<<>> จากสังเวียนสู่ฮอลลีวูด: “อูซิก” ในหนัง MMA สะท้อนชีวิตหลังการแขวนนวม?
โอเล็กซานเดอร์ อูซิก แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท กำลังสร้างความฮือฮาด้วยการปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง The Smashing Machine ซึ่งเป็นหนังเกี่ยวกับ MMA ของ ดเวย์น “เดอะร็อค” จอห์นสัน โดยการแสดงครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ายอดนักมวยชาวยูเครนกำลังวางแผนชีวิตหลังการแขวนนวม
โฉมใหม่ของอูซิกบนจอเงิน
www.dailymail.co.uk
ในภาพยนตร์เรื่อง The Smashing Machine อูซิกรับบทเป็น อิกอร์ โวฟชานชิน นักคิกบ็อกเซอร์และนักสู้ MMA ชื่อดังชาวยูเครน ซึ่งเป็นคู่ปรับคนสำคัญของตัวละครหลัก มาร์ก เคอร์ ที่จอห์นสันแสดง แม้ว่าบทบาทนี้จะเผยให้เห็นอูซิกในลุคที่ มีพุงเล็กน้อย และดูไม่ฟิตเต็มร้อยเหมือนตอนชกมวย แต่เขาก็ยังคงถ่ายทอดภาพลักษณ์ของยอดนักสู้ออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดย เบนนี ซาฟดี นำแสดงร่วมกับ เอมิลี บลันต์ และกำลังมีกระแสลุ้นรางวัลออสการ์ โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดตัวด้วยรายได้สูงกว่า 20 ล้านดอลลาร์ในสุดสัปดาห์แรก
การแสดงครั้งนี้ทำให้อูซิกเดินตามรอยนักมวยหลายคนที่เคยผันตัวไปแสดงภาพยนตร์ เช่น โทนี่ เบลลู ใน Creed และ อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ใน Rocky Balboa ที่น่าสนใจคือ เอจิส คลิมาส ผู้จัดการตัวจริงของอูซิก ก็รับบทเป็นผู้จัดการของ อิกอร์ ในทุกฉาก เพื่อเพิ่มความสบายใจให้กับเขา
สัญญาณของการเกษียณ: “สู่กรง” กับ เจก พอล
แม้ว่าอูซิกจะอยู่ในช่วงพีคของอาชีพ (ชนะ 6 ไฟต์รวดใน 4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการเอาชนะ ไทสัน ฟิวรี และ แอนโธนี โจชัว) แต่การตัดสินใจรับงานแสดงที่ไม่ได้เป็นการลองครั้งเดียว (เขามีประวัติการแสดงก่อนหน้าในปี 2016 และ 2018) และคำพูดล่าสุดบนโซเชียลมีเดีย สะท้อนว่าเขาเริ่มมองหาทางเลือกอื่นแล้ว:
ringmagazine.com
คำพูดท้าทาย เจก พอล: อูซิกเพิ่งโพสต์ท้าทาย เจก พอล ผ่านโซเชียลว่า: “อีกไม่นานฉันจะปิดฉากอาชีพมวย แล้วหลังจากนั้น ฉันจะรอเจอนายในกรง” การที่แชมป์โลกกำลังพูดถึงการเปลี่ยนไปสู่สังเวียนกรง แสดงให้เห็นว่าโฟกัสของเขาเริ่มเปลี่ยนจากเวทีมวยสากลแล้ว
กำหนดการที่วางไว้: อูซิกวัย 38 ปี ซึ่งจะอายุ 39 ปีในเดือนมกราคม เคยบอกไว้ว่าจะชกอีกเพียง 2 ไฟต์ (นับรวมไฟต์ชนะ แดเนียล ดูบัวส์) ซึ่งหมายความว่าเขาจะป้องกันแชมป์โลกอีกเพียงครั้งเดียว ก่อนจะแขวนนวม
การที่อูซิกยังคงอยู่ในช่วงพีคของฟอร์มการชกมวย แต่กลับแสดงความพร้อมที่จะก้าวออกจากเวที สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะมองหาอาชีพที่ยั่งยืนกว่า โดยสามารถ “เล่นเป็นนักสู้” ต่อไปได้โดยไม่ต้องรับหมัดจริงๆ เช่นเดียวกับเส้นทางที่ ดเวย์น จอห์นสัน เคยประสบความสำเร็จ
(komthai.com ขอ1คลิก แล 1 โคนา เมื่ออ่านจบ .. :: 1 กำลังใจ)
news Photo Credit : นายคาปูชิโน่
*คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าวเว็บ boxingboy2021.blogspot.com