-@@- “จิงกี้ ปาเกียว” ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ “อินไควเรอร์” ของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2558 ว่า ครอบครัวปาเกียวตัดสินใจเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ครั้งสำคัญ 2 ประการด้วยกัน ประการแรก คือ “จิงกี้” จะเลิกเล่นการเมืองอย่างแน่นอน เมื่อครบวาระในกลางปีหน้า ค.ศ.2016 ของการเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองซารันกานี่ ก็จะไม่ลงเลือกตั้งอีกต่อไป และประการที่สอง คือ การย้ายที่เรียนของลูก 4 คน จากเมืองลากูน่า ไปที่เมืองเยเนรัล ซานตอส ซึ่งเป็นถิ่นพำนักของปาเกียวและครอบครัว
มาดาม “จิงกี้” เปิดเผยว่า หลังจากปาเกียวขอร้องให้ลงเล่นการเมืองเมื่อค.ศ.2013 เป็นต้นมา ขณะนี้ได้ตัดสินใจแล้ว เมื่อครบวาระในปีหน้า ค.ศ.2016 ก็จะวางมืออย่างเด็ดขาด เพื่อหันมาทำหน้าที่ดูแลครอบครัวให้เต็มที่ และดูแลธุรกิจของครอบครัวควบคู่กันไปด้วย
“ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวการเมืองอีก เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาสำหรับปาเกียวในอนาคต ที่ผ่านมา ไม่รับเงินเดือนจากตำแหน่งการเมือง บริจาคให้การกุศลทั้งหมด เพื่อความสบายใจของตัวเอง และเพื่อป้องกันปัญหาที่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะการเมือง อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น”
มาดาม “จิงกี้” กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังได้ตัดสินใจร่วมกับปาเกียวและลูกๆ ทุกคนแล้วว่า จะย้ายลูกจากโรงเรียนานาชาติ “แบร้นต์” ในเมืองลากูน่า ไปเรียนที่โรงเรียนเอกชน “โฮป คริสเตียน” ในเมืองเยเนรัล ซานตอส ซึ่งเป็นถิ่นพำนักของปาเกียว เพื่อให้ลูกๆ ทุกคน ได้เรียนรู้กับสภาพชีวิตที่เป็นจริงของสังคมฟิลิปปินส์ รวมทั้งได้รู้จักกับสภาพชีวิตที่ยากจนของคนโดยทั่วไป
“ ปาเกียวต้องการให้ลูกๆ ทุกคน ได้รู้จักคุณค่าของชีวิต ได้รู้จักกับสภาพความยากจน ที่ปาเกียวเกิดและเติบโตขึ้นมาอย่างอดมื้อกินมื้อ”
มาดาม “จิงกี้” กล่าวว่า การย้ายที่เรียนของลูกๆ ครั้งนี้ ไม่มีปัญหาในด้านคุณภาพวิชาการ เพราะสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมในภายหลังได้ แต่เงื่อนไขสำคัญ คือ ต้องการให้ลูกๆ ทุกคน เติบโตมาในสภาพชีวิตที่เป็นจริง เหมือนกับเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ จะได้มีจิตวิญญานเป็นชาวตากาล็อกให้มากที่สุด เท่าที่เป็นไปได้
ทั้งนี้ ปาเกียวและจิงกี้ มีลูกด้วยกันทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน คือ เอมมานูเอล จีมูเอล จูเนียร์ ลูกชายคนโตวัย 14, ไมเคิล สตีเฟ่น ลูกชายคนรองวัย 13, แมรี่ ดีไวน์ เกรซ ลูกสาวคนโตวัย 8 ปี, ควีน อลิซาเบธ ลูกสาวคนเล็กวัย 6 ปี และ อิสราเอล ลูกชายคนเล็กวัย 2 ปี
อนึ่ง หลังจากข่าวความเปลี่ยนแปลงของครอบครัวปาเกียว เผยแพร่ต่อสาธารณชนแล้ว ก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง โดยมีการตั้งข้องสังเกตุของสื่อมวลชน และนักสังเกตุการณ์ทางการเมืองว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ น่าจะเป็นการตั้งหลักสำหรับอนาคตของปาเกียวและครอบครัว เพราะคาดว่า ปาเกียวจะขึ้นชกอีกครั้งหนึ่งในต้นปีหน้า ค.ศ.2016 แล้วแขวนนวม เพื่อลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี หรือรองประธานาธิบดี ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2016 ต่อไป.
@ credit new-image : sportclassic