<<>> หลังจากที่กำปั้นแถวหน้าของพิกัด 115 ปอนด์ จูงมือพาเหรดคว้าชัยทั้ง 3 คนในไฟต์ล่าสุดของพวกเขา ไล่ไปตั้งแต่ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ที่ปิดบัญชี โจมาร์ ฟาจาโด้ ได้เพียงแค่ยกที่ 2 เท่านั้น ด้าน ”ช็อกโกลาลิโต้” โรมัน กอนซาเลซ ยังคงแข็งแกร่งบดแต้ม อิสราเอล กอนซาเลซ ไปแบบเอกฉันท์ ส่วน “เอล กัลโล่” ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า เกือบไม่รอดก่อนจะฮึดไล่ถลุง คาร์ลอส คูเอดราส ร่วงยกที่ 11
.jpg?ssl=1)
ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกของ สภามวยโลก 2 สมัย ต้องลงทำศึกอุ่นเครื่องโดยมีกำหนด 8 ยกกับทาง โจมาร์ ฟาจาโด้ นักชกชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งการชกจบลงแค่ยกที่ 2 เท่านั้น เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา แม้ว่าไฟต์นี้อาจจะไม่ได้เห็นอะไรมากมายนักเ แต่สิ่งที่มันเด่นออกมาคือแววตาและความมุ่งมั่นของ “เจ้าแหลม” การออกหมัดของเขาเน้นมากขึ้นแม้จะมีวีดอยู่บ้างแต่ก็ยังถือว่าน่าพอใจ
หากใครยังห่วงเรื่องเรี่ยวแรงคงต้องบอกว่าไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เพราะไฟต์ก่อนหน้านี้ที่ทาง ศรีสะเกษ ลงอุ่นหมัดกับทาง อำนาจ รื่นเริง เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าตลอด 10 ยก ที่เขาเปิดเกมเดินลุยไม่มีอาการแผ่วให้เห็นเลย นั้นหมายความว่าพละกำลังกลับมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทว่าเรื่องการการป้องกันตัวยังคงน่าเป็นห่วงอาจจะต้องแก้ไขและปรับปรุงเป็นการด่วน
”ช็อกโกลาลิโต้”
โรมัน กอนซาเลซ แชมป์โลกของ สมาคมมวยโลก (WBA) ชาวนิการากัว ลงป้องกันตำแหน่งกับทางผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกันอย่าง อิสราเอล กอนซาเลซ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยตลาด 12 ยก ทางอดีตกำปั้นเบอร์ 1 โลก เป็นฝ่ายเปิดเกมเดินบดซึ่งเขาทำได้ดีมากและเนียนตาสุดๆ แม้ช่วงปลายจะมีอาการแผ่วให้เห็นอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย จบ 12 ยก ”ช็อกโกลาลิโต้” เอาชนะแต้ม ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกัน ไปแบบเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 118-110,117-111 และ 116-112
“เอล กัลโล่”
ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า แชมป์โลกของ สภามวยโลก (WBC) และเดอะริง ชาวเม็กซิกัน ต้องขึ้นป้องกันตำแหน่งกับอดีตแชมป์โลกเพื่อนร่วมชาติอย่าง คาร์ลอส คูเอดราส ซึ่งทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วโดยทาง “เอล กัลโล่” เป็นฝ่ายเฉือนแต้มมาแบบฉิวเฉียด ไฟต์นี้ดูเหมือนว่าทาง เอสตราด้า จะผิดฟอร์มไปพอสมควร เกมผ่านไปแค่ยก 3 เท่านั้นทางแชมป์โลกถูกสอยเข้าเต็มคางจนต้องโดนกรรมการนับ 8 ไป จากทีเด็ดหมัดฮุคซ้ายของ คูเอดราส
จากนั้นรูปเกมของ เอสตราด้า ก็ไม่ได้ดูดีขึ้นมากมายนักแม้ว่าเขาจะพยายามเร่งเครื่องเดินบุก ทว่าดันเดินไปชนตอโดนหมัดชุดของผู้ท้าชิงจนเกือนหล่นไปหลายหน ทว่าจุดเปลี่ยนอยู่ที่ช่วง 12 วินาทีแรกของยกที่ 11 โดยทาง เอสตราด้า ยิงหมัดฮุคซ้ายเข้าขมับจนหน้าสะบัดก่อนจะซ้ำด้วยฮุคขวาส่ง คูเอดราส ลงไปให้กรรมการนับ 8 แม้ว่าผู้ท้าชิงจะพยายามยืนขึ้นมาแต่ก็ไม่สามารถต้านทานพายุหมัดของ “เอล กัลโล่” ได้จนโดนต่อยร่วงไปอีกครั้ง ถึง คูเอดราส จะกัดฟันกระเสือกกระสนยืนขึ้นมาได้อีกรอบแต่ก็ไม่รอดโดนแชมป์ถล่มหมัดจนกรรมการต้องยุติการชก ทำให้ทาง เอสตราด้า เอาชนะทีเคโอ คูเอดราส ไปได้ในยกที่ 11
ทว่าสิ่งที่เห็นหลังการชกไฟต์นี้คือฟอร์มของ “เอล กัลโล่” ที่ชกได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และถ้ามองกันแบบเป็นกลางบอกได้เลยว่าหากแมตช์นี้จบแบบครบยกเข็มขัดมีโอกาสเปลี่ยนมือสูงมาก ซึ่งทาง คูเอดราส ทำได้ดีมากแต่ดันพลาดโดนหมัดปาฏิหาริย์ของ เอสตราด้า ไปเสียก่อน สวนทางกับแชมป์เปี้ยนโลกที่ดูเหมือนว่าจะชกได้ไม่ค่อยน่าประทับใจนักทั้งความเร็วที่เคยเป็นจุดเด่นแต่ไฟต์นี้กลับหายไป หรือแม้แต่การป้องกันตัวเองก็ถือว่าสอบตกโดยข้อบ่งชี้คือสภาพหน้าตาของแชมป์ที่มีทั้งแผลแตกและรอยบอบช้ำอยู่พอสมควร
“สิ่งที่จะเกิดอาจจะขึ้นในอนาคต”
กรณีที่ 1. โรมัน ชน เอสตราด้า โอกาสที่จะเกิดขึ้น 70%
ต้องยอมรับว่ากระแสตอนนี้อยากให้ทั้งคู่ขึ้นรีแมตช์กันอีครั้ง ซึ่งกูรูทั่วโลกต่างฟันธงว่าไฟต์ โรมัน กับ เอสตราด้า เกิดขึ้นแน่นอน ทว่าตัวแปรสำคัญที่อาจจะทำให้ไฟต์นี้ไม่เกิดขึ้นคือ ศรีสะเกษ กับ โจชัว ฟรังโก้ แชมป์ (WBA) ภาคธรรมดา ที่อาจใช้สิทธิ์ขอขึ้นชิงแชมป์ไฟต์บังคับ ทว่าว่ามันก็ไม่ง่ายเพราะในตอนนี้แฟนมวยไม่น้อยที่อยากจะให้คู่นี้ขึ้นฟาดปากกัน
แถมในปัจจุบันยังอยู่ในสถานการณ์โควิดทำให้ไม่สามารถให้แฟนมวยเข้าไปชมในสังเวียนได้ นั้นหมายความว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจาก เปย์-เปอร์-วิว ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสดผ่านทางระบบสตรีมมิ่งและทีวีเท่านั้น จึงทำให้การประกบคู่อาจจะต้องจัดตามเสียงแฟนมวยที่เรียกร้อง และถ้าหากมันเป็นแบบนั้นทาง ศรีสะเกษ ต้องรอผู้ชนะจากในศึกล้มแชมป์
กรณีที่ 2. ศรีสะเกษ ดวล เอสตราด้า โอกาสที่จะเกิดขึ้น 50%
โดยทางก่อนหน้านี้ทาง สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ บอสใหญ่นครหลวงโปรโมชั่น เปิดเผยว่า ”ไฟต์นี้ถือเป็นไฟต์เคาะสนิมให้กับศรีสะเกษ เพื่อเตรียมตัวไปชิงแชมป์โลกในปีหน้า ตนจะผลักดันให้ชิงกับผู้ชนะระหว่าง เอสตราด้า – คูเอดราส ภายในเดือนมีนาคมปีหน้าแน่นอน” โดยทาง ”เสี่ยฮุย” อาจจะต้องไปถกกับทาง สภามวยโลก หรือ (WBC) เพื่อให้ทาง ศรีสะเกษ ได้ขึ้นชิงตำแหน่ง หรืออาจจะเปิดโต๊ะเจรจากับทาง เอ็ดดี เฮิร์น ประธานของ แมตช์รูม บ็อกซิ่ง ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ศรีสะเกษ และ เอสตราด้า เพื่อให้ได้ทางออกในครั้งนี้
กรณีที่ 3. ศรีสะเกษ รีแมตช์ คูเอดราส โอกาสที่จะเกิดขึ้น 20%
หากว่าศึกล้มแชมป์ระหว่าง โรมัน กับ เอสตราด้า ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แล้ว มันก็จำเป็นที่ทาง ศรีสะเกษ ต้องหาคู่ชกคนใหม่ซึ่ง คูเอดราส เหมาะสมมาก และทั้งคู่เคยพบกันมาแล้วเมื่อปี 2014 ทว่าไฟต์นั้นมันมีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่ศีรษะชนกันจนทาง คูเอดราส มีบาดแผลยาวที่คิวซ้ายจนทำให้ทางกรรมการต้องยุติการชกในยกที่ 8 เพื่อนับแต้ม
สุดท้ายไฟต์นั้นจบลงด้วยการที่ยอดมวยชาวไทยพ่ายคะแนนและต้องเสียแชมป์โลกไป แม้ทางทีมงานของ นครหลวงโปรโมชั่น ได้มีการประทวงแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งถือว่าน่าเสียดายมากเพราะโมเมนตัมของเกมมาอยู่กับทาง ศรีสะเกษ หมดแล้ว หากได้ชกต่อโอกาสที่จะแพ้แทบไม่มี
และนั้นมันอาจจะทำให้ไฟต์นี้เกิดจริงได้ขึ้นได้ แถมผลงานของ คูเอดราส ในการพบกับ เอสตราด้า ถือว่าเข้าตาไม่น้อย และเชื่อว่าการชกครั้งนี้น่าจะมีผลตอบรับดีอย่างแน่นอน ในศึกสะสางความคาใจที่ค้างคามากว่า 6 ปี ซึ่งนั้นมันขายได้และมันทำเงินได้อย่างแน่นอนในศึกครั้งนี้ และหากว่าไฟต์นี้จบลงด้วยชัยชนะของเจ้าแหลมก็คงถึงเวลาที่เขาจะได้กลังมาทวงบัลลังก์แชมป์คืน
