-@@- แอนโธนี่ โจชัว (Anthony Joshua) ดาวดัง มวยความหวังรุ่นเฮฟวี่เวตของสหราชอาณาจักร วัย 26 ปี ดีกรีนักชกเหรียญทองกีฬาโอลิมปิก 2012 (ที่ลอนดอน,อังกฤษ) รูปร่างสวยงาม เต็มไปด้วยมัดกล้าม (เหมือนนักเพาะกาย) เริ่มชกมวยสากลอาชีพ เมื่อ 5 ตุลาคม 2013 จนถึงขณะนี้มีสถิติ ชนะรวด 15 ครั้ง ยังไม่เคยแพ้หรือเสมอใคร ที่น่าสนใจคือ ชนะน็อกเอ้าท์ 100% ….
ไฟต์หน้า 9 เมษายน 2016 (เหลือเวลาอีกยี่สิบกว่าวัน) แอนโธนี่ โจชัว จะก้าวขึ้นชกชิงแชมป์โลกครั้งแรก กับเจ้าของตำแหน่งชาวอเมริกัน ชาร์ลส์ มาร์ติน (Charles Martin) แชมป์โลกเฮฟวี่เวต IBF วัย 29 ปี สถิติเป็นนักชกไร้พ่าย ถนัดซ้าย ชนะ 23 (น็อกเอ้าท์ 21) แพ้ 0 เสมอ 1
.. ชกกันที่สังเวียน O2 Arena (Millenium Dome), Greenwich, London
-@- คอมวยชาวไทย ส่วนใหญ่ อาจจะเห็นว่า ผู้ท้าชิงได้เปรียบ เพราะชกในถิ่นของตัวเอง สิ่งแวดล้อมย่อมเป็นใจ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าถ้าชกกันสูสีใกล้เคียง การตัดสินต้องเอียงไปให้ประโยชน์นักมวยเจ้าถิ่น(ตามที่เคยมีตัวอย่างให้เห็นอยู่บ่อยๆ).. นอกจากนี้แฟนมวยชาวไทย ส่วนใหญ่ ยังพอใจในรูปร่างของ โจชัว ที่ค่อนข้างล่ำสัน แข็งแรง สมส่วน เต็มไปด้วยมัดกล้าม แต่ชกได้ว่องไว ไม่อืดอาดเหมือนมวยยักษ์ทั่วๆไปในยุคนี้
..ประกอบกับ ชาร์ลส์ มาร์ติน เพิ่งได้ตำแหน่งแชมป์โลกเฮฟวี่เวตมาหมาด ๆ.. จากการชิงตำแหน่งที่ว่าง ยังไม่เคยชกต่างประเทศมาก่อน ไฟต์นี้กล้าเดินทางไกลออกไปป้องกันตำแหน่งครั้งแรกถึงประเทศอังกฤษ จึ่งมีสิทธิ์เข็มขัดหลุด…
*** ตรงข้ามกับความเห็นของ Scott Gilfoid (คอลัมนิสต์) ที่วิเคราะห์ข้อมูลของนักชกทั้งคู่ ดูอย่างละเอียดแล้วฟันธงว่า แอนโธนี่ โจชัว จะถูกน็อกชัวร์! … โดยเขาแยกแยะให้เห็นในประเด็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้..
๐ พลังหมัด : ถ้าดูจากสถิติชนะน็อกเอ้าท์ ดูเหมือนว่าจะใกล้เคียงกัน แต่ถ้าสังเกตพลังหมัดให้ชัด ๆ จะเห็นว่า มาร์ติน จะออกหมัดได้หนักแน่นกว่า สามารถน็อกได้ด้วยหมัดเดียว.. แถมเป็นมวยถนัดซ้าย สไตล์ที่โจชัวไม่คุ้นเคย (ไม่เคยชกกับมวยซ้ายมาก่อน) จะสร้างปัญหาให้ผู้ท้าชิงแน่นอน..
๐ สปีดหมัด : เห็นชัดชัดว่า มาร์ติน ดีกว่า.. รูปร่างของ โจชัว เต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบนักเพาะกาย ไม่ใช่รูปร่างของนักมวย.. ยิ่งมีข่าวว่า โจชัว เร่งฟิตซ้อมและบริหารเพิ่มกล้ามเนื้อ เพื่อใช้เป็นข้อได้เปรียบ..จึงเป็นความคิดที่ผิดพลาด เพราะจะทำให้การปล่อยหมัดอืดอาดยิ่งขึ้น
๐ ประสบการณ์ : ดูจากสถิติ และคุณภาพคู่ชกที่ผ่านมา มาร์ติน ก็ได้เปรียบ.. เรื่องนี้ต้องโทษ เอ็ดดี้ เฮิร์น โปรโมเตอร์ของโจชัว ที่หานักชกไม่ค่อยมีคุณภาพและสไตล์หลากหลายมาให้นักมวยของตนเพิ่มประสบการณ์ .. ดิลเลี่ยน ไวท์ คู่ชกคนหลังสุดเท่านั้นที่มีคุณภาพเหมาะสำหรับโจชัว..แต่ ดิลเลี่ยน ไวท์ โชคไม่ดีที่ บาดเจ็บหัวไหล่ซ้ายมาก่อน ทำให้แสดงสมรรถภาพได้ไม่เต็มที่ จึงแพ้น็อกโจชัว ในยกที่ 7
๐ ความปราดเปรียวว่องไว : การเคลื่อนไหวในการเข้า ออก การใช้ฟุตเวิร์ค ถ้าสังเกตให้ดี เรื่องนี้ มาร์ติน ก็ดีกว่า โจชัว.. มาร์ตินออกหมัดและเคลื่อนไหวได้รวดร็ว ปานนักมวยรุ่นเฟเธอร์เวต ผิดกับมวยเฮฟวี่เวตทั่วไปที่ส่วนใหญ่ยืนเต็มเท้า และอืดอาด ..แม้โดยเฉลี่ย โจชัว จะเร็วกว่านักชกรุ่นยักษ์ส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ปราดเปรียวเท่ากับ มาร์ติน
๐ ความทนทาน : เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะยังไม่เคยเห็นถึงความทนทานของนักชกทั้งคู่ ยังไม่รู้ว่าจะสามารถทนพลังหมัดหนัก ๆ ของคู่ชกได้มากน้อยแค่ไหน เพราะแทบทุกไฟต์ทั้ง โจชัว และมาร์ติน เป็นผู้ทำมากกว่าเป็นผู้รับหมัด.. แต่อย่างไรก็ตาม ไฟต์หลังสุดของ โจชัว เมื่อเขาโดนหมัดของ ไวท์ ในยกที่ 2 ทำให้โจชัวถึงกับแกว่ง หวิดจะโดนน็อกเอ้าท์..
แต่โจชัวโชคดีที่ ไว้ท์ ไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มที่(เพราะบาดเจ็บหัวไหล่มาก่อนชก) จึงทำให้โจชัวรอดไปได้..ถ้าสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 9 เมษายน.. โจชัวจะไม่พ้นจากการถูกน็อกแน่นอน !
*** ท้ายที่สุด Scott Gilfoid ทำนายว่า..วันที่ 9 เมษายน 2016 แอนโธนี่ โจชัว จะแพ้น็อก ชาร์ลส์ มาร์ติน.. แต่ถ้า มาร์ติน น็อกไม่ได้ อาจจะได้เห็นการตัดสินแบบดั้นเมฆ ค้านสายตาผู้ชม แบบที่ โจชัว เคยชนะคะแนนคู่ชกตอนชกในโอลิมปิก เมื่อปี 2012…
News / Photo Credit : Boxing News 24 / Andrew Redington/Getty Images