เริ่มจากรุ่นฟลายเวตหญิง (51กก.) “น้องหวาน”จุฑามาส รักสัตย์  พบ   ฮาน คยอง นักชกเกาหลีเหนือ เกมการชก เริ่มยกแรก น้องหวาน เดินหน้า ยิงหมัดชุด ใส่ ฮาน คยอง ได้อย่างเหนือชั้น โดยเฉพาะหมัดซ้าย นั้นเข้าเป้าจะแจ้ง  มาถึงยกที่ 2 กำปั้นสาวไทยคุมเกมเอาไว้ได้ ยิงหมัดชุดเข้าใส่ นักชกเกาหลีเหนือ ได้อย่างชัดเจนเหนือชั้น และยก 3 ยกสุดท้ายจุฑามาส ใช้จังหวะฝีมือรอดักยิงหมัด หยุดการเดินของ ฮา คยอง ที่พยายามชวนทะเลาะจนสิ้นเสียงระฆัง กรรมการชูมือให้  จุฑามาส รักสัตย์ เอาชนะคะแนน คว้าเหรียญทองได้อย่างยอดเยี่ยม

ต่อมาเป็นมวยชายรุ่นมิดเดิลเวต (75 กก.)”เจ้าแสน “กิตติศักดิ์ กลิ่นษร พบ เซย์เยสซาฮิน โมดาวี่  จากอิหร่าน เริ่มยกแรก เป็นเจ้าแสนเดินหน้าลุยยิงหมัดตัดลำตัวเจอ โมดาวี่ที่ใหญ่กว่าสวนด้วยหมัดชุดพร้อมกับดักชกได้อย่างจะแจ้ง  เข้าสู่ยกที่ 2 กิตติศักดิ์เดินเร็วเจอ นักชกอิหร่าน ยิงหมัดชุด พร้อมกับอัดขวาเข้าที่หน้าทำให้ เจ้าแสนมีแผลแตกที่หางคิ้วซ้าย กรรมการยุติการชกให้แพทย์สนามดูอาการก่อนจะโบกมือให้ชกต่อทว่าก็เจอโมดาวี่ยิงหมัดย้ำแผลไปตลอด ยกสุดท้าย กิตติศักดิ์ เดินหน้าชวนทะเลาะเจอ โมดาวี่คุมเกมยิงหมัดยาว ๆ เข้าที่หน้าได้อย่างจัง จนหมดยกกรรมการชูมือให้ นักชกอิหร่ายเอาชนะคะแนน คว้าเหรียญทอง ส่วน กิตติศักดิ์ ได้เหรียญเงิน

ด้าน “โค้ชแต๊ก” ชัยชุมพล ชำนาญมาก ได้กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขันรายการนี้ นักชกทีมชาติไทย โดยเฉพาะหญิงทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ แต่เสียดาย สุดาพร สีสอนดีในรอบรองฯ ที่ ดูแล้วชนะนักชกรัสเซีย แต่แพ้ไปแบบค้านสายตาแฟนมวยทั้งสนาม ส่วนทีมชายนั้น กิตติศักดิ์ ถือได้ว่าน่าจับตาเพราะออกชกต่างประเทศรายการแรกสามารถโชว์ผลงาน ได้อย่างยอดเยี่ยม”

สรุปผลงาน กำปั้นเสื้อกล้ามไทย ทำได้   1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง จาก “น้องเดียร์”รัชนีกร สีกระโดน นักชกหญิงรุ่น 49 กก., “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกหญิง รุ่น 60 กก., “เจ้าหมัก” สมัคร แซ่หาญ รุ่น 49 กก. ชาย สำหรับนักชกทีมชาติไทย จะเดินทางกลับถึงเมืองไทย ในช่วงเย็นวันที่ 25 มิ.ย. นี้