<<>> ซอฟต์ พเวอร์ไทย ดูเหมือนจะเดินหลงทางไหม!!?? เมื่อมีการเปิดข่าว “บิ๊กเอ”ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นั่งประธานประชุมซอฟพาวเวอร์มวยไทย ครั้งแรก สานต่อโครงการต่างๆเดินในปีงบประมาณ 67 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 2334 ล้านบาท โดยในปี 68เปิดงบประมาณใช้ในโครงการต่างๆสูงถึง 643,000,000 บาท สร้างกิจกรรมมากมาย พร้อมชู ครูมวยไทยที่ผ่านการอบรม ทั่วประเทศมากถึง 500 คน

 

 

ไปเปิดสอนนักมวยหน้าใหม่แบบฟรีๆ คาดจะมีนักชกมือใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1 แสนคน พร้อมยังคงจะมีโครงการโรดโชว์ มวไทย มาสเตอร์คลาส ที่เป็นตัวชูโรงดึงนักท่องเที่ยวมาทัวร์ไทยแลนด์จำนวนมาก และเตรียมจัดการแข่งขันมวยไทยลีก เกิดขึ้นในแดนสยาม

 

“บิ๊กเอ”ประธานคณะอนุกรรมการฯอุตสาหกรรมด้านกีฬา เผยว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เป็นครั้งแรก หลังจากที่ ตน ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ให้มาเป็นประธานคณะอนุกรรมการฯอีกครั้ง

 

ทีมงานส่วนใหญ่เป็นชุดทำงานเดิม โดยในที่ประชุมได้สรุปผลการดำเนินงาน ปี 67 การทำงานของคณะอนุกรรมการฯ มีเวลาน้อย เพียงไม่กี่เดือน แต่มีกิจกรรมมากมาย เราสามารถดำเนินงานในทุกโครงการได้ครบถ้วน

 

 

โดยทุกโครงการมีตัวชี้วัดความสำเร็จซึ่งเราสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ทั้งหมด ไว่าว่าจะเป็น เพิ่มจำนวนนักมวยไทยอาชีพ ชาวไทย มากถึง 6,065 คน มวยไทยอาชีพ(ต่างชาติ) 4,540 คน หรือเพิ่มจำนวนผู้ฝึกสอนมวยไทย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงเอามวยไทยไปสอนในโรงเรียน และที่สำคัญสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ มากถึง 2,334 ล้านบาท ถือว่าเกินเป้าเล็กน้อย ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควร

 

ป.ล. รัฐบาลแน่ใจหรือว่า ซอฟต์ พเวอร์มวยไทย คือที่สุด หากจะมองแบบแมนๆ แล้ว การที่มวยไทยดูดีเด่นถึงทุกวันนี้ ใช่จะมาจากภาครัฐฝ่ายเดียว ไม่.. ทุกองคาพยพ ช่วยกันกู้ช่วยกันทำจากวัน เดือนปี สู่ศตวรรษ และหลายๆศตวรรษ กว่าจะมีถึงซึ่งวันนี้ แต่สำหรับแฟนมวยพันธ์กำปั้นแล้ว ยังต้องการเห็นมโนที่มันจับต้องได้ในบนเวทีโลก ที่มันได้รับการยอมรับแบบ ไม่มีอุทณ์ นอกเหนือจากมรดกไทย มรดกโลก เฉกเช่นมวยไทย 

 

ซอฟต์ พเวอร์ ที่รัฐบาลทำขึ้นมาถือว่าเป็นแนวคิดทีดี แต่ความหลากหลายในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องมันยังไม่ยั่งลึกสู่ถึงแก่น การทุ่มเทงบประมาณลงไปและได้ผลรับการตอบที่ดี หากภาครัฐหันมา ลันดูแก(แลดูกัน) ยังมีอีกหนึ่ง ที่เป็นการลงทุนที่เห็นผลได้ในพริบตา หากทุกอย่างมันลงตัว กับเกมมวยกำปั้นโลก ที่มีเข็มขัดแชมป์ของสถาบัน ที่ยอมรับเป็นเดิมพัน ความเด่น ดัง อาจจะเกิดขึ้นมาได้เพียงข้ามคืน หากเราเก่งจริง เก่งจัง ไม่ต้องวางแผนเป็นสิบๆปีกับโปรเจกนั่นๆ เพียงแค่มีความพร้อมและเดินไปในแนวทางที่ถูกต้อง และได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ ส่งเสริมเทรนเนอร์ บ้านเขา บ้านเรา สู่ สู้

 

 

โดยเฉพาะกับภาครัฐ ที่มีเพลาเวอร์ในด้านกำลังเงินงบประมาณ หลายศตวรรษที่ผ่านมานักสู้นักชกไทย ได้นำชื่อของประเทศขึ้นสู่ทำเนียบกำปั้นโลกอย่างยิ่งใหญ่และเกรียงไกร โดยกำลังแรงผลักดันล้วนๆจากโปรโมเตอร์ใจนักเลง มันเป็น ซอฟต์ พเวอร์ ที่แท้จริง เห็นผลได้ในพริบตา ลองคิดกันเล่นๆ 643ล้านบาท ที่สู่มวยไทย เปลี่ยนเส้นทางสู่มวยโลก ใช่เวลาแค่ปีเดียว ไม่แน่นักชกไทยเราจะกลายเป็นเมืองแชมป์โลกที่เดินชนกันตายมากกว่า ญีปุ่น เสียอีก นิ แต่..สิ่งจะได้รับเนื้อแน่นๆ คือ เมื่อต่างชาติมองไทยแลนด์ พิกัดตรงไหนยังไม่สน แต่ประเทศนี้มีแชมป์โลกตัวดัง หมัดหนัก ชกสนุก ในสู้เกิน150 และเป็นเมืองหลวงของเข็มขัดโลกทุกสถาบัน พวกเขาต้องนึกถึงประเทศไทย ที่มีทั้งมวยไทย มวยสากล และศิลปะป้องกันตัว นานา เป็นเจ้าโลก วงกำปั้น ที่นักสู้ทั่วโลกต้องนอนสดุ้ง เมื่อขึ้นโปรแกรมชกกับนักชกจากแดนสยาม อ่า.. โอ้วว

…เอะ…เอะ..ผม ฝันไป เหรอป่ะ ครับ นิ…

 

News  Photo Credit :: ByYODNAKSU

YouTube Ch. KOM THAIREC

*คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าวเว็บ boxingboy2021.blogspot.com