<<>> ทาคาชิ “บาซูก้า” อูจิยาม่า อดีต ชูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวตของ WBA แถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้วว่า เขาจะยุติการชกมวยนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นั่นก็หมายความว่า เพียงช่วงเวลาในหนึ่งสัปดาห์ นักสู้นักชกบูชิโด ได้ประกาศแขวนนวมกันไปแล้วถึงสองคนด้วยกัน เริ่มจากเจ้ายุ่นจอมอึด ทากาชิ มิอุระ อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ เฟเธอร์เวท พิกัด 130 ปอนด์ ของสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) และล่าสุด ทาคาชิ อูจิยาม่า นั่นเอง..
Photo: Boxing Beat
ทาคาชิ “บาซูก้า” อูจิยาม่า เริ่มต้นเทิร์นโปรเมื่อ 16 ก.ค. 2005 และก็โชว์เยี่ยมเขากวาดชัยชนะรวด 13 ครั้ง จนได้ขึ้นครองแชมป์โลก 130 WBA เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2010 สามารถป้องกันเข็มขัดยาวนานถึง 5 ปี ปราบมวยดังสตาร์โลก รวมถึงยอดมวยไทยเราอย่าง จอมทอง ชูวัฒนะ จนกลายเป็นฮีโร่ของวงมวยยุ่น ดังสุด ๆ แต่กับการป้องกันแชมป์ครั้งที่ 12 เขาต้องพบกับการพ่ายแพ้แบบคาดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อว่า อูจิยาม่า จะพลาดแบบไม่มีการแก้ตัวต่อหน้าแฟนมวยเจ้าถิ่นของเขาเอง เมื่อโดนเจ้า คอร์ราเลส ฉกฉวยโอกาสทองอย่างมืออาชีพทันทีที่เห็นเหยื่อเพลี่ยงพล้ำ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกดูไปแล้ว อูจิยาม่าจะได้เปรียบ เพราะเจ้าคอร์ราเลส เกือบจะไม่ผ่านการชั่งน้ำหนัก ต้องชั่งถึงสองครั้ง เล่นเอาทีมงานหน้าเสีย กลัวจะฟื้นไม่ทัน จึงมีแค่วีธีเดียวคือ ต้องรีบจัดการ โหมมันตั้งแต่ระฆังยกแรกดัง …
แล้ว เทพีแห่งโชค ก็ดันมาเข้าข้างนักสู้จากคลองปานามาเสียนิ.. เก็บฉากส่งเจ้าบ้านอูจิยาม่าแค่ยก 2…จบเกมเข็มขัดหลุด เจ้า เจซรีล คอร์ราเรส คว้าซูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวตของ WBA ไป..แม้อีก 6 เดือนต่อมา อูจิยาม่า จะได้มีโอกาสได้ขึ้นแก้มืออีกครั้ง แต่ผลการชกก็ยังเหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนจากการโดนน็อก มาเป็นพ่ายคะแนนไม่เอกฉันท์ แต่ก็พ่ายอยู่ดี 113-114 / 117-110/115-112 (31ธ.ค.2559)
ทาคาชิ อูจิยาม่า เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979 ที่จังหวัดนะงะซะกิ แต่มาเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง คะซุกะเบะ จังหวัดไซตะมะ ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโตเกียว เริ่มต้นจากการชกมวยสากลสมัครเล่นมาก่อน มีประสบการณ์ชกอย่างโชกโชน ได้แชมป์และเหรียญทองมาหลายรางวัล รวมทั้งเคยชกกับ สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยชาวไทยที่ประเทศไทยด้วย ในรอบรองชนะเลิศรายการคิงส์คัพเมื่อปี ค.ศ. 2002 แต่ปรากฏว่าอุชิยะมะเป็นฝ่ายแพ้ไปอย่างขาดลอย
เมื่อมาชกมวยสาลกอาชีพ อุชิยะมะสามารถคว้าแชมป์ในรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท ของสหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) มาได้ ก่อนที่ได้แชมป์โลกในรุ่นเดียวกันนี้ ของ WBA จากการเอาชนะทีเคโอ ฮวน คาร์ลอส ซัลกาโด เจ้าของตำแหน่งชาวเม็กซิกันไปได้ในยกที่ 12 ซึ่งเป็นยกสุดท้าย ที่กรุงโตเกียว เมื่อปี ค.ศ. 2010
ในขณะที่เป็นแชมป์โลกนั้น อุชิยะมะได้รับการยกย่องว่าเป็นนักมวยในพิกัดซูเปอร์เฟเธอร์เวทที่เก่งที่สุดในโลก และเป็นแชมป์โลกชาวญี่ปุ่นที่เก่งที่สุด มีจุดเด่น คือ พลังหมัดที่หนักหน่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมัดขวาตรง จนได้รับฉายาว่า “KO Dynamite” หรือ “Knockout Dynamite”และยังมีสถิติการชกที่ยังไม่เคยแพ้ใคร
อุชิยะมะได้ถูกยกให้เป็นซูเปอร์แชมป์ในรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวทนี้ พร้อมกับป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 10 ด้วยการเอาชนะทีเคโอ จอมทอง ชูวัฒนะ ผู้ท้าชิงชาวไทยที่มีสถิติไม่เคยแพ้ใครเหมือนกัน ไปในยกที่ 2 ด้วยหมัดขวาตรงเข้าที่ปลายคาง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ที่กรุงโตเกียว
หลังจากนั้นแล้ว อุชิยะมะ ป้องกันตำแหน่งได้อีกครั้ง ก่อนที่จะเสียตำแหน่งไปในการป้องกันครั้งที่ 12 ด้วยการแพ้ทีเคโอไปในยกที่ 2 แก่ ฮาซรีล คอร์ราเลส นักมวยชาวปานามา ซึ่งเป็นแชมป์เฉพาะกาลในรุ่นนี้ ในวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 2016 ที่โอตะ-ซิตี เจเนรัลยิมเนเซียม กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นการแพ้ครั้งแรกในการชกมวยสากลอาชีพอีกด้วย…แม้จะแก้มืออีกครั้งแต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ ปิดฉากโดยการประกาศแขวนนวม ทิ้งสถิติไว้ที่ ชนะ 24 น็อก 20 แพ้2 เสมอ1 กับวัย 37 ปี…สวัสดี……ไฮ้…ไห้..
@ขออภัย โฆษณามารบกวน แต่ถ้าไม่มีเขาวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่มีไทยเรค ดูนิดนะคับ
@ news –image credit :: th.wikipedia.org/ KOMTHAI/Thairec – Fb
