@ ฟ้าลั่นจูเนียร์ วัย26ปี ลูกชายของฟ้าลั่น ลูกมิ่งขวัญ หรือ ฟ้าลั่น ศักดิ์กรีรินทร์ อดีตแชมป์โลกรุ่นมินิมั่มเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) และอดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สหพันธ์มวยโลก (WBF) [1] ฟ้าลั่นจูเนียร์ชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553 ชนะน็อคยกแรก วิสันต์เล็ก ศิษย์ทรายทอง ต่อจากนั้น ทำสถิติชกชนะอย่างต่อเนื่อง มีแพ้อยู่ 2 ครั้ง ต่อ สามารถเล็ก ชัยยงค์ยิม และ ยอดพิชัย ศิษย์ทรายทอง ตามลำดับ โดยเป็นนักมวยในโครงการ “ปตท.พลังกำปั้นไทย เพื่อไทย” เคยชกมวยสากลสมัครเล่นแล้วครั้งหนึ่งในนามของสโมสรเกียรติกรีรินทร์ 

 

 

ฟ้าลั่นจูเนียร์มีผลงานที่สร้างชื่อ คือ การเอาชนะน็อก เรียว มิยะซะกิ อดีตแชมป์โลกรุ่นมินิมัมเวท สมาคมมวยโลก (WBA) ถึงประเทศญี่ปุ่นที่เป็นถิ่นของมิยะซะกิเอง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ซึ่งตรงกับวันสิ้นปี

 

ฟ้าลั่นจูเนียร์ได้ขึ้นชิงแชมป์เส้นแรกของตนเอง โดยเป็นการชิงแชมป์สหพันธ์มวยนานาชาติเอเชีย (IBF Asia) ในรุ่นไลท์ฟลายเวท กับ อาร์มันโด เดลาครูซ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ผลปรากฏว่า ฟ้าลั่นจูเนียร์ชนะคะแนน คว้าแชมป์สหพันธ์มวยนานาชาติเอเชีย (IBF Asia) ในรุ่นนั้นมาครองได้ ต่อจากนั้นป้องกันตำแหน่งไว้ได้ครั้งหนึ่ง ก่อนจะได้รับโอกาสชิงแชมป์โลกทันที ในรุ่นมินิมั่มเวท ของ IBF กับ คะซุนะริ ทะกะยะมะ แชมป์โลกชาวญี่ปุ่น โดยทั้งคู่ชกกันในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558 โดยชกกันที่เพอร์เฟคทูรัล โคลิเซียม นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงยกที่ 7-8 สามารถชกให้ทะกะยะมะมีแผลแตกที่ใบหน้าได้ ทำให้ในช่วงยกที่ 9 ต้องยุติการชก และรวมคะแนน ปรากฏว่า ทะกะยะมะชนะแตกไปได้ ทำให้ฟ้าลันจูเนียร์ชิงแชมป์โลกไม่สำเร็จ ซึ่งหลังการชกประมาณเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน สหพันธ์มวยนานาชาติ พิจารณาเทปการชกแล้วเบื้องต้นพบว่า แผลแตกเกิดจากการถูกหมัด มิได้เกิดจากถูกศีรษะชนกัน ทางสหพันธ์มวยนานาชาติได้สั่งให้ทั้งสองชกกันใหม่อีกครั้ง

 

 

แต่ทางฝ่ายทะกะยะมะก็ได้ประท้วงกลับเพื่อกดดันมิให้ทางสหพันธ์มวยนานาชาติ สั่งให้มีการชกใหม่ ต่อมาในปลายเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน เมื่อมีการพิจารณาอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าทางสหพันธ์มวยนานาชาติลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุศีรษะชนกัน จึงไม่ได้มีการชกใหม่

 

หลังจากนั้นฟ้าลั่นจูเนียร์ก็กลับขึ้นไปชกในรุ่นไลท์ฟลายเวทอีกครั้ง และได้แชมป์แพนแปซิฟิก IBF มาได้จากการเอาชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ต่อ เลสเตอร์ อาบูตัน นักมวยชาวฟิลิปปินส์ในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 ที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ [5] และในปลายปีเดียวกัน ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ฟ้าลั่นจูเนียร์ก็ได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์เฉพาะกาลที่ว่างในรุ่นไลท์ฟลายเวท IBF เพื่อสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์โลกพ่อ–ลูกคู่แรกของไทย กับ มิลาน เมลินโด นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยเซบูโคลอสเซียม บนเกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ผลปรากฏว่าทั้งคู่แลกหมัดกันดุเดือด เมื่อครบ 12 ยก ฟ้าลั่นจูเนียร์เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปแบบเอกฉันท์ 117–111 และ 115–113 ทั้ง 2 เสียง [6] ใน พ.ศ. 2560 ฟ้าลั่นจูเนียร์ได้ไปชกตัดเชือกเพื่อหาผู้ชนะไปชิงแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวท IBF อีกครั้ง ที่นิคารากัว แต่เป็นฝ่ายแพ้น็อคนักชกเจ้าถิ่นในยกที่ 3 หลังจากการชกครั้งนั้น ฟ้าลั่นจูเนียร์ได้เลื่อนขึ้นมาชกในรุ่นฟลายเวทเพราะมีปัญหาในการทำน้ำหนักตัวแต่ก็ยังไม่สบผลสำเร็จเท่าที่ครว

 

 

ล่าสุด..จากปากของเขาเอง **ถึงแม้ตัวผมเองไม่ถึงแชมปโลกเหมือนพ่อผม แต่ผมก็ดีใจที่ผมได้ลงมือทำ ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันกดดันแค่ไหนที่มีคนตั้งความหวังกับเราไว้สูงแต่เรากับทำมันไม่ได้ ทุกวันนี้วงการมวยมันไม่เหมือนเดิมแล้วจัดมวยก็ยากเศรษฐกิจแบบนี้ บางครั้งคนเราก็ต้องยอมรับความจริงว่ามันไม่ถึงก็คือไม่ถึง ตอนนี้ผมถอดหัวโขนออกแล้ว อยากจะหางานทำ #ผมภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกแชมป์โลกและผมภูมิใจที่ได้เดินตามรอยถึงแม้มันจะไม่ถึงแชมปโลกเหมือนพ่อก็เหอะ อย่างน้อยผมก็ได้ทำ เอาอะไรมากเกิดมาชาตินี้ได้ตอบแทนคนที่เรารักได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ #มันคุ้มค่ากับการเกิดในชาตินี้ละ**  

 

 

@ News  Photo Credit : th.wikipedia.org/ฟ้าลั่น จูเนียร ลูกบุญธรรม อุทัยดา/www.thairath.co.th

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments