<<>> นับว่าเป็นเรื่องยากมากที่องค์กรศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานระดับโลก 2 รายการ จะจับมือกัน เพื่อร่วมจัดอภิมหาศึกหยุดโลกที่นำนักสู้ของแต่ละสังกัดมาเจอกัน เอาเข้าจริงที่ผ่านมานั้นมีการจัดรายการแข่งขันร่วมกันเช่นนี้เพียงไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์การกีฬาเท่านั้น แม้จะได้รับความสนใจจากทั้งแฟนๆ ระดับฮาร์ดคอร์ และแฟนขาจรเท่าไหนก็ตาม

แต่ นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอของ วัน แชมเปี้ยนชิพ พยายามวิ่งเต้นเรื่องนี้มานานแล้ว และเขาอยากพาฮีโร่นักศิลปะการต่อสู้ของเขาไปเผชิญหน้ากับนักสู้ที่เก่งที่สุดของ UFC โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของวัน แชมเปี้ยนชิพ ได้แชร์คำพูดของนายชาตรีที่ทำให้แฟนๆ ต้องฮือฮา

นายชาตรีกล่าวว่า “ผมพร้อมอ้าแขนรับสุดยอดการแข่งขันระหว่าง ONE vs UFC อยู่แล้ว”

ส่วนทวีตที่ตามมาหลังจากนั้น วัน แชมเปี้ยนชิพ ได้แท็กชื่อของ ดานา ไวต์ ประธานของ UFC เพื่อแสดงเจตนาท้าทาย ทวีตนั้นเขียนว่า “ใครอยากได้บ้าง? ถ้วยรางวัล @yodchatri @danawhite @ufc #WeAreONE #ONEChampionship #ONEVsUFC”

UFC เป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ส่วน วัน แชมเปี้ยนชิพ นั้นก็ยิ่งใหญ่พอๆ กันในเอเชีย ดังนั้นทั้งสององค์กร จึงเป็นภาพสะท้อนกันและกันในหลายภาคส่วน ทั้งในด้านการแข่งขันและมุมมองทางธุรกิจ

นายชาตรี เคยกล่าวไว้มานานแล้วว่า การปะทะกันระหว่างสององค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากสองซีกโลกเป็นอะไรที่เข้าท่ามาก โดยเขาเชื่อว่านักกีฬาของวัน แชมเปี้ยนชิพนั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้นักสู้ของ UFC ต้องตกที่นั่งลำบากเท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถแสดงความเหนือชั้นและคว้าชัยชนะได้อีกด้วย

“ผมอยากเห็นสุดยอดของฝั่งตะวันออกปะทะสุดยอดของฝั่งตะวันตกเป็นที่สุด” นายชาตรีตอบคำถามสื่อผ่านการซักถามทางเฟซบุ้ค ไลฟ์ในปี 2563

“UFC ปะทะ วัน แชมเปี้ยนชิพ ผมคิดว่ามันต้องเป็นปรากฎการณ์แน่นอน ผมว่าคนทั้งโลกต้องดูมัน และผมอยากเห็นแชมป์โลกเจอกับแชมป์โลก ดังนั้นแน่นอน ผมเปิดกว้างให้กับโอกาสนี้”

 

มันยังเป็นที่ชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อว่านักศิลปะการต่อสู้ชั้นนำของ วัน แชมเปี้ยนชิพ ได้รับการประเมินต่ำไปมาก องค์กรมีนักกีฬาในสังกัดมากกว่า 500 คน ใน 500 คนนี้มีทั้งแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้หลายประเภท และอัดแน่นไปด้วยนักสู้ตัวฉกาจในทุกรุ่นน้ำหนัก

เรื่องนี้ถูกแสดงให้เห็นเด่นชัดยิ่งขึ้นในเดือนที่แล้ว ในรายการแข่งขันของวัน แชมเปี้ยนชิพที่ออกฉายทางช่อง TNT ในช่วงไพรม์ไทม์ของอเมริกา

ในซีรีส์การแข่งขันสี่ภาคจบนี้ เราได้เห็นอดีตราชารุ่นไลต์เวตของ UFC “The Underground King” เอ็ดดี อัลวาเรซ เสียอาการหลังจากถูกปรับแพ้ฟาวส์ในการแข่งขันกับนักกีฬาอันดับหนึ่งของแรงกิ้งรุ่นไลต์เวตของ ONE ยูรี ลาปิคัส เขากลับมาสู้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา และพ่ายแพ้ให้กับ อ็อก เร ยุน นักสู้ชาวเกาหลีใต้แบบเป็นเอกฉันท์

 

 

 

 

อดีตแชมป์โลก UFC รุ่นฟลายเวต 12 สมัย “Mighty Mouse” ดิมิเทรียส จอห์นสัน ซึ่งเป็นนักศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลแพ้น็อกเป็นครั้งแรกในอาชีพของเขา และต้องชวดแชมป์ในศึกชิงตำแหน่งของเขากับแชมป์โลก ONE รุ่นฟลายเวตคนปัจจุบัน อาเดรียโน โมราเอส

 

แม้อดีตนักกีฬาดังของ UFC อย่าง อาร์จาน บูลลาร์ และ จอห์น ลินีเคอร์ ก็ไปได้สวยใน ONE แต่ความเป็นจริงที่ว่านักสู้จาก UFC ส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมกับ ONE ตั้งแต่ปี 2561 ล้วนไปไม่ถึงฝั่งฝันเท่าไหร่ บ้างก็แพ้ไม่ครบยก และโดยเฉลี่ยแล้วเกือบทุกคนเคยแพ้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง

ซึ่งรวมถึงความพ่ายแพ้ของ ยูชิน โอกามิ และ โยชิฮิโร อากิยามะ พ่วงด้วย เซจ นอร์ธคัท ที่แพ้น็อก คอสโม อเล็กซานเดอร์ อย่างน่าเจ็บปวดในปี 2562

 

 

ศึกตัดสินว่าใคร? คือนักสู้รุ่นไลต์เวตที่เก่งที่สุดในโลกระหว่าง คริสเตียนลี กับ ชาร์ล โอลิเวียรา การปะทะกันระหว่างนักสู้ตัวท็อปรุ่นฟลายเวต อาเดรียโน โมราเอส และ เดียฟสัน ฟิกูเอร์โด? ราชินีรุ่นสตรอว์เวต ซง จิง หนาน เจอกับแชมป์คนใหม่หมาดๆ โรส นามาจูนาส? และอีกสารพัดการจับคู่ชกที่จินตนาการได้

แต่ที่แน่ๆ คือการประลองระหว่าง UFC กับ ONE จะต้องเป็นอะไรที่น่าหลงใหลชวนให้ค้นหาเป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

@ News  Photo Credit :: matichon sport
 
 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments