<<>> ฟังดู..ยังงงๆ กับโปรเจกต์ไอเดีย ล่าสุดของท่านเอี๊ยง TL & Galaxy Boxing Promotion กับรายการใหม่ล่าสุด The Fighter Next Generations ศึกเพื่อเฟ้นหานักชกหน้าใหม่จากทั่วโลก สู่สังเวียนระดับโลกอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จจากรายการ The Fighter ล่าฝันบัลลังค์โลก แต่กับรายการใหม่นี้ อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ ป่ะ เพียงแต่ครั้งก่อนจะเน้นเฉพาะนักชกไทย แต่กับครั้งนี้อินเตอร์ขึ้นหน่อย จะมีนักชกหลากหลายจากต่างชาติ ฟรีสไตล์ว่างั้น ก็ดูๆกันไปนะครับว่า มื่อนี้จะเวิร์ค หรือเปล่า วัดกัน

 

 

ล่าสุด..ทางTL Boxing Promotion ได้เปิดคู่มวยเบ็ดเสร็จ 5 คู่5นักชกต่างแดนขึ้นตะบันหน้ากับนักชกไทยเราเพียวๆ น่าติดตาม เราลองมารู้จักกัน พอเป็นออร์เดิฟ ก่อนชมจริง 5 สิงหาคม ทาง Workpoint ช่อง 23 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป นะครับ

 

 

เปิดหัวคู่แรก #ญี่ปุ่นปะทะไทย ศึกคู่แรกของสังเวียน The Fighter Next Generations เปิดหัวด้วยนักมวยจากดินแดนอาทิตย์อุทัย Japanese “คิโยโตะ นารุคามิ” วัย 20 ปี กับสถิติผ่านสังเวียนมาแล้วหลายไฟต์ ขอท้าดวลกับนักชกชาวไทย “กษิกฤษฎ์ วรรณสุทธะ” ดีกรีเหรียญทองแดงกีฬาแห่งชาติ ณ ศรีสะเกษเกมส์ ปี 2565 เหรียญเงินกีฬากองทัพไทย ปี 2563 และเหรียญทองแดงกีฬาชิงแชมป์แห่งประเทศไทย ปี 2562 ทั้งคู่เปิดศึกในพิกัดน้ำหนัก 52 กก. กำหนดการชก 3 ยก ใครชนะไปต่อ ใครแพ้คัดออก

 

ศึกสังเวียนนักสู้คู่ที่ 2 ในพิกัดน้ำหนัก 58 กก. ของรายการ The Fighter Next Generations เปิดตัวนักชกชาวไทยดีกรีเหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ปี 2562 เหรียญเงินกีฬาแห่งชาติ ปี 2565 และยังเคยได้แชมป์มวยไทยในปี 2018 มาอีกด้วย ถือเป็นนักชกมากประสบการณ์อีกคนอย่าง “สังขพงศ์ โฉมยงค์” ขึ้นสังเวียนผ้าใบปะทะนักชกหน้าใส ชาวอิหร่าน “มาห์ดี ซาเบตาลี” นักชกหนุ่มที่มีประสบการณ์ทั้งมวยไทยและมวยสากลอาชีพมาแล้ว และผ่านสังเวียนมาไม่น้อยเช่นกัน #รับรองความมันส์

 

 

เดือดกันต่อในคู่ที่ 3 กับนักชกในน้ำหนักรุ่น 61 กก. เปิดตัวด้วยนักชกชาวจีน “เซีย เจิ้ง เหว่ย” ผู้เคยประมือดวลหมัดกับ “ดัง ยุทธพงศ์ ทองดี” มาแล้ว ในครั้งนี้เจ้าตัวจะขอล่าฝันใหม่อีกครั้งกับนักชกชาวไทย “อัศยุทธ พันนุมา” นักสู้หนุ่มผู้ผ่านสังเวียนมาหลายไฟต์ พร้อมกับดีกรีเหรียญเงินกีฬาภายในกองทัพบก ปี 2562 , เหรียญเงินชิงแชมป์ประเทศไทย ปี 2562 และเหรียญทองกีฬาแห่งชาติ ปี 2565

 

 

ความมันส์ยังไม่จบ พบกับนักสู้รุ่นใหญ่VSใหญ่ ในพิกัดน้ำหนัก 68 กก. ดวลเดือดบนสังเวียนผ้าใบแบบ 3 ยก โดยการปะทะกันระหว่าง “ริชชี่ ลี่ จวิน ฮิว” นักชกส่งตรงจากประเทศมาเลเซีย พบกับ “บดินทร์ แสงแก้ว” นักชกหนุ่มหล่อหน้าตาดี ผู้เคยผ่านสังเวียน Street Fight มาแล้ว และยังเป็นลูกศิษย์ของ “นน บุญจำนงค์” อีกด้วย

 

 

ปิดท้ายรายการด้วยคู่เอกที่ห้า กับพิกัดน้ำหนัก 56 กก. เปิดตัวนักชกอดีตขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทย “อมฤต เยาว์ดำ” กับดีกรีเหรียญทองแดง เหรียญเงิน และเหรียญทอง ที่กวาดมาแล้วมากมายให้กับประเทศไทย ขอเบนเข็มจากสังเวียนมวยสากลสมัครเล่นเข้าสู่มวยสากลอาชีพแบบเต็มตัว ปะทะกับนักชกจากประเทศแอลจีเรีย จากทีม Cyrus Boxing “ซูไฮล์ มูซา”

 

 

News  Photo Credit :: TL & Galaxy Boxing Promotion

*คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าวเว็บ boxingboy2021.blogspot.com

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments