<<>> แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ อดีตแชมป์โลกวัน มวยไทย และคิกบ็อกซิง รุ่นอะตอมเวต ออกมาเผยว่ารู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมากกับข่าวเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยซูเปอร์สตาร์กำปั้นสาววัย 23ปี ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในแปดนักกีฬา เข้าร่วมศึกวัน อะตอมเวต เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานใหญ่ของ วันแชมเปียนชิพ เป็นผู้ประกาศเองโดยตรงผ่านเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการในสัปดาห์ที่ผ่านมา สาวแสตมป์จะได้ร่วมลุยศึกนี้กับ เดนิส แซมโบอันกา รองอันดับ1, เมง โบ รองอันดับ2, ริตู โฟกาต แชมป์มวยปล้ำของอินเดีย, อิตซูกิ ฮิราตะ สาวไร้พ่ายชาวญี่ปุ่น, ซอ ฮี ฮัม จอมเก๋าจากเกาหลีใต้, อัลโยนา ราสโซฮีนา และ อลิส แอนเดอร์สัน
ด้านแสตมป์เองก็ทราบดีว่า ทัวร์นาเมนต์นี้เต็มไปด้วยการแข่งขันระดับสูง แต่เธอเองก็พร้อมจะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่กำลังรออยู่เช่นกัน
“แสตมป์ดีใจมากที่ถูกเลือกให้เข้าแข่งขันกรังด์ปรีซ์นี้ รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับบรรดาคนเก่งที่สุดในรุ่น แสตมป์รู้ตัวเองดีว่ามีอะไรต้องพัฒนาอีกเยอะในการสู้เกมนอนสำหรับกติกา MMA ซึ่งตอนนี้แสตมป์มีไฟมากขึ้นกว่าเดิม” แสตมป์กล่าว
“แสตมป์ได้เรียนรู้อะไรมากมายใน 2-3 ไฟต์ล่าสุดที่ผ่านมา พร้อมแล้วค่ะที่จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้กับไฟต์ในอนาคตของตัวเอง”
สำหรับผู้ชนะของทัวร์นาเมนต์นี้จะได้โอกาสขึ้นสังเวียนชิงเข็มขัดกับ “Unstoppable” แองเจลา ลี แชมป์โลกวัน รุ่นอะตอมเวตหญิง ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราชินีของรุ่นนี้ได้ให้กำเนิดบุตรคนแรกเรียบร้อย
โดยคาดกันว่า ลีจะพร้อมเต็มสูบในช่วงเดือนพฤศจิกายน แม้ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะได้โอกาสนั้นไปครอง แต่แสตมป์รู้สึกว่าใครก็ตามที่ชนะเลิศทัวร์นาเมนต์นี้ คนนั้นก็เหมาะสมที่สุดสำหรับการได้ท้าชิงบัลลังก์กับลี
“แสตมป์ว่าทัวร์นาเมนต์นี้คือวิธีที่ดีในการหาตำแหน่งผู้ท้าชิงแชมป์โลก”
“เห็นชื่อแต่ละคนแล้ว ทุกคนคือหญิงแกร่งทั้งนั้น ดีใจมากค่ะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วงชิงโอกาสครั้งนี้ รุ่นอะตอมเวตหญิงนี่เป็นหนึ่งในรุ่นที่โหดหินสุด แล้วใน วันแชมเปียนชิพ” แสตมป์กล่าว
ศึกวัน อะตอมเวต เวิลด์กรังด์ปรีซ์ จะระเบิดความมันขึ้นในไม่ช้า และทางวันแชมเปียนชิพ เองก็จะประกาศวันเวลาให้ทราบในเร็วๆนี้
โดยโปรแกรมของแสตมป์ในรอบแรกของรายการนี้จะถูกเผย อย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่ไฟต์ที่อาจเกิดขึ้นคือการที่แสตมป์จะได้ดวลกับ เดนิส แซมโบอันกา รองอันดับ1 ชาวฟิลิปปินส์
สำหรับแสตมป์ และแซมโบอันกา มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ทั้งคู่ได้ฝึกซ้อมด้วยกันที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ เมืองพัทยา เมื่อช่วงปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ถ้าหากต้องได้ขึ้นเวทีบู๊กัน แสตมป์เองก็ยินดีที่จะสู้เต็มที่กับเพื่อนคนนี้ โดยระบุว่าจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยามเมื่ออยู่นอกสังเวียน
“เดนิสมีพรสวรรค์และเป็นนักสู้ที่เก่ง แสตมป์รู้ดีว่าเธอซ้อมหนักแค่ไหน และรู้ด้วยว่าเธอเก่งพอจะเป็นผู้ชนะในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย หากเราต้องเจอกัน มันจะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแน่นอน มันก็แค่การประลองฝีมือกันเท่านั้น”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เดนิสจะยังเป็นเพื่อนแสตมป์เสมอ แต่ในกรงแล้ว เราเป็นเพียงแค่นักกีฬาที่มุ่งพัฒนาฝีมือตัวเองให้เก่งขึ้น และหวังทดสอบตัวเองกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในกีฬาประเภทนี้” แสตมป์ทิ้งท้าย
@ ข่าวและบทความ โดย bossum
