<<>> ก่อนอำลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่ SMMSPORT โดยทีมงาน SMM มวยไทยรายวัน รวบรวมและเรียบเรียงข่าวเด่นดังและเรื่องราวที่ชาวมวยพูดถึง มีอะไรบ้าง ตามไปดูกัน

 

 วันชัย VS ตี๋ ทีเด็ด คู่ดวลเดือดเลือดกระเซ็น 

 

 ข่าวดังแห่งปีที่ต้องนำเสนอเห็นจะหนีไม่พ้น ข่าวคู่ดวลเดือดเลือดกระเซ็นเป็นข่าวดังในชั่วเวลายังไม่ข้ามคืนของชั่วโมง ด้วยการเผยแพร่คลิปภาพของ “รองอ๊อด สารคาม” ผู้สื่อข่าว SMM SPORT ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นรายการ “ศึกเพชรวิทยา” คู่เอกระหว่าง ฤทธิเดช ศิษย์ครูเดช ป้องกันแชมป์รุ่นมินิฟลายเวต ชนะคะแนน หยกเงิน เดชเพชรสีทอง  ซึ่งฝั่งผู้แพ้ซ้อมอยู่ที่ค่าย “ทีเด็ด 99” ของ “ตี๋ ทีเด็ด 99” หรือ สรศักดิ์ แซ่ตั้ง โดยมี น.อ.วันชัย ผ่องศรี เป็นกรรมการผู้ตัดสิน     

                          

     

  กรรมการ วันชัย ผ่องศรี   

 

 มวยคู่นี้  ตามเกม ฤทธิเดช ได้เปรียบชัดเจนในยกที่ 3 และยกที่ 4 แต่ในจังหวะที่ ฤทธิเดช เสียหลักล้มลง จังหวะนั้น หยกเงิน พยายามเข้าไปเตะซ้ำ แต่ไม่ถูกเหมือนว่ายั้งๆ จึงถูกกรรมการวันชัยตักเตือน รวมถึงช็อตการห้ามช่วงคลุกวงใน  ทั้งสองจังหวะนี้ กองเชียร์ฝั่ง ตี๋ ทีเด็ด เห็นว่า กรรมการวันชัย ตัดสินเข้าข้าง เอนเอียง กดตูด หยกเงิน จึงมีการตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง ทำให้ น.อ.วันชัย อดกลั้นไม่ได้จึงมีการท้าทายกันไปมา จนถึงขั้นเปลี่ยนตัวกรรมการผู้ห้ามบนเวที 

 

      ตี๋ ทีเด็ด 99 สภาพบอกช้ำหลังดวลกำปั้น น.อ.วันชัย

 

 น.อ.วันชัย ตัดสินใจเดินออกจากเวทีเพื่อขึ้นรถกลับ แต่ระหว่างนั้น  “ตี๋ ทีเด็ด 99” ก็พาพรรคพวกไปตามหา เปาอดีตนักชกทีมชาติถึงลาดจอดรถ ข้างๆเวทีราชดำเนิน ในพื้นที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อเจอตัว ตี๋ เดินรี่เข้าไปปะทะกำปั้นด้วยก่อนเกิดเหตุชุลมุนกัน เพราะมีพวกของตี๋เข้ามาร่วม บางส่วนเข้ามาห้ามปราบแต่ห้ามไม่ไหว จนเลือดกระเด็นกระเซ็นด้วยกันทั้งสองฝ่าย กลายเป็นข่าวดังยังไม่ทันข้ามคืน

           

        น.อ.วันชัย และ ตี๋ ทีเด็ด 99 จับมือเคลียร์ปัญหา

 

 ภายหลังคืนวันเดียวกัน ตี๋ ทีเด็ด 99  ไปแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง และวันรุ่งขึ้น น.อ.วันชัย ก็เดินทางไปแจ้งความที่ สน.เดียวกัน แต่พอถึงวันเสาร์ที่ 21 พ.ย. พล.อ.ต.สมยศ จุลเสน ได้พา น.อ. วันชัย ไปเคลียร์กันบนโรงพัก ตามคำขอให้เลิกแล้วต่อกัน  เรียกว่าเป็นคู่ดวลเดือดแต่จบเร็วเกินคาด

 เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทีมงาน SMM SPORT มวยไทยรายวัน ลงมติยกให้เป็นข่าวดังแห่งปี 2563

 

 “ความแตก”…แห่งปี…หรือ..ข่าวลวงแห่งปี….

 

 ข่าวลวงหลอกแห่งปีเห็นทีจะต้องยกให้ข่าว รายการมวยคู่ดังระหว่าง “ซ้ายอุกาบาตร”กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ขึ้นตะบันกับ แสงมณี คลองสวนพลูรีสอร์ท หรือปัจจุบันใช้สีเสื้อ ส.กาแฟมวยไทย ที่ทางรายการ ONE Championship แถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมให้แฟนมวยคอยติดตามชมการ “ถ่ายทอดสด” โดยมีการประชาสัมพันธ์ช่องทางให้ชม เพราะเป็นการจัดชกแบบระบบปิด ไม่ให้แฟนมวยเข้าชม พร้อมกับมวยคู่อื่นๆเพราะเป็นรายการแบบ เปเปอร์วิว

 

 อย่างไรก็ตามต่อมาปรากฏว่าโลกโซเชี่ยลพากันตั้งต้อสงสัยว่ามวยคู่นี้ “น่าจะ” ชกกันไปแล้ว เนื่องจากจับข้อพิรุธได้จาก ราคาโต๊ะเรต ออกต่อรองที่ผิดสังเกต ตามชื่อชั้น แสงมณี ต้องเป็นต่อเหนือกว่า กุหลาบดำ อย่างแน่นอน แต่ราคากลับพลิกกลับหัวกลับหาง อันเนื่องมาจากนักมวยที่ชกในรายการเดียวกับ แสงมณี โพสต์เฟสบุ๊คส์ ออกมาให้แฟนมวยจับไต๋ได้ แม้ว่าจะลบโพสต์ของตัวเองไปแล้วก็ตามที แต่โลกฌโซเชี่ยลก็ไปเร็วเกินกว่าจะยั้งยั้งได้ 

 

 ในช่วงแรกดวันแชมเปียนชิพ ยังสงวนท่าที แต่ในที่สุด เมื่อ”ความแตก” ไม่อาจต้านการตรวจสอบจากโลกโซเชี่ยล เพราะเมื่อสอบถามนักมวยที่ร่วมรายการชกต่างอึกๆอักๆ ในที่สุดทาง ONE จึงได้แถลงด่วนภายหลัง ขอให้ดูเพื่อความบันเทิง

 โดย ในวันที่ 20 ส.ค. วัน แชมเปียนชิพ ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการจัดแข่งขันของ วัน แชมเปียนชิพ หลังมีกระแสข่าวออกมาว่าการชกในวันที่ 21 ส.ค.ที่จะถึงนี้ มีการชกไปแล้ว 

 

 วัน แชมเปียนชิพ องค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ซึ่งจัดการแข่งขันในรูปแบบของ “สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์” เพื่อให้เกิดความบันเทิงแก่แฟนๆ ผู้รักศิลปะการต่อสู้ 

     

        กรรมการ ยงค์ศักดิ์ ณ สงขลา ชูมือให้กับ กุหลาบดำ

 

 สำหรับผลการแข่งขันศึก ONE: NO SURRENDER III  คู่เอกทัวร์นาเมนต์ “แสงมณี คลองสวนพลูรีสอร์ต” -ซ้ายอุกกาบาต “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” กุหลาบดำ เข้าไปฮุกซ้ายเข้าเต็มกระดงคาง ส่ง แสงมณี ลงไปหลับทั้งยืนในนาทีที่ 2.45 ของยกแรก  มีกรรมการ ยงค์ศักดิ์ ณ สงขลา เป็นกรรมการบนเวที และในช่วงถ่ายทอดเทป กรรมการยงศักดิ์ ก็ได้ไปเป็นกรรมการห้ามมวยอีกเวทีในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยทีจะวิ่งรอกก้ามมวย 2 เวลาในช่วงเวลาที่ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง 

 

 ข่าวนี้ทาง SMM SPORT มวยไทยรายวันจึงยกให้เป็นข่าว …“ความแตก” แห่งปี….หรือ ข่าวลวงแห่งปี 

 มาถึงข่าวดังอันดับ 1 แห่งปี และแห่งศตวรรษ เชื้อ ไวรัส โควิด-10 ระบาดโลก

 

 ข่าวดังแห่งปี 2563 เห็นทีจะหนีไม่พ้น ข่าวเชื้อไวรัส โควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก ตกเป็นข่าวอันดับ 1 ของโลกแน่นอน  ประเทศไทยก็หนีไม่พ้นต้องปิดประเทศไปนานหลายเดือนเหมือนหลายๆประเทศทั่วโลก  คุณภาพและวิถีชีวิตและเศรษฐกิจทุกคนต่างได้รับผลกระทบไปตามๆกัน จนมีคำศัพท์เกิดขึ้นไป นิวนอร์มอล  New Normal หรือ ปกติใหม่ ความใหม่ที่เป็นปกติ ในการต้องอยู่ร่วมกันโดยเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย กลายเป็นวันที่โลกจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

 

 ผลร้ายจากไวรัสดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงกับวงการมวยเมืองไทย อีกทั้ง คนวงการมวยถูกตั้งข้อหาตกเป็นจำเลยของสังคมจากบุคคลภายนอกอีกต่างหาก

 

      ป๋อง และ แม็ทธิวดีน ออกมาเปิดเผยว่าติดโควิดในช่วงแรก

 

 สังคมไทยตัดภาพเริ่มต้นเอาที่ เหตุรายการมวยนัดใหญ่มีแจกรถเก๋งใน “ศึกลุมพินีแชมเปี้ยนเกียรติเพชร” เมื่อวันที่ 6 มีนาคม มีแฟนมวยเข้าชมจำนวนมาก ถัดจากนั้นต่อมาไม่กี่วัน พิธีกรคนดัง แม็ทธิว ดีน ผู้เป็นโฆษกในรายการมวยวันดังกล่าว ได้ประกาศตัวเองติดเชื้อ ไวรัส วิด-19  จากนั้น คนวงการมวยก็ทยอยกันประกาศเปิดเผยตัวเองว่าได้ติดเชื้อไวรัสเช่นเดียวกัน โดยมีผู้เปิดเผยชื่อทั้งหมด 116 ราย(บางรายขอปกปิดชื่อ) กลายเป็นข่าวดังต่อเนื่องยาวนาน 2-3 เดือน 

 

 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ในฐานะประธานอำนวยการสนามมวยเวทีลุมพินี มีคำสั่งปลด พล.ต. ราชิต อรุณรังษี นายสนามมวยผู้พร้อมผู้บริหารทั้งหมด 

 สนามมวยทุกสนามทั่วประเทศถูกทางการสั่งห้ามจัดการแข่งขันทั่วราชอาณาจักร

 

 ข่าวคนวงการมวยติดเชื้อไวรัสโควิด กลายเป็นข่าวดังต่อเนื่องยาวนาน บุคคลในวงการมวยตกเป็นจำเลยต่อสังคม ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ทางการสั่งงดการแข่งขันชกมวยเป็นเวลายาวนานถึงเกือบ 6 เดือน  โดยมีเวทีมวยลุมพินีกว่าจะได้กลับมาจัดอีกครั้งเป็นเวทีสุดท้าย หลังจากปิดไปนานถึงกว่า 7 เดือน  โดยเวทีมวยสยามอ้อมน้อย-เวทีราชดำเนิน เวทีมวยรังสิต-เวทีมวยธนธรสเตเดี้ยม-เวทีมวย อตก. 3 นนทบุรี จะทยอยเปิดจัดการแข่งขันไปก่อนกน้านี้แล้ว

 

 การแพร่กระจายเชื้อไวรัส โควิด-19  จึงไม่ใช่ข่าวดังแห่งปี หากแต่เป็นข่าวดังแห่งทศวรรษ หรือกลายเป็นข่าวดังแห่งศตวรรษเลยทีเดียว เพราะทั่วทุกมุมโลกได้รับผลกระทบกันทั่วหน้านั่นเอง 

  ปีที่เครื่องบินหยุดบิน-คนใส่หน้ากากหาเข้ากัน-สถานท่องเที่ยวดังร้าง-ถนนแทบทั่วประเทศโล่ง-ธุรกิจเจ๊ง-ผู้คนต่างเพราะโรคเดียวกันนับหมื่นนับแสน –ป่วยทะลุเป็นสิบๆล้าน-เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย นี่ไม่นับเมืองไทยที่ เชงเม้ง-สงกรานต์ ถูกงดไปโดยปริยาย

 

 
@ News  Photo Credit :: smmsport.com
 
 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ.

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments