลี คอลลินส์ ซีเนียร์ ผู้เป็นพ่อ เทรนเนอร์ และผู้จัดการของลูกชาย เดินเข้าไปจับมือแสดงความยินดีกับคู่แข่ง ทันใดนั้น เขาพบความผิดปกติ เมื่อพบว่านวมของ เรสโต บริเวณสันหมัดมัน “บาง” กว่าปกติ 

เขาตะโกนเรียกประธานคณะกรรมาธิการมวยของนิวยอร์ก มาตรวจสอบทันที ขณะที่ เรสโต หน้าเสียตะโกนเรียกปานามา ลูอิส ผู้เป็นเทรนเนอร์มาช่วย เกิดการโต้เถียงกันพัลวัน 

 
 
สุดท้ายเรื่องดังกล่าวถูกสอบสวน และหลักฐานยิ่งหนาแน่นเมื่อพบว่ามีการวางเงินพนัน เรสโต มากผิดปกติ นำมาซึ่งการลงโทษแบน ปานามา ลูอิส จากการทำหน้าที่ตลอดชีวิต แต่เจ้าตัวยังคงเป็น “ขาใหญ่” ในวงการที่มียิมเป็นของตัวเอง เพียงแต่ไม่ได้ทำหน้าที่ที่มุมเวทีเท่านั้น 


ส่วน เรสโต นั้น “ราคา” ที่เขาต้องจ่ายมันมหาศาลกว่ามาก เมื่อเทียบกับ “ต้นทุน” ที่มีน้อยอยู่แล้ว เขาถูกตัดสินว่ามีความผิด เพราะเขาควรต้องรู้ว่านวมมีความผิดปกติ แต่ไม่ทักท้วง เขาโดนแบนห้ามขึ้นชก 1 ปี แถมมันยังกลายเป็นคดีอาญาทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ ติดคุกอีก 2 ปีครึ่ง นั่นหมายความว่าอาชีพนักมวยของเขาจบลงทันที 


เมื่อพ้นโทษ เรสโต กลายเป็นคนโดดเดี่ยว ต้องอาศัยอยู่อย่างอัตคัดในห้องใต้บันไดเล็ก ๆ ในยิมแห่งหนึ่ง และที่สำคัญที่สุด เขากลายเป็นคนที่ถูก “รังเกียจ” จากสังคม


ถามว่า เรสโต รู้มั้ยว่าผู้เป็นลูกพี่อย่าง ปานามา ลูอิส ทำเรื่องเลวร้ายนี้ แน่นอนเขาย่อมรู้ แต่เขาไม่กล้าพูด เพราะความเป็น “ขาใหญ่” ของ ลูอิส 

 
เรสโต (ขวา) กับ ปานามา ลูอิส (กลาง)


เรสโต เก็บความเจ็บช้ำไว้ในใจถึง 25 ปี ในที่สุดเขาตัดสินใจออกมาแฉลูกพี่เก่า ว่าเป็นคนเอาฟองน้ำที่อยู่บริเวณสันหมัดออกจริง ๆ แถมยังพอกปูนปลาสเตอร์ตอนพันมือ ทำให้กำปั้นของเขาแข็งเหมือนเฝือก อีกทั้งยังมีเรื่องการใช้ยาผสมน้ำเพื่อขยายขนาดปอด ทำให้เหนื่อยช้าอีกต่างหาก


แต่สำหรับ บิลลี คอลลินส์ จูเนียร์ นั้น ความพ่ายแพ้อย่างไม่ยุติธรรมไฟต์นั้น สร้างความเสียหายมหาศาล เขาบาดเจ็บหนักถึงขั้นนัยน์ตาชำรุด มองภาพเบลอ ซึมเศร้า ดื่มเหล้าและใช้ยาเสพติดอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะจบชีวิตในอีกไม่กี่เดือนต่อมาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ 


ขณะที่ บิลลี คอลลินส์ ซีเนียร์ ผู้พ่อ เชื่อว่าลูกชายของเขาพยายามฆ่าตัวตาย…!!!


ตัดกลับไปที่ เรสโต หลังออกมาแฉเรื่องราวในอดีตหลังเก็บงำมานาน ไปสารภาพผิดกับภรรยาม่ายของ คอลลินส์ จูเนียร์ รวมถึงไปสารภาพบาปต่อหน้าหลุมศพของบุรุษที่ตัวเองมีส่วนในการเสียชีวิตของเขา

 
               หลุยส์ เรสโต ในปัจจุบัน


นั่นอาจเป็นการทลายบาปและความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจมาเป็นสิบ ๆ ปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น มันเป็น “ราคา” ที่เขาต้องจ่าย และมันก็มากชนิดที่ทำให้ชีวิตของเขาพังจนไม่เหลือชิ้นดี


ดังนั้น หากคิดจะ “โกง” ใคร ขอให้คิดดี ๆ เพราะผลกระทบอาจมหาศาล และเป็น “ราคา” ที่คุณอาจไม่สามารถจ่ายได้ไหวก็เป็นได้…


@ บทความโดย :: ผยองเดช
 
 
 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บ boxingboy2021.blogspot.com ได้เลยครับ..


@ News  Photo Credit :: กีฬาเดลินิวส์



 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments