@ “เขา (โอเล็คซานเดอร์ ยูซีก) มีฟุตเวิร์คที่ดีมาก เขาผ่อนหนักผ่อนเบาเก่งแถมยังว่องไวและเป็นคนที่ชกด้วยยากสุดๆ”

แชส วิทเทอร์สปูน (38-4, 29Kos) นักชกรุ่นเฮฟวี่เวทชาวอเมริกัน ให้สัมภาษณ์ถึงโอเล็คซานเดอร์ ยูซีก หลังจากตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในไฟต์เดบิวท์รุ่นเฮฟวี่เวทของอดีตแชมป์โลกสี่สถาบันรุ่นครุยเซอร์เวทจากยูเครน

 

 

 

Photos: www.boxingscene.com

 

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นไฟต์แรกในรุ่นเฮฟวี่เวทของยูซีก แต่อาจเป็นเพราะผลงานอันไร้เทียมทานในรุ่นครุยเซอร์ ที่ส่งผลให้ยอดมวยยูเครเนี่ยนเจ้าของสถิติการชกชนะรวด 17 ครั้งกลายเป็นผู้ท้าชิงไฟต์ต่อไปของผู้ชนะในไฟต์รีแมทช์ระหว่าง แอนดี้ รุยซ์ กับ แอนโธนี่ โจชัว ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคมนี้

“หืม ผมไม่รู้สิ ผมไม่ชอบเดาหรือทำนายอะไรแบบนี้เท่าไหร่” วิทเทอร์สปูนกล่าวต่อ

 

“ผมคิดว่า มันขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ชนะในไฟต์รีแมทช์ (รุยซ์ กับ โจชัว) ถ้าแอนดี้ รุยซ์เป็นผู้ชนะ ผมมองว่ายูซีกนั้นไม่เสียเปรียบเรื่องร่างกาย อีกทั้งยังมีช่วงชกที่ยาวกว่าและน่าจะทำได้ดีกว่ารุยซ์ แต่ถ้าเป็นโจชัว เขาเป็นยักษ์ใหญ่ที่แท้จริง ซึ่งนั่จะเป็นเรื่องยากของยูซีกแน่นอน”

 

โอเล็คซานเดอร์ ยูซีก ออกเดินทางอีกครั้งบนถนนนักชกรุ่นเฮฟวี่เวท คำชื่นชมของวิทเทอร์สปูนซึ่งเป็นคู่ชกรุ่นยักษ์ไฟต์แรก อาจเป็นเครื่องการันตีฝีไม้ลายมือของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ถึงแม้นักชกจอมเก๋าชาวอเมริกันอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ระดับท๊อปในรุ่นเฮฟวี่เวท แต่ก็มิใช่คู่ชกที่ไก่กาขนาดวัดอะไรไม่ได้เลย โอเล็คซานเดอร์ ยูซีกยังแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานและเทคนิคการชกที่สูงส่งของเขาเช่นเดิม

 

Photos: Sumio Yamada

 

การก้าวขึ้นมาชกในรุ่นเฮฟวี่เวทของยูซีคเป็นสิ่งที่น่าสนใจและได้รับการพูดถึงค่อนข้างมากในหมู่แฟนมวย เนื่องด้วยสถิติและประวัติการชกมวยที่ค่อนข้างสวยหรูของเจ้าตัว บวกกับชื่อเสียงของบรรดามวยดังรุ่นยักษ์ในปัจจุบันอย่าง ดิออนเต ไวล์เดอร์, ไทสัน ฟิวรี่, แอนโธนี่ โจชัว, แอนดี้ รุยซ์หรือแม้กระทั่งหลุยส์ ออร์ติซ ที่ไม่ว่าจะประกบคู่ไหนชกกันก็ล้วนแล้วแต่น่าชมทั้งสิ้น ดังนั้นการเข้ามาของยูซีค จึงกลายเป็นอีกหนึ่งความสนใจ และอาจทำให้ยุคสมัยของมวยยักษ์กลับมาบูมอีกครั้งก็เป็นได้

 

อเล็คซานเดอร์ ยูซีคเป็นใคร? และเหตุใดเราจึงต้องจับตามอง?

โอเล็คซานเดอร์ ยูซีค เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1987 ที่ยูเครเนี่ยน ซึ่งอยู่ในพื้นที่สหภาพโซเวียตเก่า โดยตั้งแต่เขายังเด็ก เขาฝึกฝนฟุตบอลอยู่ที่อคาเดมี่ของทีมฟุตบอลอาชีพทีมหนึ่งในยูเครน และเปลี่ยนมาชกมวยในปี 2002 เมื่อเขามีอายุได้ 15 ปี ทั้งนี้ นักชกเจ้าของส่วนสูง 191 เซนติเมตร จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับกายบริหาร จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติในยูเครน

 

การเดินทางบนถนนนักมวยครั้งแรกของยูซีคเกิดขึ้นในรูปแบบมวยสากลสมัครเล่นในปี 2006 เขาเข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์ชิงแชมป์ยุโรปและสามารถเอาชนะได้ใน 3 ไฟต์แรกก่อนที่จะพ่ายแพ้ในรอบรองชนะเลิศในปีนั้น อย่างไรก็ตาม ยูซีคกลับมาคว้าเหรียญทองในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทในอีก 2 ปีถัดมา จากนั้นยูซีคเดินหน้าคว้าเหรียญทองในการแข่งขัน เวิร์ล แชมเปี้ยนชิพ รุ่นเฮฟวี่เวทในปี 2011 ต่อด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิค 2012 ซึ่งใน 2 รายการหลัง ยูซีฟ สามารถเอาชนะอาเทอร์ เบเทอร์บิเยฟ ได้ทั้ง 2 ครั้งอีกด้วย

 

112.international

 

ยูซีค จบสถิติมวยสากลสมัครเล่นที่ชนะ 335 และแพ้ 15 ครั้ง รวมถึงคว้าแชมป์เมเจอร์ของมวยสากลสมัครเล่นได้ทุกรายการ!

ในวัย 26 ปี การเดินทางอีกครั้งของยูซีคก็เริ่มขึ้น เขาเทิร์นโปรเป็นนักชกอาชีพในปี 2013 โดยการเลือกชกในรุ่นครุยเซอร์เวท

 

กว่า 5 ปี ในนามนักชกรุ่นครุยเซอร์เวท คงไม่เหลือสิ่งใดให้ยูซีคต้องพิสูจน์อีกต่อไป หลังจากการชนะน็อค 9 ไฟต์แรกติดต่อกันในยูเครน นักชกอดีตเหรียญทองโอลิมปิคตะลุยชกชิงแชมป์และป้องกันแชมป์ไปทั่วยุโรปและอเมริกา จนท้ายที่สุดยูซีคก็สถาปนาตนเองเป็นนักชกรุ่นครุยเซอร์เวทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคปัจจุบันด้วยการคว้าเข็มขัดแชมป์เปี้ยนโลกสถาบันหลักทั้ง 4 เส้น (WBA, WBC, IBF และ WBO) มาครอบครองได้สำเร็จ ด้วยสถิติการชกชนะ 16 ครั้งรวด โดยเป็นการชนะแบบไม่ครบยก 12 ครั้งด้วยกัน

 

ท้ายที่สุด ในวัย 32 ปี การเดินทางของ โอเล็คซานเดอร์ ยูซีค ก็ต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง บนถนนที่ยากลำบากมากที่สุดในชีวิตนักมวยก็ว่าได้ เมื่อปรากฎร่างบรรดายักษ์ใหญ่ฝีมือฉกาจยืนตระหง่านขวางอยู่ตลอดทางเดิน!

ลองนึกภาพ คนยักษ์ขนาดร่างกายสูง 2 เมตร อย่างไวล์เดอร์กำลังง้างหมัดสุดแขนพร้อมจะปล่อยหมัดที่รุนแรงขนาดฆ่าคนได้ด้วยหน้าหน้าตาถมึงทึง

 

 

ลองนึกภาพยักษ์ส่วนสูง 206 เซนติเมตรอย่างไทสัน ฟิวรี่ดักต่อยด้วยแขนอันยาวเฟื้อยและพลิ้วตัวไปทั่วๆเวทีจนตามไม่ทัน

ชีวิตบนสังเวียนที่เริ่มใหม่อีกครั้งของ โอเล็คซานเดอร์ ยูซีค จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างที่สุดจริงๆ

 

@ news –image credit :: ฝีปากมวยโลก/Aniwat Injongkol 

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments