<<>> หลังท้าทาย ดูหมิ่นเหยียดหยาม นักชกไทยและประวัติศาสตร์มวยไทย จากต่างแดนส่งต่อถึงยอดมวยไทย ไม่เป็นผล แต่กับกระแสล่าสุดของเจ้า ดฟ เลอดัก จุดติดแล้ว เมื่อมีการขยับ ประสานสามกระทรวง ทั้ง ท่องเที่ยว – ต่างประเทศ-ดิจิทัลฯ พร้อมขอความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ร่วมกันแบน มวยถ่อยฝรั่งหิวแสง ดีกรีแชมป์มวยพม่า โพสต์ข้อความดูหมิ่นเหยียดหยาม นักมวยไทยและประวัติศาสตร์มวยไทย
เมื่อ 2 พ.ค.64 นายประสพ เรียงเงิน รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงกรณี “เสี่ยโบ๊ท” นายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ค่ายมวยเพชรยินดี โพสต์ข้อความของ นายเดฟ เลอดัก นักมวยชาวแคนาดา เป็นแชมป์มวยเลธเว่ย ของพม่า เขียนข้อความโพสต์ลงในเฟซบุ๊คส่วนตัวดูหมิ่นเหยียดหยามมวยไทยและประวัติศาสตร์มวยไทย
โดยแสดงความคิดเห็นตํานานมวยไทยนายขนมต้มเป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้นนั้น วธ.ขอชี้แจงว่า ศิลปะการต่อสู้ ที่เรียกว่า “มวย” เป็นมรดกร่วมทางวัฒนธรรม ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ลาว พม่า และ กัมพูชา ซึ่งอาจมีชื่อเรียกมวยที่แตกต่างกัน
โดย “มวยไทย” เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวและกีฬา ซึ่งประเทศไทยมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับมวยไทยมีร่องรอยพัฒนาการมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ เริ่มชัดเจนขึ้นในสมัยทวารวดี รุ่งเรืองในสมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีกลวิธีในการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ มือ เท้า เข่า ศอก อย่างละ 2 ศรีษะอีก 1 รวมเรียกว่า นวอาวุธ อย่างผสมกลมกลืนกัน
โดยในปัจจุบันได้ปรากฏหลักฐานเป็นตำราแม่ไม้มวยไทยและครูมวยไทยในภาคต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น ภาคเหนือ มวยท่าเสา อุตรดิตถ์ ภาคอีสาน มวยโคราช ภาคกลาง มวยลพบุรี ภาคใต้มวยไชยา ปัจจุบันกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้ขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมข้อมูลได้จาก http://ich.culture.go.th/
นายประสพ กล่าวอีกว่า มวยของแต่ละประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างมีแบบฉบับมวยของตนเอง ซึ่งทุกชาติมีความเข้าใจและภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเอง รวมถึงให้ความเคารพและยอมรับซึ่งกันและกัน ซึ่ง วธ.ไม่เห็นด้วยกับการที่ นายเดฟ เลอดัก ที่ไม่ได้ศึกษาถึงประวัติศาสตร์มวยของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง และมาแสดงความคิดเห็นดูหมิ่นเหยียดหยามมวยไทยและประวัติศาสตร์มวยไทย ทั้งนี้ วธ. ขอตำหนิต่อการกระทำดังกล่าวและขอเรียกร้องให้นายเดฟ เลดัก ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษอย่างจริงใจ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น วธ.จะประสานกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้ดำเนินการหรือมีมาตรการลงโทษกับ นายเดฟ เลดัก ตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งขอความร่วมมือคนไทย สมาคม องค์กรมวย ภาครัฐและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในไทยและต่างประเทศประกาศรายชื่อเป็น บุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ (blacklist) ของไทย หรือปฏิเสธการให้เข้าร่วมกิจกรรมหรือร่วมดำเนินธุรกิจต่างๆ จนกว่า นายเดฟ เลอดัก จะออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมครั้งนี้
นายประสพ กล่าวด้วยว่า วธ.ขอขอบคุณ นายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ค่ายมวยเพชรยินดี ,บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง รวมถึงสมาพันธ์มวยพม่า ที่ช่วยกันเผยแพร่และชี้แจงข้อมูลต่อสาธารณะ อีกทั้งร่วมกันตำหนิ และกำหนด blacklist ต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมของ นายเดฟ เลอดัก
อย่างไรก็ตาม ขอให้คนไทยในวงการมวยไทยและคนไทยทุกคนเข้าใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำส่วนบุคคลของชาวต่างชาติที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคนไทย ชาวพม่า และ ชาวแคนาดา โดยรวม จึงขอให้ระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นที่อาจจะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจผิดหรือกระทบความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับพม่า หรือ แคนาดาด้วย
@ News Photo Credit :: Khaosod Sports – ข่าวสดกีฬา
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ.
