<<>> “ปลาไหลใส่สเก็ต” เลิศศิลา ภูเก็ตท็อปทีม นักมวยเก๋าจอมพริ้วไหว วัย 39 ปี ซึ่งเจอวิกฤติโควิด-19 อย่างจัง หลังบินลัดฟ้าเพื่อไปสัมมนาร่วม 20 งานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่กลับถูกยกเลิกทั้งหมดเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสกระหน่ำอย่างรวดเร็ว เจ้าตัวจึงติดเกาะอยู่ที่นั่น ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

เลิศศิลา ต้องอยู่ต่างบ้านต่างเมือง มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายรับ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้อเมริกาเริ่มไฟเขียวให้บางรัฐกลับมาเดินเครื่องเศรษฐกิจ ธุรกิจหลายประเภทเปิดให้บริการได้ จึงถึงเวลาที่ เลิศศิลา จะรับทรัพย์เอาเงินกลับเข้ากระเป๋าบ้าง หลังจากจ่ายออกอย่างเดียวตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากมิตรสหายในวงการมวยเสนองานให้เขาอย่างต่อเนื่อง

 

 

เริ่มจากที่รัฐโคโลราโด เลิศศิลาได้รับการชักชวนจากเพื่อนสนิท “เออริน ฟาเรา” ให้ไปสอนมวยที่ค่ายของเขาชื่อ Prodigy House Muaythai ก่อนที่จะขยับขยายไปรัฐเท็กซัส เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่รัฐเท็กซัส เลิศศิลา รับงานสัมมนาที่ค่าย “Rojas Muay Thai” แล้วไปต่อที่ค่าย “เสกสรรมวยไทย” ของ “เสกสรร จันทร์จิรา” ยอดมวยเลื่องชื่อระดับตำนานในอดีต หนึ่งในผู้มีพระคุณ ซึ่งได้เปิดโอกาสให้เขาสอนมวยแบบคลาสส่วนตัวที่นั่นอีกด้วย

จากนั้นย้ายไปที่รัฐแคลิฟอร์เนีย กับงานสัมมนาที่ค่าย “Muay Thai ATX” ซึ่งมีเจ้าของเป็นเพื่อนสนิทเจ้าถิ่นที่รู้จักกันมาเกือบ 10 ปีอย่าง “อเล็กซ์ แอนูเชียน”

ส่วนสัปดาห์หน้า วันที่ 29-30 กรกฎาคม จะมีงานสัมมนาใหญ่ใน เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ที่ “Bangkok Boxing Fitness” ของยอดมวยดังระดับตำนาน “ขุนพล เดชคำภู” ผู้ปลุกปั้นนักมวยดังอย่าง “Smokin’ Jo” โจ ณัฐวุฒิ โดยมี  “แก่นศักดิ์ ส.เพลินจิต” อดีตยอดมวย 2 พ.ศ. เป็นวิทยากรร่วมสัมมนาด้วย

 

ภาพงานสัมมนาที่ค่าย Rojas Muay Thai

 

“ทุกงานสัมมนาที่จัดขึ้นจะรับเฉพาะลูกศิษย์ประจำของค่ายเท่านั้น โดยมีจำนวนผู้เข้าสัมมนาราวๆ 20-30 คน ที่ยังไม่สามารถเปิดรับคนทั่วไปได้ เพราะสถานการณ์โควิดโดยรวมยังคงหนักอยู่ครับ”

“ทุกคนที่นี่ดีกับผมจริงๆ ผมซาบซึ้งใจมาก อย่าง พ่อเสกสรร ก็ให้ผมพักฟรี พร้อมอาหารการกินไม่เคยขาด แม้แต่ค่าเดินทางไปสัมมนาที่ต่างๆ ค่าโรงแรมที่พัก ทุกค่ายที่เชิญไป จะออกค่าใช้จ่ายให้ผมหมดครับ”

อย่างไรก็ตาม แม้ เลิศศิลา จะสามารถเอาตัวรอดอยู่ในอเมริกาได้ด้วยมิตรภาพในวงการมวย แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังภาวนาให้เหตุการณ์เลวร้ายนี้จบสิ้นลงเสียที เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ไม่อุ่นใจเหมือนบ้านเกิดเมืองนอนที่ประเทศไทย

“ผมคิดถึงประเทศไทยมากครับ คิดถึงลูก คิดถึงพ่อกับแม่ แต่ทำได้แค่โทรหากัน ผมอยากกลับบ้านไปกอดพวกเขาครับ”

 

คอย ดู มวย

@ News  Photo Credit : www.onefc.com

 

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments