<<>> หลังจากโชว์ฟอร์มเอาชนะคะแนน “ทิโมธี แบรดลี่ย์” นักชกอเมริกันรุ่นน้องได้ดีเกินความคาดหมายแล้ว “แมนนี่ ปาเกียว” ซูเปอร์สตาร์มวยโลกจากฟิลิปปินส์ ก็ประกาศแขวนนวมอย่างเป็นทางการ ทั้งในการสัมภาษณ์บนเวทีผ่านรายการถ่ายทอดสด ทั้งในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากการสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2559 ที่เมืองลาส เวกัส มลรัฐเนวาด้าของสหรัฐอเมริกา
“ผมตัดสินใจเลิกชก เพราะตกลงกับครอบครัวไว้แล้วว่า จะใช้เวลากับครอบครัวให้มากที่สุด”
ปาเกียวกล่าวย้ำถึงสาเหตุการตัดสินใจเลิกชก ท่ามกลางคำถามของสื่อมวลชนในงานแถลง ที่ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด ไม่เชื่อว่าปาเกียวจะเลิกชกจริง โดยย้ำคำถามว่า จะกลับมาชกอีกเมื่อไหร่? จะเลือกใครเป็นคู่ชกคนต่อไป? ฯลฯ
“ผมยอมรับว่า โดยส่วนตัวแล้วยังก้ำกึ่ง 50-50 แต่ตอนนี้ ขอกลับไปฟิลิปปินส์ ไปทำงานรับใช้ชาวฟิลิปิโนส์ ไปทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไปก่อน เรื่องอื่นๆ เอาไว้ว่ากันทีหลัง” ปาเกียวกล่าว
ทางด้านสื่อมวลชนฟิลิปปินส์รายงานข่าวว่า ชาวฟิลิปิโนส์ค่อนประเทศ ยังให้ความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดการชกของปาเกียวกับแบรดลี่ย์อย่างคึกคักเหมือนเดิม (ภาพบน) จากการสัมภาษณ์คนทั่วไปนั้น เกือบทั้งหมดยังอยากให้ปาเกียวชกมวยต่อไปอีก 2-3 ครั้ง เพราะสภาพร่างกายและความแข็งแกร่งยังเอื้ออำนวยให้
นอกจากนี้ สื่อฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ยังวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ปาเกียวยากที่จะเลิกชกได้ง่ายๆ เหมือนที่พูดหรือให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เพราะยังมีเงื่อนไขอีกมากมายนัก ไม่ว่าจะเป็นการสู้คดีหนีภาษี และถูกอายัดทรัพย์สินหลายพันล้านบาทจากสรรพากรฟิลิปปินส์ และไม่ว่าการเล่นการเมืองในฟิลิปปินส์ยุคนี้ จำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าอดีตที่ผ่านมา
“ปาเกียวมีเป้าหมายที่จะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในอีก 4-8 ปีข้างหน้าแน่นอน ถ้าเขาเลิกชกไป แล้วเขาจะสื่อความหมายถึงประชาชนได้มากเหมือนทุกวันนี้หรือ?
คอลัมนิสต์ของ นสพ.ฟิลิปปินส์ สตาร์ รายงานว่า สัญญาการชกมวยของปาเกียวกับ “ท้อปแรงค์” ของโปรโมเตอร์ บ็อบ อารัม นั้น ยังเหลืออายุถึงสิ้นปีหน้า พ.ศ.2560 เพราะสัญญาเดิมจะสิ้นสุดลงในปลายปีที่แล้ว พ.ศ.2558 แต่ปาเกียวไม่ได้ชกอีกเลย หลังจากแพ้ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 จึงทำให้สัญญาขยายเวลาไปอีก 1 ปี ตามที่ตกลงเป็นเงื่อนไขไว้ตามกฎหมาย หากปาเกียวไม่ชกอีกจนหมดอายุสัญญา ก็ต้องชดเชยค่าเสียโอกาสให้ “ท้อปแรงค์” ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้อีกด้วย
@ credit news –image : sportclassic / www.inquirer.net /www.esquire.com