<<>> หากแฟน ๆ วัน แชมเปียนชิพ ยังจำกันได้ นักมวยไอริชนามว่า “ฌอน แคลนซี” คนนี้ เคยมาเปิดตัวครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนกันยายน 2563 โดยเผชิญหน้ากับนักมวยไทยสายบู๊หัวใจใหญ่กว่าตับ “พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในฐานะคู่เอกศึก ONE: A NEW BREED II ซึ่งจัดขึ้นแบบสนามปิด โดยบทสรุป เละทั้งคู่ ย็บบาดแผลจากการชกที่โรงพยาบาลพร้อมกัน โดยฌอน 4 แผล 52 เข็ม ส่วนพงษ์ศิริ 1 แผล 7 เข็ม  และไฟต์นั้นได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในไฟต์ยอดเยี่ยมแห่งปีเลยทีเดียว

 

Irish Muay Thai World Champion Sean Clancy sits on the edge of the ring

 

ฌอน กำลังจะกลับมาขึ้นสังเวียนสร้างความมันหยดให้แฟน ๆ ซดกันอีกครั้ง คราวนี้ต้องเจองานหนักกว่าเก่า เมื่อเขาถูกประกบคู่ให้เจอกับรุ่นน้องร่วมค่ายของ พงษ์ศิริ อย่าง “ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ในฐานะคู่รองศึก ONE: DANGAL ซึ่งจะออกอากาศบันทึกการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 15 พ.ค.นี้ ซึ่งก่อนที่เราจะได้เห็นบทสรุปของการแข่งขัน เราอยากให้แฟน ๆ ทุกท่านได้รู้จักนักมวยไอริชคนนี้ให้มากขึ้น

“ฌอน แคลนซี” เกิดในย่านชนบทของประเทศไอร์แลนด์ ประเทศเล็ก ๆ บนเกาะที่มีประชากรเพียง 4 ล้านกว่าคน ในวัยเด็กเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องกีฬา แม้แต่รักบี้หรือฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาสุดฮิตของคนทั้งประเทศ แถมพ่อแม่ยังสนับสนุนให้เขาเล่นดนตรีและทำอย่างอื่นมากกว่า

ตอนที่ ฌอน อายุได้ 21 ปี เขาเข้ายิมเพื่อออกกำลังกายโดยเน้นเรื่องคาดิโอกับเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รับการชักชวนให้ไปดูการแข่งขันมวยไทย ซึ่งมีเพื่อนคนหนึ่งขึ้นชกในรายการนั้น

 

 

ทีแรก ฌอน ก็ไม่ค่อยกระตือรือร้นสักเท่าไหร่แต่พอไปถึง การดูมวยไทยครั้งแรกได้สร้างแรงดึงดูดมหาศาล เขาไม่ได้ลุกจากเก้าอี้เลยตั้งแต่ต้นจนจบ และหลังจากวันนั้นเขาก็ดิ้นรนที่จะฝึกฝนมวยไทยโดยไม่ต้องให้ใครมาชวน

เมื่อเรียนมวยไทยได้ไม่นานนัก ฌอน ตัดสินใจขึ้นชกทดสอบฝีมือของตัวเอง โดยไม่ได้คิดการไกลถึงขั้นจะยึดเป็นอาชีพ มันเป็นเพียงความท้าทายซึ่งการที่สามารถเอาชนะตัวเองได้ ทำให้ ฌอน อยากจะเดินไปสู่เป้าหมายต่อไป มันสร้างแรงบันดาลใจให้เขาพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ และเดินมาไกลเกินกว่าที่ตัวเองประเมินไว้

ปีครึ่งหลังจากนั้น ฌอน ได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้มาดูเขาชกที่ประเทศไทย ตอนนั้น ฌอน ได้พบว่าด้วยการฝึกซ้อมที่เคี่ยวกรำตามมาตรฐานของค่ายมวยในเมืองไทย ทำให้ฝีมือของเขาแทบจะเทียบกับเพื่อนไม่ติดเลย และแน่นอนว่า ฌอน ไม่ลังเลที่จะขอฝึกฝนวิชามวยไทยที่เมืองไทยด้วยทันที

 

 

แม้ ฌอน จะเริ่มต้นเรียนมวยไทยช้าตอนอายุ 21 ปี แต่ความพากเพียรของเขามาตลอดเกือบ 10 ปี ส่งผลให้เขาเดินทางมาถึงฝั่งฝันกับการคว้าเข็มขัดแชมป์โลกเส้นแรกในชีวิต พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์การเป็น “นักมวยไอริชคนแรก” ที่เป็นแชมป์โลก WBC เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 อีกทั้งยังได้รางวัลนักมวยไทยดีเด่นของ WBC มาครองในปีเดียวกันเมื่อวัย 30 ปี

 

 

ปีกว่าหลังจากนั้น ฌอน ก็ได้รับโอกาสยิ่งใหญ่ของชีวิตนักมวย ด้วยการเซ็นสัญญาเข้ามาอยู่ในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ โดยเปิดตัวบนเวทีไฟต์แรกก็เจอมวยสายบู๊หัวใจใหญ่กว่าตับอย่าง “พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” เจ้าของเข็มขัดแชมป์มวยไทยหลายเส้น การแข่งขันครั้งนั้นจบลงอย่างดุเดือดเลือดโชก ทั้งคู่ถูกส่งโรงพยาบาลโดย ฌอน ถูกเย็บ 52 เข็ม ขณะที่ พงษ์ศิริ เย็บ 7 เข็ม แต่ไฟต์นั้นได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในไฟต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2563

 

พงษ์ศิริ vs ฌอน (11 ก.ย.63)

 

แม้ครั้งแรกบนเวทีระดับโลก ฌอน จะเปิดตัวไม่สวยนัก แต่เขาก็ได้ชื่อว่าทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีที่สุดแล้ว ส่วนในไฟต์ต่อไปซึ่งเขาจะได้เจอนักมวยไทยจากค่ายเดียวกันอย่าง “ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” รายนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เป็นมวยฝีมือหาตัวจับยากแถมฟอร์มกำลังหนุ่มสดสุด ๆ ฌอน ก็ยังใจกล้ารับคำท้าอย่างไม่เกรงกลัว และเขาเชื่อว่า วันเสาร์ที่ 15 พ.ค.นี้ เขาจะมีส่วนในการสร้างความบันเทิงบนสังเวียนมวยไทยให้แฟน ๆ ได้ชมสมกับที่ตั้งตารอคอย

 

@ news image credit :: ONE Championship

 

@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บ boxingboy2021.blogspot.com ได้เลยครับ..

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments