<<>> การแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่นชาย รุ่นฟลายเวต พิกัด 52 กก. ในโอลิมปิก 2020 ที่ โตเกียว รอบควอเตอร์ไฟนัล เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 เรียวเมอิ ทานากะ เอาชนะ ยูเบอร์เจน เฮอร์เนย์ มาร์ติเนซ ริวาส จากโคลัมเบีย ไปอย่างขาดลอย 4-1 เสียง
ท่ามกลางความกังขาของการให้คะแนนจากผู้ตัดสินมวยโอลิมปิกเกมส์ เกิดเป็นที่ครหาขึ้นอีกครั้ง เพราะมวยคู่นี้ปราดกันเข้าใส่แลกอาวุธหมัดกันอย่างดุเดือดตั้งแต่วินาทีแรกหลังครบ 3 ยก ทานากะ คว้าชัยชนะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปรอพบกับ คาร์โล ปาอลัม ความหวังฟิลิปปินส์ ในวันที่ 5 ส.ค.64 นี้ พร้อมได้รับการคาดหวังว่า เรียวเมอิ จะเป็นนักมวยญี่ปุ่นคนแรกนับตั้งแต่ปี 1960 ที่ได้ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ หลังจาก คิโยชิ ทานาเบะ เคยทำได้เพียงเหรียญทองแดงในโอลิมปิกที่กรุงโรมครั้งนั้น
การชก โอลิมปิก 2020 รอบควอเตอร์ เมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเสียงวิจารณ์ว่า หลังคำตัดสินลงจากเวที เรียวเมอิ ทานากะ ผู้ชนะยังต้องนั่งรถเข็น(วีลแชร์)ชั่วคราวกันเลยทีเดียว หลังการประกาศคะแนนนักชกทั้งคู่ถึงกับทรุดฮวบลงกับพื้นเวที
ตัวของ มาร์ติเนซ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า “ผมรู้สึกเหมือนถูกปล้นชัยชนะ ผมว่าผมทำหน้าที่ได้ดีที่สุด แต่ไม่รู้ว่ากรรมการมองอย่างไร” มาร์ติเนซ นักชกวัย 29 ปีผู้ปราชัยชาวโคลัมเบีย กล่าวด้วยความผิดหวัง พร้อมๆกับความโกรธแค้นของแฟนมวยชาวโคลัมเบียและสื่อมวลชนของตนที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเอนเอียงเข้าข้างนักชกเจ้าภาพของผู้ตัดสินที่ทำให้ ทานากะ ได้เหรียญทองแดงตุนไว้ในมือ ขณะที่ มาร์ติเนซ ต้องกลับบ้านมือเปล่าหลังจบภาระกิจใน โตเกียว 2020 ทั้งที่เจ้าตัวเคยคว้าเหรียญ โอลิมปิกเกมส์ ที่ริโอ เมื่อ 5 ปีก่อน
สำหรับ เรียวเมอิ ทานากะ อายุ 27 ปี เป็นพี่ชายอดีตแชมป์โลก 3 พิกัด โคเซอิ ทานากะ ชัยชนะในโตเกียว 2020 รอบนี้ ทำให้เข้าไปพบกับ คาร์โล ปาอลัม ความหวังของทีมกำปั้นฟิลิปปินส์ วัย 23 ปี ที่เพิ่งเขี่ย ชักโฮบดิน ไซรอฟ อดีตแชมป์โอลิมปิก และแชมป์โลกมวยสมัครเล่น จากอุซเบกิสถาน
ซึ่ง เรียวเมอิ กำลังจะกลายเป็นฮีโร่จากมวยในโอลิมปิกของเจ้าภาพ สานฝันของตนที่อยากได้เหรียญก่อนจะเทิร์นโปรชกอาชีพตามน้องชายที่กำลังไล่ล่า เข็มขัดแชมป์โลกรุ่นที่ 4
