<<>> ฟิลิปปินส์ผยอง แอสตั้น ปาลิคเต้ (28-4-1) วัย31ปี ตัวเก๋าที่เคยผ่านการชิงแชมป์โลกว่าง Super Fly WBO มาแล้วถึง2ครั้งกับสองตัวดัง อิโอกะ-โดแนร์ แต่กับไฟต์ฟ้าประทาน เปิดโอกาศให้กับเขาขึ้นไปเจอกับนักชกแดนจิงโจ้ เจสัน โมโลนี่ย์ เจ้าของเข็มขัด WBC Silver และรองแชมป์โลก WBC อันดับ 2 พร้อมกับการขึ้นชิงเข็มขัด WBO International ที่ว่างอีกหนึ่ง ในวันที่ 5 มิถุนายน สนามกีฬามาร์เวล สเตเดี้ยม ที่จุผู้ชมถึง 55,000 ที่นั่ง และถือเป็นคู่รองของศึกใหญ่ คัมโบโชส- ฮาร์นี
“ผมรู้สึกขอบคุณมากสำหรับไฟต์นี้กับนักชกที่มีความสามารถสูงอย่าง เจสัน โมโลนี่ย์ ถือว่าโชคดี มันเหมือนฝัน เพราะผมต้องการมานานแล้วกับเกมที่มีความหมาย มีเข็มขัด และมีเส้นทางได้ไปต่อ เมื่อผลนั่นจบลงด้วยชัยชนะของตัวเอง ผมบอกได้เลยว่า ครั้งนี้ผมมีฝัน และผมมาเต็ม 150 นะ” Palicte กล่าวกับสือข่าวแดนจิงโจ้
แอสตั้น ปาลิคเต้ จากเมือง Bago City, Negros Occidental ประเทศฟิลิปปินส์ เขามีความรู้สึกมั่นใจในการเตรียมพร้อมกับการต่อสู้กับเจสัน และเชื่อมั่นในประสบการณ์ ของ โนนอย เนริ ในยิม MP Gym เมืองดาเวา เทรนเนอร์ผู้ฝึกสอนที่เคยอยู่ในทีมของปาเกียว มาแล้ว และเขายังมีความรู้สึกดีดีจาก่รเทรนของ เนรี ด้วยสถิติชนะรวดถึง10ไฟต์ ในช่วงปี 2556 ถึง 2558
ปาลิคเต้ กับอดึตผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลก 2 สมัย เป็นหนึ่งในมือสมัครเล่นระดับท็อปของฟิลิปปินส์ โดยเป็นตัวแทนประเทศของเขาในการแข่งขัน AIBA Youth World Championships ปี 2008 ที่เม็กซิโก และรับเหรียญทองแดงในการแข่งขัน China Open 2010 ที่กุ้ยหยาง ประเทศจีน หลังเทิร์นโปรเมื่อปี2008 โดยเขาหวังว่าจะได้รับชัยชนะเหนือ Moloney เพื่อคว้าแชมป์เข็มขัดWBC Silver ปาดหน้าเจ้านวพล ของเราในการขึ้นแชมป์โลกอีกครั้ง
ส่วน เจสัน Moloney (23-2, 18 KOs) วัย31 มาจากเมือง Mitcham, Victoria, Australia ชนะสองไฟต์ติดต่อกัน นับตั้งแต่แพ้พ่ายให้กับยอดมวย อิโนอุเอะ ในความพยายามครั้งที่สองของการขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นแบนตั้นเวต ไฟต์นี้จึงมีความหมาย เพราะเขาได้ให้สัญญากับทาง WBC ก่อนหน้า หากปราบเจ้า ปาลิคเต้ เสร็จ เขาพร้อมที่จะเปิดศึกกับ นวพล นครหลวงโปรโมขั่น อย่างแน่นอน (วงเล็บ) หากไม่ตกม้าตาย พ่ายเพื่อนปินส์ ไปเสียก่อน..นิ..

