สำหรับบรรยากาศในงานเลี้ยงที่โรงแรม กรีนแลนด์ ที่พัก มีบรรดาแขกในงานทยอยเข้ามาขอถ่ายรูปและลายเซ็นกันตลอดเวลาจนแทบไม่ได้กินข้าว นอกจากนี้ อู๋ ลี่ชิน ประธานใหญ่อู่หลินฟง ได้แสดงความยินดี และอวยพรให้เมย์รักษาเนื้อรักษาตัว พร้อมกล่าวว่า อู่หลินฟง คือโปรโมชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศจีน การที่สิทธิชัยเอาชนะน็อกอี้หลงได้อย่างเด็ดขาดในครั้งนี้ ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า คนจีนทั้งแผ่นล้วนยอมรับในฝีมือของสิทธิชัย ซึ่งในปีหน้า อู่หลินฟงก็พร้อนยินดีร่วมมือและสนับสนุนให้ มาชกในเมืองจีนอีกครั้งอย่างแน่นอน

         ด้าน ครูจักรกฤษ ศิษย์สองพี่น้อง เทรนเนอร์สิทธิชัย ผู้เคยสอนมวยไทยให้อี้หลงเมื่อสี่ห้าปีก่อนอีกด้วย และเป็นคนแรกที่ปรี่เข้าไปช่วยปฐมพยาบาล อี้ หลง หลังกรรมการยุติการชกบนเวที เปิดใจว่า จริงๆแล้วตนและสิทธิชัยก็รู้สึกสงสารอี้ หลง ไม่น้อยเช่นกัน เพราะเราต่างก็เป็นนักสู้ที่ต้องทำหน้าที่และแบกภาระเพื่อประเทศชาติเหมือนกัน

         “ผมเคยสอนมวยไทยเขามาก่อน เขายังจำผมได้ดี เมื่อผมมาเมืองจีน อี้หลงก็จะเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง ผมจะเรียกเขาว่า “มังกี้” (เจ้าลิง) โดยตลอด ซึ่งเขาไม่เคยถือตัว เวลาซ้อมมวยที่เมืองไทยก็มักจะเตะต่อยเสาบ้าง กำแพงบ้าง พอมาเห็นสภาพเขาต้องแพ้น็อกในครั้งนี้ ก็รู้สึกสงสารเขาไม่น้อยเหมือนกัน จริงๆเขาเป็นขวัญใจคนจีนทั้งประเทศ เพียงแต่คนจัดพยายามสร้างภาพให้คนดูหมั่นไส้ แฟนมวยชาวไทยเราส่วนใหญ่จึงพลอยรังเกียจ แต่ในความจริงแล้ว เขาก็เป็นคนดี คนหนึ่งเลยทีเดียว”

           ขณะที่ “เจ้าเมย์” เปิดใจ โปรแกรมชกไฟต์หน้าต้องไปต่อยที่อเมริกา เดือนมกราคม ต้นปีหน้า เป็นคิวป้องกันแชมป์โลก คิกบ๊อกซิ่ง”กลอรี่” พิกัด 70 กก. แต่ตอนนี้ กลับถึงเมืองไทย ตั้งใจอยากกลับบ้านเกิดที่บุรีรัมย์ให้เร็วที่สุด เพราะคิดถึงบ้านหลังจากมานานถึงสามเดือนเต็ม ทุกครั้งหลังการชกเงินรางวัลที่ได้มาก็จะแบ่งให้พ่อกับแม่ ก่อนการชกครั้งนี้ ได้ซื้อบ้านใหม่ไว้ให้ท่านราคาเกือบล้านบาท และซื้อวัวตัวละแสนกว่าบาทให้พ่อแม่ไว้เลี้ยงสามสี่ตัว เงินรางวัลที่ได้ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็คงจะซื้อที่ดินและเก็บไว้เป็นทุน ยอดมวยไทยแห่งยุคคนใหม่ วัย 26 ปีกล่าว