<<>> หลังผ่านพ้นปี2020ไป เราลองมาชำแหละผลงานของเหล่ายอดมวยดังว่าใครปังใครแป้กบ้าง พร้อมเช็คอันดับมวยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไปดูกันว่า 10 อันดับแรกมีการเปลี่ยนแปลงจากปี 2019 กันมากน้อยแค่ไหน ?

    อย่างที่รู้กันว่าปี 2020 คือปีที่เลวร้ายมากสำหรับวงการกีฬาทั่วโลก ซึ่งต้นเหตุนั้นเกิดจากเชื้อที่มีชื่อว่า โคโรน่า ไวรัส หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “โควิด-19” 

 

 

โรคระบาดนี้ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง มันเป็นภัยร้ายที่แฝงอยู่สิ่งต่างๆรอบตัวเรา ซึ่งเชื้อ “โควิด-19” มันสามารถติดต่อกันได้จากคนสู่คน ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 90 ล้านคน แถมผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้พุ่งสูงเกือบ 2 ล้านรายไปแล้ว 

    เชื้อ “โควิด-19” มันส่งผลกระทบโดยตรงกับวงการกีฬา ทั้งในด้านผู้เล่นที่ต้องมีมาตรการควบคุมดูแลตั้งแต่การซ้อมจนไปถึงการแข่งขันที่ทำให้ยากลำบากกว่าสภาวะปกติอยู่พอสมควร นอกจากนี้ด้านรายได้ยังมีปัญหาไม่น้อย หลังจากที่ไม่สามารถให้ผู้ชมเข้าสนามและสังเวียนต่างๆได้ ซึ่งเป็นการป้องการแพร่กระจายของ เชื้อ “โควิด-19” แต่ต้องแลกมาด้วยรายได้ที่สูญไปไม่น้อย 

 

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบางชนิดกีฬาก็เริ่มผ่อนปลนสามารถให้แฟนเข้าไปชมได้แล้ว ทว่ายังจำกัดจำนวนผู้เข้าชมอยู่และต้องเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย แต่กีฬาที่ต้องแข่งขันในสถานที่ปิดยังคงห้ามไม่ให้บรรดาแฟนๆเข้าไปดูในสนามอยู่ โดยต้องเปลี่ยนไปชมผ่านระบบสตรีมมิ่งและทีวีเคเบิ้ลแทน

 

 

    วงการมวยเองก็โดนผลกระทบไม่น้อยในช่วง โควิด-19 เพราะตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ยาวไปถึงกรกฎาคมที่ต้องพักเบรคเพื่อหนี โคโรน่าไววัส ทำให้โปรแกรมการชกของเหล่ายอดมวยจำเป็นต้องเลื่อนมาชกในช่วงปลายปี ซึ่งเห็นได้ชัดว่าหลายคนยังไม่ฟิตเต็มร้อยจนทำให้ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน อาจด้วยเหตุผลที่หยุดไปนานแถมข้อจำกัดต่างๆที่ทำให้การซ้อมยากขึ้นและไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้

 

 ปี 2020 เปิดหัวด้วยไฟต์รีแมตช์ รุ่น เฮฟวี่เวท ของสภามวยโลก ระหว่าง ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ เจ้าของเข็มขัดชาวอเมริกัน กับ “ยิปซี คิง” ไทสัน ฟิวรี่ แมตช์นี้ผู้ท้าชิงจากแดนผู้ดีเปิดฉากเดินบู๊สอย ไวล์เดอร์ ลงไปนอนในยกที่ 3 ก่อนจะปิดฉากด้วยการรัวหมัดจนกรรมการต้องยุติการชกไปในยกที่ 7 แถม ฟิวรี่ ยังยัดเยียดความปราชัยครั้งแรกในชีวิตการค้ากำปั้นของ ไวล์เดอร์ พร้อมกับตัดสินผลแพ้ชนะหลังจากที่ไฟต์แรกทั้งคู่เสมอกันมา และเป็นการกลับมาครองตำแหน่งแชมป์โลกอีกครั้งในรอบ 5 ปี 

    ในช่วงเดือนเดียวกันทาง “ช็อคโกลาติโต้” โรมัน กอนซาเลซ อดีตนักชกเบอร์ 1 โลก ก็สามารถกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน หลังจากที่เอาชนะน็อก คาลิด ยาไฟ แชมป์โลกจากแดนผู้ดี ได้ในยกที่ 9 กระชากเข็มขัดพิกัด 115 ปอนด์ของสมาคมมวยโลก มาครองได้สำเร็จ 

 

  

 เหมือนว่าปีนี้ทุกอย่างกำลังไปได้สวยทว่ากลับต้องหยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และต้องพักการแข่งขันออกไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์ว่าจะหาทางออกจากวิกฤติครั้งนี้อย่างไร ตลอด 5 เดือน พักเบรค ไม่มีการชิงแชมป์สถาบันหลักแต่อย่างใด กว่าวงการมวยจะกลับมาคลึกคลื้นอีกครั้งต้องรอถึงเดือน สิงหาคม เลยทีเดียว 

    และในที่สุดก็ถึงเวลาที่นักมวยจากแดนสยามได้โอกาสสร้างชื่อในสังเวียนโลกอีกครั้ง โดยหนนี้เป็นคิวของ ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก ที่จะต้องขึ้นฟาดปากกับ จอช เทย์เลอร์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวท 2 สถาบัน (WBA, IBF) ทว่าผลการชกกลับจบลงแค่เพียงยกที่ 1 เท่านั้น หลังจากที่ ดาวเหนือ โดนหมัดซ้ายตัดลำตัวของ แชมป์ชาวสกอตแลนด์ จนลงไปกองกับพื้นแพ้ไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย โดยไฟต์นี้ใช้เวลาแค่เพียง 2 นาที 27 วินาที เท่านั้น 

 

อีกไฟต์ที่น่าสนใจในปี 2020 คงหนีไม่พ้นการล้มแชมป์ 3 สถาบัน (WBA,WBC,IBF) รุ่น ซูเปอร์ เวลเตอร์เวท ของ เจอร์เมลล์ ชาร์โล แชมป์โลก สภามวยโลก กับทาง เจสัน โรซาริโอ้ เจ้าของเข็มขัดแชมป์ของ สมาคมมวยโลก และ สหพันธ์มวยนานาชาติ โดยไฟต์นี้ ชาร์โล ปิดบัญชีทาง โรซาริโอ้ ได้ในยกที่ 8 รวบแชมป์โลก 3 เส้นไปครองอย่างสวยงาม

 

 

    หากพูดถึงไฟต์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนมวยทั่วโลกบอกเลยก็ต้อง ศึกล้มแชมป์ 4 สถาบัน (WBA,WBC,WBO,IBF) รุ่น ไลท์เวท ของยอดมวยเบอร์ 1 โลก อย่าง วาซิล โลมาเชนโก้ ชาวยูเครน กับ เตโอฟิโม โลเปซ กำปั้นจากแดนลุงแซม ไฟต์นี้จบลงด้วยการพลิกล็อกแบบถล่มทลาย หลังจากที่ โลเปซ บดแต้มเอาชนะคะแนน โลมาเชนโก้ ไปได้แบบเอกฉันท์ และสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากศึกครั้งนี้คือพละกำลังและความฟิตของ ยอดกำปั้นชาวยูเครน ที่ลดน้อยลงไปจนส่งผลถึงการชกและทำให้เขาต้องปราชัยไปในศึกครั้งนี้

 

 จากนั้นก็ต้องไปชมศึกประชันฟอร์มของ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า กับ โรมัน กอนซาเลซ คงไม่ต้องพูดถึงความเก่งกาจของทั้งคู่อย่างที่รู้ๆกันว่า 2 คนนี้คือเบอร์ต้นในพิกัด 105 ปอนด์ ซึ่งทั้งคู่ชกร่วมรายการเดียวกัน โดยทาง โรมัน กอนซาเลซต้องพบกับ อิสราเอล กอนซาเลซ โดยตลาด 12 ยก ‘ช็อกโกลาลิโต้” เป็นฝ่ายเปิดเกมเดินบดซึ่งเขาทำได้ดี แม้ช่วงปลายจะมีอาการแผ่วให้เห็นอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย จบ 12 ยก โรมัน เอาชนะแต้ม ไปแบบเอกฉันท์

    ด้าน ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ต้องรับมือกับ คาร์ลอส คูเอดราส ไฟต์นี้ดูเหมือนว่าทาง “เอล กัลโล่” จะผิดฟอร์มไปพอสมควร เกมผ่านไปแค่ยก 3 เท่านั้นทางแชมป์โลกถูกสอยลงไปนอนให้กรรมการนับ ก่อนที่จะมาเร่งเครื่องเอาชนะทีเคโอไปได้ในยกที่ 11 ทว่าตลอดการชกทาง คูเอดราส ทำได้ดีกว่าชัดเจนแต่น่าเสียดายที่เขาพลาดโดนหมัดจนต้องวืดชัยในไฟต์นี้

 

    

ส่วนทาง นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลก 2 สถาบัน (WBA,IBF) ชาวญี่ปุ่น ยังแรงได้ไม่มีตกไล่กระซวก เจสัน โมโลนีย์ ผู้ท้าชิงจาก ออสเตรเลีย ไปได้ในยกที่ 7 ทำให้เขายังคงเป็นแชมป์ไร้พ่าย แถมยังชนะน็อกคู่แข่งไป 17 ครั้ง จากการชกทั้งหมด 20
ไฟต์

    โอเล็กซานเดอร์ อูซิก อดีตแชมป์ รุ่น ครุยเซอร์เวท 4 สถาบัน ก็ไม่น้อยหน้ากลับมาผงาดอีกครั้งหลังจากที่ขยับพิกัดมาชกใน รุ่น เฮฟวี่เวท ซึ่งยอดกำปั้นชาวยูเครน สามารถเอาชนะคะแนน ดีเร็ค ชิโซร่า ไปได้แบบเอกฉันท์ ในการชิงเข็มขัดอินเตอร์-คอนติเนนตัล ของ องค์กรมวยโลก ทำให้เขามีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์โลกเส้นหลักกับทาง แอนโธนี่ โจชัว แชมป์ชาวอังกฤษ แต่ก็ยังต้องดูกันต่อว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเขาหรือ ไทสัน ฟิวรี่ ที่จะเป็นคู่ชกของ โจชัว ในไฟต์ต่อไป  

 

    สองยักษ์ใหญ่ในรุ่น เวลเตอร์เวท อย่าง เทเรนซ์ ครอว์ฟอร์ และ เออร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ ยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดย เทเรนซ์ ครอว์ฟอร์ แชมป์โลกของ องค์กรมวยโลก ไล่ถลุง เคลล์ บรู๊ก ผู้ท้าของเลือดผู้ดีจอดแค่เพียงยกที่ 4 เท่านั้น ด้าน เออร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ แชมป์โลก 2 สถาบัน (WBC,IBF) ไม่ง่ายเมื่อเจองานหินอย่าง แดนนี่ การ์เซีย ยอดมวยชาวอเมริกัน ทว่า สเปนซ์ ยังทำได้ดีกว่าชนะคะแนนไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก

 

    

แต่พลิกล็อกแบบไม่น่าเชื่อคงต้องเป็นคู่มวยในพิกัด 105 ปอนด์ ระหว่าง วันเฮง ซีพีเอฟ แชมป์ของสภามวยโลก กับ ปัญญา ประดับศรี นักชกรุ่นน้องร่วมสังกัดเพชรยินดี ซึ่งผลการแข่งขันจบลงแบบหักปักกาเซียน หลังจากที่ ปัญญา เอาชนะคะแนน วันเฮง ไปแบบเอกฉันท์ คว้าแชมป์ รุ่น มินิมั่มเวท ของ WBC ไปครองเฉยเลย ทั้งที่ก่อนชก “ยักษ์แคระ” หน้าเสื่อดีพอสมควร แถมสถิติโลกไร้พ่ายของ วันเฮง ก็ถูกหยุดลงที่ 54 ไฟต์ 

 

หลังจากที่คู่ของ แอนโทนี่ โจชัว แชมป์โลก 3 สถาบัน (WBA,WBO,IBF) กับทาง คูบราต ปูเลฟ กำปั้นประสบการณ์สูง ต้องเลื่อนออกไปเนื้องจากสถานการณ์โควิด-19 จากกำหนดการเดิม 20 มิถุนายน มาเป็น 12 ธันวาคมแทน แชมป์โลกขวัญใจชาวอังกฤษก็ไม่ทำให้ผิดหวังเอาชนะน็อก ปูเลฟ ไปได้ในยกที่ 9 โดยปีนี้น่าสนใจมากว่าคู่ชกไฟต์ต่อไปของ โจชัว จะเป็น ฟิวรี่ หรือ อูซิก บอกเลยไม่ว่าใครก็ล้วนแต่น่าติดตามชม

    อดีตกำปั้นเบอร์ 1 โลก อย่าง เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น ที่ปัจจุบันครองตำแหน่งแชมป์โลกของ สหพันธ์มวยนานาชาติ รุ่น มิดเดิลเวท ก็ช่างดุเหลือเกินหลังเดินไล่ต้อน คามิล เซเรเมตา ผู้ท้าชิงชาวโปแลนด์ จนอีกฝ่ายหมดสภาพ พร้อมสร้างสถิติเป็นนักมวยที่สามารถป้องกันตำแหน่ง รุ่น มิดเดิลเวท มากที่สุดรวมทุกสถาบัน ของ เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ โดยตำนานยอดมวยชาวอเมริกัน เคยที่ทำไว้ 20 ครั้ง  

 

    

ปิดท้ายด้วยยอดกำปั้นเบอร์ 1 โลก อย่าง ซาอูล กาเนโล่ อัลวาเรซ ที่โชว์ความเหนือชั้นไล่ต้อน คัลลั่ม สมิธ แชมป์โลกชาวอังกฤษ มาแบบไม่ยากเย็น พร้อมกระชากเข็มขัดของ สมาคมมวยโลก และ สภามวยโลก ใน รุ่น ซูเปอร์ มิดเดิลเวทรุ่น มาครอง
ได้สำเร็จ 

    หลังไล่เรียงเหตุการณ์สำคัญตลอดทั้งปี 2020 แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะไปเช็คอันดับนักมวยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ว่าใครคือราชันแห่งสังเวียนโลก

 

เดอะริง สื่อเจ้าใหญ่แห่งวงการมวย จัดอันดับให้ ซาอูล กาเนโล่ อัลวาเรซ แชมป์โลก รุ่น ซูเปอร์ มิดเดิลเวท 2 สถาบัน (WBA,WBC) ชาวเม็กซิกัน ครองเบอร์ 1 โลก ด้านกำปั้นจากเอเชียอย่าง นาโอยะ อิโนะอุเอะ ก็ไม่น้อยหน้ารั่งเบอร์ 2 อยู่ในขณะนี้ ส่วน วาซิล โลมาเชนโก้ ยอดมวยจากยูเครน หล่นพรวดไปอยู่อันดับ 7 

 

สรุป 10 อันดับมวยโลกยุคโควิด-19, พร้อมย้อนเหตุการณ์ตลอดปี 2020

  

 ด้าน เว็บไซต์กีฬาชื่อดังอย่าง อีเอสพีเอ็น เห็นต่างยก  เทอเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด แชมป์โลก รุ่น เวลเตอร์เวท WBO ชาวอเมริกัน ครองบัลลังก์เบอร์ 1 โลก ทำให้ ซาอูล กาเนโล่ อัลวาเรซ อยู่เพียงแค่อันดับ 2 เท่านั้น แต่ที่น่าสนใจใน 10 อันดับแรกคงหนี้ไม่พ้น “ยิปซีคิง” ไทสัน ฟิวรี่ ที่รั่งเบอร์ 7 ณ ขณะนี้ หลังจากที่เขาสามารถคัมแบ็กกลับมาคว้าแชมป์โลกได้อีกครั้ง 

 

สรุป 10 อันดับมวยโลกยุคโควิด-19, พร้อมย้อนเหตุการณ์ตลอดปี 2020

 

 
@ News  Photo Credit :: siamsport
 
 
 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ
 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments