<<>> เมาริซิโอ สุไลมาน ประธาน ดับเบิลยูบีซี เชิดชู 4 ยอดมวยรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตยุคปัจจุบัน ทั้ง ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา, โรมัน กอนซาเลซ, ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น และ คาร์ลอส คูเอดราส ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ 4 ทหารเสือยุค 80 อย่าง ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด, มาร์วิน แฮกเลอร์, โธมัส เฮิร์นส์ และ โรเบอร์โต ดูรัน จันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น.

 

 
มาริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) ยกย่อง 4 นักชกแห่งรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ไม่ว่าจะเป็น “เอล กัลโญ” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา แชมป์โลกคนปัจจุบันชาวเม็กซิโก, “ช็อกโกลาติโต” โรมัน กอนซาเลซ เจ้าของแชมป์สมาควมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) ชาวนิการากัว, “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกชาวไทย รวมถึง คาร์ลอส คูเอดราส อีกหนึ่งอดีตแชมป์โลกจากแดนจังโก้
 
โดยระบุว่าการขับเคี่ยวของทั้ง 4 คนตลอดช่วงเกือบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้รุ่น 115 ปอนด์กลายเป็นหนึ่งในพิกัดที่มีความเข้มข้นที่สุดในวงการมวยโลกยุคนี้ และทั้ง 4 คนก็ร่วมกันสร้างความยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากยุค 80 ที่วงการกำปั้นโลกมี 4 ทหารเสืออย่าง ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด, มาร์วิน แฮกเลอร์, โธมัส เฮิร์นส์ และ โรเบอร์โต ดูรัน เลยทีเดียว  
 


ประธานใหญ่ ดับเบิลยูบีซี กล่าวว่า “พวกเขาผลัดกันขึ้นสังเวียนเจอกัน และสร้างไฟต์ที่ยอดเยี่ยมหลายครั้ง และแฟน ๆ ก็อยากให้การเจอกันของพวกเขาดำเนินต่อไป ไฟต์ยอดเยี่ยมไฟต์เดียวก็ดีมากแล้ว แต่เมื่อคุณได้เห็นซีรีส์การหมุนเวียนดวลกำปั้นกันมันยิ่งยอดเยี่ยม และมันคือสิ่งที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้พวกเขา เหมือน 4 ทหารเสือในยุค 80 นอกจากนี้ยังมีความเป็นคู่อริกันเหมือนยุคที่ ฮุมแบร์โต “ชิกิตา” กอนซาเลซ ดวลกับ ไมเคิล คาร์บาฮาล ซึ่งดวลกำปั้นกันถึง 3 ไฟต์ แต่ความแตกต่างคือ 4 ทหารเสือในรุ่น 115 ปอนด์ ยุคปัจจุบันมีองค์ประกอบและความหลากหลายมากกว่า” 


ก่อนหน้านี้ ทั้ง 4 คนผลัดกันดวลกำปั้นกันมาแล้วรวมทั้งหมด 9 ไฟต์ โดยในจำนวนนั้นมีเข็มขัดแชมป์โลก ดับเบิลยูบีซี เป็นเดิมพันทั้งหมด 7 ไฟต์ ก่อนที่ เอสตราดา มีคิวจะเปิดศึกล้างตา เดิมพันแชมป์โลกกับ กอนซาเลซ ในวันที่ 13 มี.ค. นี้ โดยที่ดับเบิลยูบีซี มีประกาศิตแล้วว่าผู้ชนะจะต้องพบกับ “เจ้าแหลม” ในไฟต์ต่อไปทันที 


ขณะเดียวกัน สุไลมาน ยังพูดถึง ศรีสะเกษ โดยระบุว่าการที่ “เจ้าแหลม” พร้อมเสมอกับการออกไปทำศึกนอกบ้าน ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกำปั้นไทยไปแล้ว โดยระบุว่า “สิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่าง ศรีสะเกษ กับยอดนักชกชาวไทยคนอื่น ๆ คือการที่เขาพร้อมเสมอที่จะออกไปชกนอกบ้าน ตำนานแชมป์โลกของไทยหลายคนมักเลือกป้องกันแชมป์ในบ้านตัวเองโดยไม่ยอมออกไปนอกประเทศ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น เคยไปป้องกันแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตที่ญี่ปุ่นหลายครั้ง ส่วน สมาน ส.จาตุรงค์ ก็เคยบุกมาน็อก ฮุมแบร์โต กอนซาเลซ ถึงลอสแอนเจลิส ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก”
 
 
 


“อย่างไรก็ตาม ไม่มีนักชกไทยคนไหนที่ทำแบบ ศรีสะเกษ เขาบุกมาชนะ ช็อกโกลาติโต ที่นิวยอร์ก แล้วยังบุกมาน็อกเขาในไฟต์แก้มือที่ ลอสแอนเจลิส นอกจากนี้เขายังเคยเอาชนะ เอสตราดา ได้ที่อเมริกา เขาประสบความสำเร็จในการออกมาชกนอกบ้าน และมันก็ทำให้เขากลายเป็นนักชกผู้ยิ่งใหญ่แตกต่างจากคนอื่น ๆ เขาเป็นนักชกที่แข็งแกร่งมาก ๆ และผมก็รู้ดีว่าเขามีความมุ่งมั่นเต็มที่ ที่จะทวงแชมป์โลกกลับมาครองอีกครั้งให้ได้” หัวเรือใหญ่เมาริซิโอ สุไลมาน  บอสใหญ่สภามวยโลก ทิ้งท้าย
 
 
 
 
 
 
 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ.

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments