-@@- ก่อนเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 เมืองท่าอินชอน เกาหลีใต้ จะเริ่มขึ้น ระหว่าง 19 ก.ย.-4 ต.ค.นี้ ลองนึกย้อนมองกลับหลังไปในอดีต ไปฟังความในใจคนกีฬารุ่นเก่า กับนักข่าวเก่าๆ ที่นับวันจะหมดความหมาย เค้าคุยกันหน่อยเป็นไร..!?!? นาวาอากาศโท วันชัย ผ่องศรี อดีตนักชกสมัครเล่นทีมชาติไทย ผู้เคยเป็นตัวแทนไปทำศึก ในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 9 นิวเดลี ประเทศอินเดีย ช่วงปี พ.ศ.2525 (ค.ศ. 1982) ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
ทีมมวยสมัครเล่นของไทยยุคนั้นมี หัวกระทิ อย่าง ทวี อัมพรมหา หรือชื่อมวยไทย “ขาวผ่อง สิทธิชูชัย” ,ธีระพร แสงอะโน “ลั่นกรุง เกียรติเกรียงไกร” และ วันชัย ผ่องศรี ถือเป็นมวยดีมีลุ้นเหรียญรางวัลแทบทั้งสิ้น..!! แต่น่าเสียดาย การชกในทัวร์เม้นต์ดังกล่าว ถึงรอบชิงชนะเลิศ มี”เจ้าจิม”ธีระพร แสงอะโน เพียงผู้เดียวที่ได้เหรียญทองคล้องคอ เมื่อเอาชนะคะแนน บาบ้า อาลีข่าน จากปากีสถาน หลังโขลกหมัดกันครบ 3 ยกในรุ่นฟลายเวต
ขณะที่ ทวี อัมพรมหา แพ้คะแนน คิม ดองกิล คู่ปรับตลอดกาลชาวโสมขาว ที่ “ขาวผ่อง” ของเราแพ้ผูกปีตลอดชาติ แม้จะเจอกันในคิงส์คัพกี่ครั้งกี่คราวก็ตามที (และนับเป็นโชคดีที่ โสมขาวรายนี้ไปแพ้ เจอร์รี่ เพจ จนชวดเข้าชิงกับขาวผ่อง ในโอลิมปิคเกมส์ 1984 ที่ลอสแองเจลิส จนนักชกไทยสร้างประวัติศาสตร์ได้เหรียญเงินในเวลาต่อมา)
และในรุ่นแบนตั้มเวต วันชัย ผ่องศรี พบกับ มูน ซังกิล กระทิงดุแดนโสม ที่ผูกดวงต้อนตือชนะมาตลอด แต่กลับมาพลาดท่าแพ้น็อกยกสุดท้าย ในศึกใหญ่ที่นิวเดลีครั้งนี้ จึงชวดได้เพียงแค่เหรียญเงินกลับมาอย่างน่าเสียดาย วันเวลาหมุนเปลี่ยน เมื่อเหยี่ยวข่าวรุ่นเก่า ผู้เคยผ่านงานเอเชียนเกมส์ในอดีตมาก่อน ได้เจอะเจอกับวันชัยอีกครั้ง ซึ่งรับราชการจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็น “นาวาอากาศโท” เจ้าตัวยังเปิดใจถาม-ตอบ ด้วยอัทธยาศรัยเป็นกันเองเช่นเดิม !!!
ถาม : ถ้าพูดถึงไฟต์ของ วันชัย ผ่องศรี จะมีคนพูดถึงแต่ไฟต์ที่แพ้น็อกให้ กับ มูน ซังกิล ในเอเชี่ยนเกมส์ที่อินเดีย ยุคนั้นมี ขาวผ่อง ,ลั่นกรุง และพี่เป็นตัวเต็ง ?
๛ “เค้าก็คิดกันไป แต่ผมไม่ใช่ไพ่นะ จะได้เป็นตัวเต็ง 555” (เจ้าตัวตอบกวนๆ แต่อารมณ์ดี)
ถาม : ต่อยชนะใคร จนเข้าไปถึงรอบชิงบ้างนั้น จำได้ไหม ??
๛ “ผมจำไม่ได้ คือยังงี้ นะ กับ มูน ซังกิล นั้น เราต่อยมาตั้งแต่มวยชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ สมัยนั้นช่วงเดือน เมษายน 2525 ราวๆ 32 ปีมาแล้ว ผมชนะคะแนน 3 ยก ยุคนั้นไม่ใส่เฮดการ์ดนะ ครั้งที่สอง มิถุนายน ที่กรุงโซล ผมชนะคะแนนเขาอีกครั้ง มาเจอกันครั้งที่สาม ในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 9 อินเดีย เดือนธันวาคม จึงแพ้น็อกเขายก 3 และครั้งที่สี่ ในศึกคิงส์คัพ ที่กรุงเทพ ผมก็ชนะคะแนนเขาอีกครั้ง รวมแล้วเราชกกัน ผมชนะสามครั้งแพ้หนึ่งครั้ง เออ..ที่ชนะทำไม คนไม่จำว่ะ จำแต่ครั้งแพ้ (ว่าแล้วแกก็หัวเราะร่วน)
ถาม : “มันเกิดอะไรขึ้น ??.. สื่อสมัยนั้น บอกเราทำแต้มนำห่าง แล้วเผลอมองนาฬิกา จริงมั๊ย !?”
๛ เราชนะแล้วหล่ะ มาถึงยกสามช่วงท้าย จังหวะมองนาฬิกา ผมมองไปแล้ว แล้วหันกลับมา จึงโดนๆ อะไรไม่รู้ ทีเดียวเท่านั้น ถึงกับหลับเลย แต่นั่นเป็นการแพ้ครั้งเดียวในการพบกัน 4 ครั้งกับมูล ซังกิล นะ (เจ้าตัวย้ำเหมือนกลัวคนลืม !!)
ถาม : ในฐานะนักกีฬารุ่นเก่า ที่เคยผ่านการแข่งขัน ในเอเชี่ยนเกมส์มาแล้ว อยากจะฝากอะไรถึงคนรุ่นหลัง นี้บ้าง..??
๛ สรุปในเอเชี่ยนเกมส์ ที่อินเดีย มีนักกีฬาไทยเพียงคนเดียวที่ได้เหรียญทองเท่านั้น คือ “ธีระพร แสงอะโน” เขาคือผู้ที่ทำให้เสียงเพลงชาติไทยได้ดังก้องกระหึ่มในช่วงท้ายของทัวร์นาเม้นต์ ผมจำได้ว่า เป็นเพลงชาติเดียวที่ไพเราะและจับใจที่สุดในชีวิตของผมเวลานั้น !!
(น้ำเสียงของวันชัยเริ่มแข็งขึ้น) …. ทุกวันนี้ คุณต้องถามว่า เขาเป็นอย่างไรบ้าง เท่าที่ผมรู้เขาลำบากนะ อยากให้สังคมหันกลับไปช่วยเขาบ้าง การกีฬาหรืออะไรเยอะแยะ อย่าเอาแต่อบรม ช่วยเขาบ้าง ทำแล้วให้เกิดประโยชน์ สามารถช่วยให้เขายืนอยู่ได้ยาวนาน ไม่ใช่ทำตูมเดียวเลิกเลย
สมัยนั้นเงินค่าเก็บตัว เบี้ยเลี้ยงต่อวันๆละ 150 บาท หักค่าอาหาร 80 บาท เหลือ 70 บาท คือเราทำเพื่อชาติกันจริงๆ ไม่ใช่มารับวันละพัน เหมือนในสมัยนี้….
(อดีตทีมชาติเริ่มจ้องหน้าผู้ถาม ด้วยแววตาจริงจัง) … คุณรู้ไหม ได้เหรียญเงินอชก. ผมได้เงินมาเพียงแค่ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ สมัยนั้นเหรียญเดียวราคา 23 บาท คิดเป็นเงินไทยแค่ 2,300 บาทเท่านั้น ผมจำแม่นเลย จะเอาอะไรกับเรา สมัยนั้นสปอร์เซอร์ไม่มี คือเราเกิดก่อนช่วยไม่ได้ เราไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นสมัยนี้คงรวยไปแล้ว
เปรียบกับสมัยนี้ ถ้าเป็นยุคนั้น ผมรับรองล้านเปอร์เซ็น เราต้องได้เหรียญทองแน่ๆ แต่อย่างว่าแหละสมัยนั้นเวลาเราต่อย เราก็เล่นไปลูบหัวกันไป เพราะเราเคยชกกันมาโชกโชนก็เหมือนเพื่อนกัน แต่อย่างว่าแหละนะ ถ้าผมเกิดช้ากว่านี้ สัก 20 ปี อาจจะไม่ติดทีมชาติก็เป็นได้นะ…555 (ว่าแล้วผู้พันเจี๊ยบก็หัวเราะร่วน)
ถาม : ท้ายนี้ อยากฝากอะไร ถึงแฟนๆชาวไทยบ้าง !??
๛ ถ้าจะฝาก.. ขอฝากถึงการกีฬาแห่งประเทศไทยดีกว่าครับ ถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการทำหน้าที่กับกีฬามวยของประเทศไทย ถึงคนที่เคยทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาก่อน ผมขอฝาก ธีระพร แสงอะโน ช่วยเขาบ้าง สิ่งที่ผมช้ำใจมากนะ และอยู่ในใจตลอดชีวิตไม่มีวันลืม ผมเคยชก เอเชี่ยนเกมส์ รับใช้ชาติมาแล้ว
แต่ผมไม่สามารถเข้าไปดู มวยแข่งขันในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดได้ เขาไม่ให้เข้า งานง่ายๆแค่นี้ เขายังไม่ให้ความสำคัญกับนักกีฬาทีมชาติเก่าๆเลย ผมขอฝากตรงนี้ ผมต้องโทรหา สมรักษ์ คำสิงห์ ให้เขาพาเข้าไปดูได้ ผมต้องขอบคุณน้องเขา แต่ผมอายลูกผม
นี่หรืออดีตทีมชาติ ผมเข้าดูมวยเขายังต้องเก็บตังค์ ความจริงเงินไม่สำคัญหรอก ผมไม่ซีเรียส แต่คุณต้องเข้าใจว่า นี่หรือสิ่งที่ผมได้รับ นี่หรือคือ อดีตทีมชาติ..ดังคำที่เขาวา ชีวิตหมาล่าเนื้อใช่ไหม นั่นแหละประมาณ นั้น !!
…น.ท.วันชัย ผ่องศรี อดีตนักชกเหรียญเงิน เอเชี่ยนเกมส์ 1982 กล่าวทิ้งท้าย
สอดสร้อย สาวสังเวียน รายงาน
๛๛๛๛๛
(ข้อมูลเพิ่มเติม)
๛ “เจ้าจิม” ธีระพร แสงอะโน เจ้าของเหรียญทองโทน จากเอเชี่ยนเกมส์ 1982 ในชื่อมวยไทย “ลั่นกรุง เกียรติเกรียงไกร” แชมป์ฟลายเวต เวทีราชดำเนิน เป็นผู้พิชิต สด จิตรลดา (เชาวลิต ศิษย์พระพรหม) ในเชิงมวยไทย คราวป้องกันแชมป์รดน. ชนิดต้อนตือเดินหน้าแลกหมัด ไล่อัดเชาวลิตจนพ่ายคะแนนขาดลอย ก่อนผู้แพ้จะกลายไปเป็นแชมป์โลกในเวลาต่อมา
ธีระพร ขุนพลเสื้อกล้ามในนามทีมชาติไทย เป็นตัวแทนและหนึ่งใน”ตัวเต็ง” ทีมมวยสู้ศึกโอลิมปิคเกมส์ 1984 ที่ลอสแองเจลิส โชคร้ายตกรอบแรก เพราะแพ้คะแนน เรด เซป เรดสเตป๊อฟสกี้ (ยูโกสลาเวีย) อย่างหวุดหวิด 2-3 เสียง ทำให้เรดผ่านเข้ารอบไปชนะ เจฟฟ์ เฟเน็ช (ออสเตรเลีย ผู้ปราบสามารถ พยัคฆ์อรุณ) ในรอบ 8 ด้วยคะแนน 4-1 เสียง จนทะลุเข้ารอบชิง แต่ได้เพียงเหรียญเงิน เพราะไปแพ้ สตีฟ แม็กกรอว์รี่(สหรัฐ) จะว่าไปแล้ว เจ้าจิม ถือเป็นนักมวยดีมีฝีมือ แต่โชคอาภัพอับวาสนา ที่ต้องไปเจอของแข็งจึงตกรอบแรกไปก่อนอย่างน่าเสียดาย
ธีระพร เป็นนักชกอีกคนที่มีการศึกษาระดับสูง เข้าทำงานธนาคากรุงเทพ และใช้ชื่อชกมวยหลังเทิร์นโปรชกอาชีพว่า “บัวหลวง แสงอะโน” แม้จะได้เป็นพนักงานประจำธนาคารชื่อดังตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ แต่อนาคตคงไม่ก้าวหน้าจึงลาออก มาขายก๊วยเตี๋ยวราวๆ 20 ปีที่แล้ว เคยได้รับการทาบทามให้เป็นเทรนเนอร์ สอนมวย แต่ทว่าดูอากัปกริยา เหมือนเป็นคนเชื่องช้า พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ดูเหมือนเป็นคนเซื่องซึม ชอบจมอยู่กับความเศร้า คร่ำครวญเล่าแต่ชีวิตตนเอง ล้มเหลว เหมือนหมดอาลัยตายอยาก ทั้งนี้อาจเป็นผลจากการเมาหมัด ผิดจากเดิม ที่เคยเป็นมวยฉลาดเฉลียวว่องไว
ปล. ขอขอบคุณ ข้อมูลดิบ จาก คุณ พูนเพชร เพชรใหม่
