<<>> ช่วงนี้มาถี่ยิบ..เมื่อสื่อมวลชนฟิลิปปินส์รายงานว่า “แพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว ซูเปอร์สตาร์มวยโลกวัย 37 ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ของฟิลิปปินส์ ยืนยันว่า จะทำการชกกับ “ทิโมธี่ แบรดลี่ย์” แชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต องค์การมวยโลก WBO ที่เมืองลาส เวกัส มลรัฐเนวาด้า ของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 9 เมษายน 2559 และทำการถ่ายทอดสดในฟิลิปปินส์ตามกำหนดเดิมทุกประการ เพื่อมีความเห็นว่า การกระทำดังกล่าว ไม่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งของฟิลิปปินส์แต่อย่างใด

Filipino boxer Manny Pacquiao, who is running for Senator in the May 2016 national elections, speaks to supporters during the start of elections campaigning in Mandaluyong city, Metro Manila February 9, 2016.     REUTERS/Janis Alano

           @ credit image : www.inquirer.net

 

           ปาเกียวส่งเอกสารทั้งหมด 5 หน้า ยืนยันวัตถุประสงค์ดังกล่าว พร้อมกับอธิบายว่า กม.เลือกตั้งกำหนดให้ผู้สมัครเลือกตั้งทุกคน มีสิทธิซื้อโฆษณาหรือออกรายการ ผ่านสื่อโทรทัศน์และวิทยุไปทั่วประเทศ ภายใต้เวลาที่กำหนดไว้อย่างเท่าเทียมกันทุกคน คือ โทรทัศน์รวมทั้งหมดไม่เกิน 120 นาที และวิทยุรวมทั้งหมดไม่เกิน 180 นาที ขณะที่การชกของตนกับแบรดลี่ย์ ที่จะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์นั้น ใช้เวลา 12 ยก ประมาณ 36-40 นาทีเท่านั้น ไม่เกินเวลาที่จำกัดไว้ตาม กม.เลือกตั้งแต่อย่างใด

 

         “ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงมีความเห็นว่า การถ่ายทอดสดการชกของข้าพเจ้า ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ไม่ผิดและไม่ขัดต่อต่อกฎหมายเลือกตั้งแน่นอน มิได้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้สมัครคนอื่นแต่อย่างใดอีกเช่นกัน” ปาเกียวระบุในคำให้การดังกล่าว

 

           รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ของฟิลิปปินส์ ได้ส่งเรื่องให้ปาเกียวชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยการให้เวลาไม่เกิน 5 วันทำการ และปาเกียวได้ส่งคำชี้แจงภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ทำให้ กกต.ฟิลิปปินส์เตรียมพิจารณาคำชี้แจงของปาเกียว เพื่อตัดสินชี้ขาดภายในสัปดาห์นี้ ต่อไป

 

          “แมนนี่ ปาเกียว” เป็น 1 ใน 26 ผุ้สมัครเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิก 12 ตำแหน่งของฟิลิปปินส์ ในการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ วันที่ 9 พฤษภาคม 2559 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดี, รองประธานาธิบดี พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร รวม 300 ตำแหน่ง และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกหลายพันตำแหน่ง

 

@ credit news : sportclassic

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments