<<>> ใกล้เข้ามาทุกขณะกับการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากครั้งแรกในปี 2562 ซึ่งครั้งนี้รับรองว่ายิ่งใหญ่อลังการกว่าเดิม โดยเป็นการรวม 8 นักสู้สายแข็งระดับท็อปของโลกมาเผชิญหน้ากัน

การแข่งขันคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 4 คู่ ในรอบแรกจะจัดให้มีขึ้นในศึก ONE: FIRST STRIKE ซึ่งจะถ่ายทอดสดในศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564 ส่วนใครได้ประจันหน้ากับใคร เราจะพาไปทำความรู้จักไล่เรียงไปทีละคู่ ไปดูกันเลย

#1 แอนดี vs  มารัต

Souwer X Grigorian


การเผชิญหน้าครั้งสำคัญระหว่าง “Souwer Power” แอนดี ซาวเวอร์ และ “มารัต กริกอเรียน”  ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีศักดิ์ศรีแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งค้ำคอ

ฝ่าย แอนดี คิกบ็อกเซอร์ต้นตำรับชาวดัตช์ ผ่านการต่อสู้มาร่วม 200 ไฟต์ และเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก K-1 World MAX 2 สมัย รวมถึงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งอีก 6 สมัย โดยเขาหวังคว้าแชมป์ เวิลด์​ กรังด์ปรีซ์ มาครองพร้อมปิดจ๊อบชีวิตนักสู้อย่างสมศักดิ์ศรีในวัย 38 ปี

 

ขณะที่ มารัต ชาวอาร์เมเนีย-เบลเยี่ยมวัย 30 ปี ผู้รั้งอันดับ 3 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต พกดีกรีแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง 5 สมัย ขึ้นสังเวียน เขาคือนักชกคิกบ็อกซิ่งตัวท็อประดับโลกที่เคยฟาดปากกับ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” มาแล้ว 5 ภาค โดยเอาชนะ สิทธิชัย ไปได้ในครั้งล่าสุดเมื่อเดือน พ.ค.62 ทั้งก่อนหน้านั้นยังเคยกดน็อก “ซุปเปอร์บอน” มาแล้วเมื่อ ก.พ.61

ในการแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ ครั้งนี้ มารัต มุ่งมั่นเต็มที่จะสานต่อชัยชนะหลังเปิดตัวกับ ONE อย่างสวยงามด้วยแจกน็อก “อีวาน คอนดราเทฟ” เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา

#2 สิทธิชัย vs ไทฟุน


เดิมที “Killer Kid” สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ถูกวางตัวไว้ให้เจอกับ “Turbine” ไทฟุน ออสแคน ในศึก ONE: BATTLEGROUND III เมื่อ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่มีเหตุต้องคลาดกันเนื่องจาก ไทฟุน ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บที่มือเพียงไม่กี่วันก่อนการแข่งขันจนต้องถอนตัวไป ศึกนี้จึงเป็นโอกาสที่ทั้งสองจะได้ฟาดปากกันสมใจ

 

สิทธิชัย ผู้รั้งอันดับ 4 ของแรงกิงรุ่นนี้ เป็นที่รู้จักในฐานะนักชกระดับมวยแม่เหล็กแห่งวงการคิกบ็อกซิ่งอันดับต้น ๆ ของโลก พ่วงดีกรีแชมป์โลกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง 12 สมัย โดยเขาหวังมาทวงคืนความยิ่งใหญ่บนเวที ONE ด้วยการคว้าเป็นแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ต่อด้วยแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต

 

ขณะที่ ไทฟุน ผู้รั้งอันดับ 5 ของแรงกิงรุ่นนี้ ถือเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งติดอันดับท็อป 10 ของโลก มาพร้อมสถิติอันน่าทึ่ง ชนะ 83 แพ้ 8 เสมอ 3 โดยในศึก 13 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมาตั้งแต่ปี  2560 เขาไม่แพ้ใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว

#3 เซมี vs ชิงกิซ


“AK47” เซมี ซานา ชาวแอลจีเรีย-ฝรั่งเศส กลับมาลงชิงชัยในฐานะรองแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ปี 2562 โดยครั้งที่แล้ว เซมี โชว์ผลงานปราบนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่อย่าง “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” แบบช็อกโลกในรอบแรกและ “จาบาร์ แอสเครอฟ” ในรอบรองชนะเลิศ จนทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ต้องพ่ายคะแนน  “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ไปอย่างน่าเสียดาย ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่เขาจะกลับมาแก้ตัว

 

ด้าน “Chinga” ชิงกิซ อัลลาซอฟ ยอดฝีมือจากอาเซอร์ไบจาน เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก K-1 สองสมัย ได้รับการยกย่องว่าเป็นจอมน็อกเอาต์มือฉมัง โดยจากสถิติ ชนะ 56 แพ้ 4 เสมอ 1 นั้นชัยชนะ 34 ครั้งเป็นการปิดเกมคู่แข่งด้วยการน็อกเอาต์

 

ทั้งยังเคยสยบนักชกระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งไทยและเทศมาแล้วหลายราย ทั้ง สุดสาคร ส.กลิ่นมี, “Genghis Khan” จาบาร์ แอสเครอฟ, “The Hurricane” เอ็นริโก เคห์ล, และยอดฝีมืออันดับ 2 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต “Dynamite” มุสตาฟา ไฮดา โดยครั้งนี้เขาหวังมาแก้มือหลังพ่ายให้แก่ “เอ็นริโก เคห์ล ในไฟต์เปิดตัวกับ ONE เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

#4 เอ็นริโอ เคห์ล vs. ดาวิต คิเรีย


“The Hurricane” เอ็นริโก เคห์ล คิกบ็อกเซอร์ชาวเยอรมันเป็นอีกคนที่เคยลงศึก เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่ผ่านมา แต่พลาดแพ้ “จาบาร์ แอสเครอฟ” ตกรอบไปเสียก่อน ครั้งนี้ เอ็นริโก จึงเตรียมกลับมาลุยใหม่อีกครั้ง

เอ็นริโก เป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก K-1 ผู้เคยปราบ บัวขาว บัญชาเมฆ มาแล้ว ส่วนบนเวที ONE เขากำสถิติชนะ 3 แพ้ 1 โดยหนึ่งในชัยชนะครั้งสำคัญคือการเล่นงาน “อาร์เมน เปโตรเซียน” น้องชายสุดที่รักของ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน”

ส่วน “ดาวิต คิเรีย” เป็นนักชกเบอร์หนึ่งจากจอร์เจีย พ่วงดีกรีแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งหลายสมัย เขาเคยประมือกับนักชกระดับแถวหน้าของโลกมาแล้วมากมาย หนึ่งในนั้น คือ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ในครั้งที่เขามาปรากฏตัวครั้งแรกบนเวที ONE แต่เป็นฝ่ายพ่ายคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ เขาจึงหวังมาแก้มือในศึกครั้งนี้

 

 

@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments