<<>> 10 กันยายน 2564 สนามมวยเวทีลุมพินี โดย “บิ๊กแดง” พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยเวทีลุมพินี พร้อมด้วยโปรโมเตอร์นำโดย “เชฟบุญธรรม” นายบุญธรรม ภาคโพธิ์, “ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์”นางสุนทรี โละพืช ,”เสี่ยชาย โกสปอร์ต” นายสิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ประธานบริหารฯ บริษัท โกสปอร์ต จำกัด และ ปฐมพงศ์ ผลอารีย์ ทีมงานประชาสัมพันธ์ ประกาศความพร้อมเวทีมวยลุมพินีกลับมาจัดแข่งขันมวยไทยระบบปิด
เวทีมวยลุมพินี จะกลับมาจัดมวยไทยระบบปิด ตั้งเวทีที่อาคารที่จอดรถชั้นสูงสุด บนชั้นที่ 5 เปิดหัวด้วยศึกเชฟบุญธรรม ในวันที่ 15 กันยายนนี้ เป็นนัดแรกในระบบปิดตามมาตรการของ ศบค.ที่ให้จัดได้ไม่เกิน 20 คน โดยจัดเวทีเปิดกว้างที่ลานจอดรถชั้น 5 เวทีลุมพินี โดยมีการถ่ายทอดสดทางช่องโกสปอร์ต และทางเพจ-ยูทูบช่อง 44 เชฟบุญธรรมในเวลา 17.00-20.00 น.
คู่มวยระดับพระกาฬ 5 คู่ ประกอบด้วย คู่ที่ 1 สมิงแดง ว. จักรวุฒิ พบ บิน เหลี่ยมธนวัต (120 ปอนด์) คู่ที่ 2 แหวนเพชรเล็ก ศักดิ์ปิ่นสยาม พบ เสือสยาม แก้วสัมฤทธิ์ (110 ปอนด์) คู่ที่ 3 อีสานใต้ เอก. วรรักษา พบ เพชรทอง นายกวิทย์ทุ่งสง (125 ปอนด์) คู่ที่ 4 พลอยวิทยา นายกวิทย์ทุ่งสง พบ ฟลุ๊คน้อย เกียรติฟ้าลิขิต (132 ปอนด์) คู่ที่ 5 หนึ่งอุบล ศิษย์เชฟบุญธรรม พบ แรมบ๊อง สป.สายไหม (126 ปอนด์) คู่ที่ 6 คู่เอก เสาเอก ศิษย์เชฟบุญธรรม พบ เพชรไพลิน สจ.โต้งปราจีน (119.5 ปอนด์)
พล.ท.สุชาติ กล่าวว่า ตนรับนโยบายจากผู้ใหญ่มา 3 ข้อคือ
1. ลุมพินียุคใหม่ปลอดพนัน 100 %
2. สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของลุมพินี
3. ลุมพินี จะสร้างความชอบธรรมให้คนมวยไทย
ที่ผ่านมาเราปฏิรูปไปทั้งระบบแล้ว ลุมพินีปัจจุบันเป็นบ้านใหม่ แต่สถานที่เดิมและเราจะใช้โครงสร้างนี้อีก 3-5 ปี เวทีมวยห้องแอร์เดิมจะเป็นสถานที่สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ เราจะยกเลิกการขออนุญาตเล่นการพนันจากกรมการปกครอง เราจะเน้นนำเสนอมวยไทยแบบตื่นเต้น เร้าใจ เน้นยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ศบค.และกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้เรากลับมาจัดมวยแบบปิดแต่เป็นเวทีใหม่ไม่ติดแอร์ อากาศถ่ายเท ซึ่งได้อนุญาตแบบเดือนต่อเดือนและจะมีการประเมินตลอด
พล.ท.สุชาติกล่าวต่อว่า นักมวยที่จะขึ้นชกต้องผ่านการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม และก่อนชกต้องตรวจหาเชืื้อโควิด-19 ก่อน เวทีลุมพินียุคใหม่จะทำงานร่วมกับทุกคน ไม่ผูกมัดโปรโมเตอร์ เราได้เชฟบุญธรรม กับซ้อเอ๋ มาช่วย แถมเร็วๆ นี้เรายังจะร่วมมือกับพี่ชายอย่าง “ชุ้น เกียรติเพชร” มาร่วมมือกันอีก อนาคตลุมพินี ยังจะมีการจัดตั้งโรงเรียนสอนมวยไทยขึ้นมาด้วย
“โดยมีแผนจะปฏิรูปมวยไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ ส่งเสริมผู้เกี่ยวข้องวงการมวยครบวงจร ทั้งมวยไทยชายแบบมาตรฐาน 5 ยก ยกระดับมวยหญิง มายไทย 3 ยก และมวยผสมผสาน รวมถึงสร้างความชอบธรรมในการตัดสิน โดยหัวใจสำคัญคือปลอดการพนันในเวทีมวย รวมถึงจัดตั้ง โรงเรียนมวยไทย เสริมส่งนักมวยที่แขวนนวม เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้ช่วยเหลือตัวเองและประเด็นอีกมากมาย เพื่อให้มวยไทย เป็นศูนย์กลางศิลปะการต่อสู้ยอมรับในโลกสากล
“บิ๊กแดง” เผยถึงแผนงานซึ่งมีการศึกษาข้อมูล วางแผน เตรียมการมานานข้ามปี ในช่วงที่โลกรับผลกระทบจากไวรัสโควิด และยังกระทบโดยตรงถึงสังคมมวยในประเทศไทย จนไม่สามารถเคลื่อนไหวกิจกรรมใดๆได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุดเริ่มมีนโยบายผ่อนคลายจากภาครัฐ ทยอยปลดล็อกดาวน์ และพิจารณาให้กีฬาบางชนิดเริ่มกลับมาทำการจัดได้บางพื้นที่บ้างแล้ว
“ในสายตาคนนอกวงการโดยทั่วไปอาจมองว่า มวยนั้นเป็นเพียงแค่กีฬา !!”
“…ทว่าในความเป็นจริงแล้ว มวยไทยคือ อาชีพ เป็นอาชีพครบวงจรที่ ไม่เพียงแต่ นักมวย โปรโมเตอร์ หรือ หัวหน้าคณะ แต่ยังรวมไปถึง เซียนมวย พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย ที่ล้วนมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับ การแข่งขันชกมวยด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งยังเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่ได้รับยอมรับไปทั่วโลก สามารถทำเงินรายได้ จากการแข่งขัน ตลอดจนฝึกสอนเผยแพร่วิชาอีกมากมาย”
นายสนามลุมพินี กล่าวถึงแผนชุบชีวิตวงการมวยให้คืนชีพอีกครั้งว่า “การขับเคลื่อนก้าวแรกคือการ เตรียมกลับคืนสู่การจัดแข่งขัน เป็นที่ทราบดีในช่วงโควิดแพร่ระบาดรุนแรง ทางเวทีลุมพินีได้ศึกษาข้อมูล มาตรการป้องกันอย่างละเอียด เพื่อขออนุญาตจัดการแข่งขันอีกครั้ง ภายใต้การรับรองของ ศบค. และภาครัฐ ด้วยการเตรียมจัดแบบระบบปิดโดยมีมาตรการเคร่งครัด จำกัดจำนวนผู้เกี่ยวข้อง และไม่อนุญาตให้มีผู้ชมเข้าเวที แต่จะมีการถ่ายทอดสด ด้วยการเลือกสนามที่ เป็นอาคารจอดรถ ภายในเวทีลุมพินี รามอินทรา”
พล.ท.สุชาติ เผยอีกว่า “ไม่เพียงเท่านั้น เรายังทำ เอ็มโอยู ร่วมกับ ม.บูรพา ในการพัฒนาศักยภาพ นักมวย และวงการมวย ทั้งในส่วนของวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงการส่งเสริม โรงเรียนมวยไทย ดึงนักมวยเก่าที่เลิกชกไปแล้ว กลับมาเป็นครูฝีกสอน มีมาตรฐานรับรอง พร้อมส่งออกไปเป็นครูมวยไทยทั่วโลก สร้างแบรนด์สนามมวยลุมพินี เป็นตัวแทนของ มวยไทย เพื่อสร้างชื่อเสียงในนามของประเทศไทย
“ทั้งนี้ โครงการและแผนงานดังกล่าวจะสำเร็จลุล่วงได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ทางสนามมวยฯ ต้องขอขอบพระคุณ ศบค. ที่เปิดโอกาสคลาย ล็อกดาวน์ ให้คนในวงการมวยได้ดำเนินกิจกรรมต่อไป ขอขอบคุณ กรุงเทพมหานคร(กทม.) ให้โอกาสคนวงการมวยได้กลับมามีอาชีพอีกครั้ง ขอบคุณ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. ) ที่ให้โอกาสในการถ่ายทอดแบบไม่มีผู้ชมในสนาม ขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผู้ให้การร่วมมือส่งเสริมและสนับสนุน การดำเนินงานของเวทีมวยลุมพินีให้เป็นพื้นที่จัดการแข่งขัน และขอขอบคุณ นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย ที่ให้การสนับสนุนและเป็นที่ปรึกษาในการทำให้สนามมวยเวทีลุมพินีได้กลับมาจัดการแข่งขันในระบบปิดอีกครั้ง
“ลุมพินีขอโอกาสจากสังคมให้กลับมาจัดแข่งแบบปิดด้วยเหตุผลข้อเดียวคือ ให้ลูกหลานนักมวยได้ประกอบอาชีพ ลุมพินียินดีรับการตรวจสอบทุกเรื่อง เราจะไม่ทำลายระบบวงการมวยไทย ต้องยอมรับว่าโควิดกับเรื่องการพนันทำให้เราต้อวเปลี่ยนแปลง ขอกำลังใจให้พวกผมเดิน ลุมพินีในยุคของผมจะร่วมมือกับทุกฝ่าย” นายสนามมวยเวทีมาตรฐานลุมพินี กล่าว
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ.
