<<>> ประชุมคัดเลือกเดือดก่อนจะเคาะชื่อนักกีฬายอดเยี่ยมแต่ละสาขารางวัล ”สยามกีฬา อวอร์ดส์” ครั้งที่ 14 โดยรางวัลสมัครเล่นยอดเยี่ยมชายและหญิง คณะกรรมการพิจารณาโต้เถียงอย่างยาวนานบทสรุปสุดท้ายคะแนนสูสีกันจึงขยับจาก 5 คนเป็น 6 คน ส่วนรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม เจ้าน้อย วันเฮง ซีพีเอฟ เข้ารอบ แต่ตัวเก็งกับเป็น”เอฟ นครนายก” ที่เบียด ”อุ้ม-ธีราทร” ส่วน ”น้องเมย์” มีชื่อเข้าลุ้นอีกครั้ง ด้านรางวัลรุกกี้แห่งปี ”เจ้ามอส-ณัฏฐพัฒน์” ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกคว้าโควตายูธโอลิมปิกฤดูหนาว 2020 ติดโผด้วย

     นายโอฬาร เชื้อบาง รองกรรมการผู้จัดการบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตัดสินรางวัลและพิจารณาคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายในงานประกาศผลและมอบรางวัลเกียรติยศคนกีฬา ”สยามกีฬา อวอร์ดส์” ครั้งที่ 14 ซึ่งจะมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 มี.ค. 2563 ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ โดยมีทีมหัวหน้าข่าวกองบรรณาธิการทุกฝ่าย และทีมงานนักข่าวเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 3 เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา  

 


    โดยบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก รวมไปถึงผลงานของนักกีฬาในแต่ละรางวัลมีความโดดเด่นสูสีกันมาก ทำเอาคณะกรรมการและทีมงานบรรณาธิการข่าวแต่ละฝ่ายและผู้สื่อข่าวสายกีฬาต้องกลั่นกรองอย่างดีเทียบกันแบบตัวต่อตัว และด้วยความเข้มข้นของการประชุมทำให้นักกีฬาที่เข้าชิงรางวัลแต่ละสาขามีคะแนนที่สูสีกันมากจึงทำให้รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมทั้งชายและหญิงจากเดิมที่ต้องคัดเพียง 5 คน แต่ในปีนี้เป็น 6 คน
 
สำหรับผลโหวตรางวัลแห่งเกียรติยศ 3 รางวัลใหญ่ ประกอบด้วย รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมชาย ผู้ที่ผ่านเข้ารอบในปีนี้ได้แก่ สราวุฒิ สิริรณชัย นักกีฬาจักรยานประเภทถนนเจ้าของ 3 เหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ในประเภททีมไทม์ไทรอัล, โร้ดเรซบุคคลชาย และทีมโร้ดเรซ ตามมาด้วย ”เจมส์บอนด์” ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ นักว่ายน้ำหนุ่มดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ในรายการกบ 200 ม.ชาย ทำลายสถิติเดิมของตัวเองในปี 2011 และป้องกันแชมป์ซีเกมส์เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน, ”เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ยอดกำปั้นชื่อดังขวัญใจคนไทยเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์, คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งปอดเหล็กลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เจ้าของ 2 เหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ และยังเป็นเน็ตไอดอลชั่วข้ามคืนกับการพูดภาษาไทยที่สุดแสนน่ารักน่าเอ็นดู, ส.ต.ท.กฤษณพงศ์ นนทะโคตร นักกีฬาเซปักตะกร้อ ในตำแหน่งตัวเสิร์ฟที่พาทีมคว้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ และ ”เจ้าวิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตัน ที่มากับแชมป์ในเวทีระดับนานาชาติหลายรายการ

 
    ขณะที่รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง ได้แก่ ”เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดที่ฟอร์มโหดมากในรอบปีที่ผ่านมาคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขัน, ”น้องออมสิน” อรนวีย์ ศรีสหกิจ นักกีฬาเทควันโดพุมเซ่ที่พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์มาอย่างมากมาย, นิลาวัลย์ เตชะสืบ มวยสากลสมัครเล่นหญิง ที่โชว์กำปั้นคว้าชัยระดับนานาชาติ 3 รายการ, นันทวัน เฟื่องสนิท นักกีฬาเปตองดีกรีแชมป์โลก, ”น้องแบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม นักกีฬาเรือใบประเภทเลเซอร์เรเดียล ที่คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 และ ”น้องมิลค์” วรรรญา วรรณผ่อง แชมป์โลกโดรนเรซซิ่ง



   ด้านรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม ผู้ที่ผ่านเข้าชิงรางวัล 5 คนสุดท้าย ประกอบด้วย ”เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักกีฬาแบดมินตัน, ”เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู นักกีฬาสนุกเกอร์, ”น้องหญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร นักกีฬาเทเบิลเทนนิส, วันเฮง ซีพีเอฟ นักกีฬามวยสากลรุ่นมินิมัมเวต WBC และ ”อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน นักกีฬาฟุตบอลสโมสรโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส
 
    ส่วนรางวัลยอดเยี่ยม รางวัลอื่นๆ ผลโหวตลุ้นดุเดือดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะรางวัลนักกีฬาดาวรุ่งยอดเยี่ยม หรือรางวัลรุกกี้แห่งปี ผลงานน่าจับตามองทุกคนทำให้คณะกรรมการหนักใจกันสุดๆ ก่อนในท้ายที่สุดจะได้ผลโหวตเป็นเอกฉันท์ให้ 5 คนผ่านเข้ารอบสุดท้าย ได้แก่ ”เบส” เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ นักกีฬาจักรยานแชมป์เสือภูเขาดาวน์ฮิลระดับเอเชีย, ”จ้าจีน” ณีรนุช แตงเลี้ยง นักกีฬาคาราเต้เจ้าของแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 68 กก., แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน นักมวยไทยและมวยสากล, ”มอส” ณัฏฐพัฒน์ กาญจน์ชริน นักกีฬาสปีดสเกตติ้งที่ไปลุยยูธโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และ ”เจ้าบุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา นักกีฬาฟุตบอลจากสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
 
รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายในปีนี้ ได้แก่ ”โค้ชโอม” เทศนา พันธ์วิศวาส (ผู้ฝึกสอนแบดมินตันเอสซีจี อะคาเดมี่), เช ยอง ซอก (เทควันโด), พ.ท.สุภาพ บุญรอด (ผู้ฝึกสอน วันเฮง ซีพีเอฟ แชมป์โลกรุ่นมินิมัมเวต WBC),กมล ตันกิมหงษ์ (ผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย) และ ”โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน (ฟุตบอล)
 
    รางวัลสมาคมกีฬายอดเยี่ยม 5 สมาคมผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้แก่ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปภัมถ์, สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
 


    รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยม 5 คนสุดท้ายได้แก่ ขวัญสุดา พวงกิจจา (เทควันโดคนพิการหญิง คลาส เค 44 (พิการแขน) รุ่น 49 กก.), สุจิรัตน์ ปุกคำ (แบดมินตันคนพิการหญิง คลาสดับเบิลยูเอช (วีลแชร์), ประวัติ วะโฮรัมย์ (วีลแชร์เรซซิ่ง คลาส ที 54), หาญฤชัย เนตรศิริ (ยิงธนูคนพิการชาย) และ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม (เทเบิลเทนนิสคนพิการ คลาสทีที 6 ชาย)

     นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ KBANK HALL OF FAME รางวัลหอเกียรติยศคนกีฬา สนับสนุนโดยธนาคารกสิกรไทย จำนวน 8 รางวัล ให้แก่ตำนานนักกีฬาทีมชาติไทย และรางวัลนักมวยไทยอาชีพยอดเยี่ยม, รางวัลเมริต อวอร์ดส์ (Merit Award) บุคคลทรงคุณค่าและอุทิศตนแห่งวงการกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี สามารถลุ้นได้พร้อมกันในงานมอบรางวัลสยามกีฬา อวอร์ดส์ ปีที่ 14 วันที่ 6 มี.ค. 2563 ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ เริ่มเวลา 14.00 น.เป็นต้นไป

 

@ News  Photo Credit :: siamsport.com

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments