@ บทสัมภาษณ์ล่าสุดของแสตมป์ แฟร์เท็กซ์ (มวยไทย 63-15-5, MMA 3-0) แชมป์คิกบ็อกซิ่งและมวยไทยรุ่นอตอมเวธหญิงคนปัจจุบันของ ONE Championship

คำถาม: รู้สึกยังไงที่เปิดปีนี้มาด้วยการเป็นแชมป์มวยไทย?


แสตมป์: นั่นเป็นครั้งแรกที่แสตมป์ได้ขึ้นชกชิงแชมป์โลกในกติกามวยไทย สำหรับแสตมป์แล้วมันเป็นเหมือนก้าวแรกในการขึ้นไปสู่ระดับที่สูงขึ้น แม้จะประสบความสำเร็จ แต่มันก็ยังเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ

 

คำถาม: คิดว่ามีโอกาสได้รีแมตช์กับ Janet Todd และ Alma Juniku ในอนาคตมั้ย?


แสตมป์: ส่วนตัวไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งทีมงานและแสตมป์เองอ่านเกมการชกของพวกเขาออก เราแค่จะต้องวางแผนใหม่อีกครั้ง โฟกัสที่การพัฒนาตัวเองและขยันให้มากขึ้น

 

 

คำถาม: รู้สึกยังไงที่ได้ลงแข่งในกติกา MMA ด้วย?


แสตมป์: รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่ประสบความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้แบบอื่นที่ไม่เคยลองมาก่อน เรากำลังสร้างชื่อให้คนไทยในรูปแบบใหม่ของศิลปะการต่อสู้ และตอนนี้ชาวต่างชาติก็ได้เห็นแล้วว่าเราเก่งทุกด้าน แม้ว่าประเทศไทยจะมีเพียงนักสู้ MMA แค่ไม่กี่คน แต่เราทุกคนทุ่มเท 100% แน่นอนค่ะ

 

คำถาม: ความสัมพันธ์กับรถถังเป็นยังไงบ้าง?


แสตมป์: พี่ถังกับแสตมป์คบหาดูใจกันมาประมาณ 8 เดือนแล้วค่ะ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เขาเข้ากับครอบครัวและที่ค่ายของแสตมป์ได้ดี และเข้าใจเวลาการฝึกซ้อมของเรา เราเข้ากันได้ทุกเรื่องและมีส่วนร่วมหลายๆอย่างในชีวิตด้วยกัน เขาเป็นคนที่เคารพและเชื่อฟังผู้ใหญ่ดีค่ะ

 

คำถาม: รู้สึกยังไงที่มีแฟนเป็นแชมป์โลกเหมือนกัน?


แสตมป์: เราไม่มีปัญหาอะไรเลยเวลาฝึกซ้อม คนมักจะคิดว่าถ้าเรามีแฟนมันจะส่งผลกระทบต่อการซ้อม ทำให้ไม่มีสมาธิ แต่สำหรับแสตมป์กลับมองว่าการมีแฟนทำให้เราทุ่มเทมากขึ้น เพราะเราต้องการให้ที่ค่ายเห็นว่าเรายังขยันเหมือนเดิม เราอยู่เคียงข้างกัน ไม่เคยมีปัญหาอะไร พี่ถังเป็นนักมวยเหมือนกัน ดังนั้น เขารู้ว่าเวลาไหนคือเวลาซ้อม และเราเข้าใจว่ามันยากและเหนื่อยแค่ไหน พี่ถังยังสอนเทคนิคใหม่ๆให้ด้วย ถ้าเรากำลังคบกับใครสักคน เราก็ต้องพยายามทำทุกอย่างให้มันดีอยู่แล้วค่ะ

 

 

คำถาม: มีแผนจะชิงแชมป์โลก MMA ตอนไหน?


แสตมป์: แสตมป์คิดว่าคงต้องสู้อีกซัก 4-5 ไฟต์ก่อนถึงจะพร้อมขึ้นชิงเข็มขัด แสตมป์ต้องการเวลาเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากขึ้นและมีความมั่นใจในเทคนิคการต่อสู้ให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเกมภาคพื้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรเวลาท้าชิงแชมป์โลก

 

คำถาม: ตอนนี้อยากแข่งกีฬาอะไรมากที่สุด?


แสตมป์: แสตมป์ต้องการโฟกัสที่ MMA เพราะเป็นสิ่งที่อยากทำมากที่สุดในตอนนี้ค่ะ ถ้าพูดถึงคิกบ็อกซิ่งหรือมวยไทย ตอนนี้แสตมป์เป็นแชมป์โลกแล้วจึงไม่ค่อยกระหายเหมือนตอนที่ยังไม่ได้เข็มขัด แต่หากมีผู้ท้าชิงเข้ามา แสตมป์เชื่อว่าคงไม่ใช่งานง่ายแน่นอน และจะไม่ประมาทค่ะ

 

คำถาม: เป้าหมายในปีหน้าคืออะไร?


แสตมป์: แน่นอนว่าเป้าหมายแรกคือการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกทั้งสองเส้นไว้ให้ได้ และอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ MMA ให้มากขึ้น ความแตกต่างในปี 2020 คือความตั้งใจที่แน่วแน่และกระหายความสำเร็จ บวกกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งขึ้นในฐานะนักศิลปะการต่อสู้ค่ะ

 

 

@ news image credit  :BellatorThailand/ONE Championship Thailand/sport.sanook

 
 

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments