<<>> หากพูดถึงนักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกของรายการ “ศึกมวยปล้ำ WWE” (World Wrestling Entertainment) ย่อมมีชื่อ แอนดรูว์ แม็กลีน แกลโลเวย์ที่ 4 (Andrew McLean Galloway) อยู่ในใจของหลายๆ คนอย่างแน่นอน แอนดรูว์ แม็กลีน แกลโลเวย์ที่ 4 หรือที่รู้จักดีในนาม “Drew McIntyre ดรูว์ แม็กอินไทร์” เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวสกอตแลนด์ ที่มีท่า Claymore Kick (เคลย์มอร์ คิก) เป็นท่าไม้ตายประจำตัว เขาเป็นอดีตแชมป์ Raw (WWE Championship) ที่มีผลงานการันตีความสามารถมากมาย
อาทิ แชมป์โลก WWE RAW 2 สมัย, แชมป์โลก TNA 1 สมัย, แชมป์โลก NXT 1 สมัย, แชมป์โลก Tag Team 2 สมัย และรางวัลจากสมาคม WWE อาทิ WWE Championship (2 สมัย), WWE Intercontinental Championship ( 1 สมัย), NXT Championship (1 สมัย), WWE Raw Tag Team Championship (2 สมัย) – with Cody Rhodes and Dolph Ziggler, Slammy Award ที่ได้รับตำแหน่งเป็น Superstar of the Year และ Male Superstar of the Year ในปี 2020 ฯลฯ
บนเส้นทางนักสู้ของเขาไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครๆ คิด “Drew McIntyre ดรูว์ แม็กอินไทร์” ได้เปิดใจแบบเอ็กซ์คลูซีฟว่า “ชีวิตเขาเริ่มฝึกมวยปล้ำมาตั้งแต่อายุ 15 ปี (ปี 2000) ตระเวนปล้ำไปทั่วทั้งประเทศอังกฤษ ก่อนจะก้าวเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาตอนอายุ 22 ปี ในปี 2007 ซึ่งก่อนที่จะเป็นแชมป์ WWE RAW จนเป็นที่รู้จักดังเช่นปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะช่วงชีวิตหนึ่งของเขาต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวัง จากดาวรุ่งกลายเป็นดาวร่วง เพราะปัญหาหลังฉากที่ทำให้ชีวิตในอนาคตของเขาดับวูบซึ่งไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัด ทำให้เขาถูกลดบทบาทให้มาอยู่ร่วมทีมกับ 3MB (Three Men Band) ซึ่งเป็นบทบาทที่ไม่โดดเด่นนัก เพราะเป็นแค่ตัวประกอบที่ออกมาทำอะไรแบบตลกๆ ดูแบบไร้สาระ
บนเวที หรือ ออกมาให้ถูกคู่ต่อสู้รุมสกรัมอัดอย่างเดียว จากนั้น ดรูว์ ในวัย 29 ปีกับสมาชิกในทีมก็ถูกไล่ออกจากสมาคม WWE ในปี 2014 จนต้องกลับไปที่ประเทศอังกฤษบ้านเกิด พร้อมเก็บตัวตั้งใจฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่ง เพื่อกลับมามีชื่อเสียง และภาพลักษณ์ที่ดีกว่าเดิม และในปี 2017 ชายหนุ่มทรงพลังในวัย 32 ปีผู้นี้ก็ได้กลับเข้าสู่สมาคม WWE อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง เขาประสบความสำเร็จคว้าตำแหน่งแชมป์โลก WWE RAW คนปัจจุบันมาครอง
WWE
ซึ่งเขารู้สึกภูมิใจกับความทุ่มเทของตัวเองมาก เขาแสดงให้โลกได้เห็นถึงการฟิตซ้อมและทำงานอย่างหนัก พร้อมอุทิศตนให้กับวงการมวยปล้ำอาชีพอย่างเต็มใจ และไม่ว่าเขาจะล้มเหลวแค่ไหน เขาก็ยังสามารถลุกขึ้นยืนขึ้นมาได้และก้าวเดินต่อไป เพื่อโอกาสในการคว้าแชมป์โลก WWE มาครอง สมกับความตั้งใจที่ทุ่มเทและพยายามที่ทำมาตลอดชีวิต
โดย ดรูว์ ยังได้เปิดใจเพิ่มเติม หลังจากที่รู้ว่าการแข่งขันของเขา จะมีการถ่ายทอดสดสู่ประเทศไทย “ผมอยากมาประเทศไทย ผมชอบกีฬามวยไทย (Muay Thai) มาก ผมได้ฟังจากเพื่อนๆ ที่ไปเรียนมวยไทย เขาบอกว่า มวยไทยเป็นกีฬาต่อสู้ ที่มีรูปแบบสวยงาม ถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งของมวยปล้ำได้เลย เราสามารถใช้ หมัด เท้า เข่า ศอกได้หมด รวมถึงมันมีท่าต่อสู้ที่เยอะมาก ซึ่งเหตุผลนี้จึงทำให้ผมสนใจมวยไทยมาก จนทำให้ผมต้องการจะมาที่ประเทศไทย เมื่อสถานการณ์โรคระบาดกลับสู่ภาวะปกติ ผมอยากจะไปประเทศไทย ไปเรียนมวยไทย คนสกอตแลนด์หลายคนก็คิดเหมือนผมนะครับ“
Courtesy of WWE
ซึ่งแฟนมวยปล้ำชาวไทย จะได้ชมแมชต์ที่ดีที่สุดจากนักมวยปล้ำทุกคน คุณจะได้เห็นนักมวยปล้ำใส่กันเต็มที่ทุกสัปดาห์ ตั้งแต่แมชต์แรกจนแมชต์สุดท้าย เพื่อพิสูจน์ตัวเองสู่ในรายการ Wrestlemania (เรสเซิลเมเนีย) ซึ่งเป็นรายการถ่ายทอดสดการแสดงมวยปล้ำอาชีพ ของ WWE ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ติดตามความมันส์แบบไร้ขีดจำกัดกับกีฬามวยปล้ำ ที่มีทั้งความสนุกทุกคู่ เลือดสาดทุกแมตช์ เกรี้ยวกราดทุกช็อต เหงื่อไหลย้อยทุกซีน ชั้นเชิงขั้นเทพแบบโหด-เลว-ดี ไม่มีสิ้นสุด รับชมความสนุกเร้าใจที่เรียกความสะใจจากแฟนมวยปล้ำทั่วโลกชมกันแบบเต็มอิ่มได้ ทุกเช้าวันอังคาร จะได้ชมรายการ RAW เวลา 07.00 – 10.00 น. และ ทุกเช้าวันเสาร์ ชมรายการ SMACKDOWN เวลา 07.00 – 09.00 น. ที่ช่องกีฬา 3BB SPORTS ONE หมายเลข 401 ผ่านบริการ 3BB GIGATV สอบถามเพิ่มเติม โทร 1530
@ News Photo Credit : Khaosod Sports – Sodsroi Sawsangvea
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ..