<<>>  หลายคนยังไม่ทราบว่า “นวม” ผลิตขึ้นมาเพื่อปกป้อง “มือของผู้ชก” ไม่ใช่เพื่อปกป้องศีรษะ จึงเกิดข้อถกเถียงและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อความบาดเจ็บของนักมวย อันเกิดจากการใช้ “นวมเล็ก” และ “นวมใหญ่” ว่านวมแบบไหนทำให้นักมวยได้รับอันตรายมากกว่ากัน
 
 
เรื่องนี้มีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศ โดยเผยแพร่ทางเว็บไซต์ Legends Only League และ Sweet Science of Fighting แหล่งข้อมูลออนไลน์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่น่าเชื่อถือของคนในแวดวงศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก ซึ่งให้ข้อมูลว่า
 
 
 
 
 
 
“นวมใหญ่” หรือนวมที่ใช้ชกมวยทั่วไปในกีฬามวยสากล มวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง มีขนาดต่างกันไปตามความหนาของการบุนวม โดยขนาด 8 และ 10 ออนซ์ จะใช้ในการแข่งขัน ส่วนขนาด 16 ออนซ์ใช้ในการฝึกซ้อม
 
 
“นวมเล็ก” เป็นนวมที่พัฒนาขึ้นจากนวมชกมวย ใช้ในการแข่งขัน MMA ซึ่งมีการใช้ศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนง ทั้งเกมยืนและเกมนอน ลักษณะเป็นนวมเปิดนิ้วเพื่อให้มีอิสระในการปล้ำหรือจับล็อกได้ และจะบุนวมบางกว่านวมชกมวยทั่วไปเพื่อเน้นความเร็วและคล่องตัว โดยขนาดมาตรฐานจะอยู่ที่ 4 ออนซ์ ส่วนขนาด 7 ออนซ์ จะใช้ในการซ้อมและการแข่งขันในระดับสมัครเล่น
 
เว็บไซต์ดังกล่าวยังนำเสนอข้อมูลการทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลกระทบของนวมที่มีต่อการบาดเจ็บของนักกีฬา โดยระบุว่า
 
 
 
โดน “ปาเกียว” ถลุง!! ทีมงานแนะ “ฮัตตัน” แขวนนวม
 
 
“นวมใหญ่” ซึ่งมีการบุนวมหนากว่า ทำให้นักมวยรู้สึกมั่นใจในการชก เพราะปราศจากความกังวลกับแรงปะทะที่จะเกิดขึ้นกับนิ้วมือ จึงเพิ่มโอกาสให้นักมวยชกได้เต็มกำลัง โดยหวังผลให้คู่แข่งเกิดความบาดเจ็บ
หากเป้าหมายอยู่ที่ใบหน้าและศีรษะ หมัดภายใต้นวมใหญ่อาจไม่ได้ทำให้เกิดแผลแตกง่าย ๆ แต่แรงกระแทกที่ส่งออกไปสามารถกระจายเป็นวงกว้าง และสร้างความเสียหายต่อสมอง เพียงแต่เรามองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
 
 
นั่นหมายความว่า การแข่งขันจะยังดำเนินต่อไปได้ยาวนาน หลายยก ทำให้อวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกายคือ “สมอง” มีโอกาสสั่งสมความเสียหายภายในได้นับครั้งไม่ถ้วน
 
ขณะที่ “นวมเล็ก” ซึ่งบางและแข็งกว่า สามารถสร้างความเสียหายบริเวณพื้นผิวได้ง่าย ทำให้เกิดแผลแตก เลือดไหล หรือรอยฟกช้ำดำเขียวที่เห็นได้ชัดเจน คนส่วนใหญ่จึงคิดว่านวมเล็กนั้นอันตราย ซึ่งอันที่จริงแผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวเป็นสิ่งที่รักษาได้ไม่ยาก
 
 
 
 
 
 
อีกทั้งการใช้นวมเล็กมีโอกาสทำให้น็อกกันไว หรือเกิดแผลแตกง่าย ซึ่งส่งผลให้มีการยุติการแข่งขันรวดเร็ว ลดโอกาสการถูกกระทบกระแทกต่อสมองซ้ำ ๆ สั่งสมระยะยาว ซึ่งเป็นความบาดเจ็บภายในที่ยากจะรักษา
 
นวมเล็กช้ำนอกเจ็บแต่จบไว นวมใหญ่ช้ำในสั่งสมระยะยาว ไม่ว่าจะใช้นวมประเภทไหน “นักมวย” เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงกว่าคนปกติทั่วไป โดยเฉพาะการชก “มวยไทย” ที่กติกาอนุญาตให้ใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอาวุธได้ ยิ่ง “ศอก” ที่เป็นส่วนของกระดูกแข็ง มีลักษะแหลมคม เป็นอาวุธสั้นที่มีแรงกระแทกสูง มีเป้าหมายหลักคือบริเวณใบหน้าและศีรษะ แต่กลับไม่มีเครื่องห่อหุ้มป้องกัน
 
 
ใน ONE มีการใช้ทั้งนวมใหญ่และนวมเล็ก โดย “นวมใหญ่” จะใช้ในการแข่งขันคิกบ็อกซิ่ง ส่วน “นวมเล็ก” ใช้ในการแข่งขัน MMA และมวยไทย เพราะนวมเล็กเอื้ออำนวยต่อการใช้ศิลปะมวยไทยในการเข้ากอดปล้ำตีเข่าได้ถนัดกว่า อย่างเดียวที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องของนิ้วมือที่โผล่ออกมา อาจจะเกิดการข่วนหรือจิ้มตาได้ ซึ่งทาง ONE ก็มีมาตรการเข้มงวดให้นักมวยตัดเล็บให้สั้นทุกครั้งก่อนการแข่งขัน
 
 
 
kim dok koo
 
 
อย่างไรก็ตาม นวม MMA มีการนำมาใช้แข่งขันในกีฬาการต่อสู้มานานหลายสิบปี แต่สำหรับนักมวยไทยอาจดูเหมือนเป็นเรื่องใหม่ จึงควรฝึกฝนการใช้ให้เกิดความคุ้นชิน ซึ่งการใช้นวม MMA ทำให้นักมวยป้องกันตัวได้ยากกว่า จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาทักษะการป้องกันตัว การหลบหลีก และฟุตเวิร์กมากขึ้น ไม่ยืนรับหมัดเหมือนอย่างที่ทำกัน รวมถึงการชกที่ไม่จำเป็นต้องออกแรงมากเหมือนนวมใหญ่ เพราะหมัดภายใต้นวมเล็กที่เข้าเป้าและแม่นยำ จะเกิดประสิทธิภาพเพียงพอที่จะหยุดคู่ต่อสู้ได้
อ้างอิง:
 
 
 
 
 
 
 
freakish12345
 
 

@ News  Photo Credit :: วัน แชมเปียนชิพ ไทยแลนด์

@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว boxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments