<<>> หนังสือพิมพ์ “ลอส แองเจลิส ไทมส์” ของสหรัฐอเมริกา รายงานเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 ว่า นายบ็อบ อารัม หรือ “ปู่บ็อบ” โปรโมเตอร์มวยชาวอเมริกัน วัย 85 ให้สัมภาษณ์ว่า พอใจและภูมิใจในการประกอบอาชีพในวงการมวยนานติดต่อกันถึง 50 ปีเต็ม และทำสถิติจัดศึกมวยระดับแชมป์โลกมาแล้ว ทั้งหมด 2,000 ไฟต์ หรือ 2,000 คู่ด้วยกัน

“เมื่อมองย้อนหลังไปแล้ว ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง มันทำให้ผมรู้สึกยังหนุ่มอยู่ และมีพลังที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป เพื่อวงการมวยโลกที่ดีกว่าทุกวันนี้ ให้ได้” อารัมกล่าวอย่างอารมณ์ดี

 

bob-arum-ali

 

 

        “บ็อบ อารัม” หรือ “โรเบิร์ต (บ็อบ) อารัม” (ภาพบน) เป็นชาวอเมริกันผิวขาว เชื้อสายยิว เป็นคนนิวยอร์ก จบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทำงานในกระทรวงยุติธรรม จากแผนกสรรพากรหรือภาษี แล้วย้ายไปสังกัดสำนักงานอัยการ เขตนิวยอร์ก ก่อนจะลาออกไปประกอบอาชีพเป็นโปรโมเตอร์มวยตามกฎหมาย

 

 

        อารัมประเดิมจัดมวยโลกครั้งแรก เมื่อค.ศ.1966 ที่เมืองโตรอนโต แคนาดา คู่แรก คือ “มูฮัมหมัด อาลี” จากสหรัฐ ชนะคะแนน “ยอร์จ ชูวาโล่” จากแคนาดา ซึ่งเป็นคู่มวยอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะอาลีไม่ยอมเป็นทหารไปรบในสงครามเวียดนาม ทำให้ชกในสหรัฐอเมริกาไม่ได้ อารัมต้องใช้ความรู้ทางกฎหมาย ย้ายไปชกที่แคนาดา โดยมีการลงมติในรัฐสภาแคว้นออนทารีโอ แคนาดา อนุญาตให้จัดมวยโลกระหว่าง “อาลีVSชูวาโล” ได้ ด้วยคะแนนเสียงข้างมากที่ชนะกันแค่ 1 คะแนนเสียงเท่านั้นเอง

 

 

 

bob-arum-don-king-01

 

       ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 “บ็อบ อารัม” จัดมวยโลกคู่สุดท้ายประจำปี ค.ศ.2016 ทำสถิติเป็นศึกมวยโลกคู่ที่ 2,000 ของอารัมอย่างเป็นทางการ ระหว่าง “วาซีล โลมาเชนโก้ VS นิโคลาส วอลเตอร์ส”

 

 

         ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา “บ็อบ อารัม” เจ้าของและประธานบริหาร บริษัท ท็อปแรงค์ โปรโมชั่นส์ จำกัด มีผลงานในการสร้างแชมป์โลกที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น มูฮัมหมัด อาลี, ยอร์จ โฟร์แมน, มาร์วิน แฮ็กเลอร์, โทมัส เฮิร์นส์, ซูก้าร์ เรย์ เลียวนาร์ด, ออสก้าร์ เดอ ลา โฮย่า, แมนนี่ ปาเกียว ฯลฯ อารัมได้รับการยอมรับว่า เป็นโปรโมเตอร์ที่ขยันสร้างซูเปอร์สตาร์มวยโลก แล้วประสบความสำเร็จมากที่สุด แบบไม่มีใครทาบได้ แม้แต่ “ดอน คิง” (ภาพบน-คนกลาง) โปรโมเตอร์มวยชาวอเมริกันผิวดำ คู่รักคู่แค้นตลอดกาล.

 

@ credit news –image :: sportclassic / www.latimes.com

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments