เริ่ม.. หลังจากซบเซามานาน ตอนนี้เริ่มกลับมาบูมอีกครั้งสำหรับวงการมวยสากลอาชีพไทย หลังจากที่หลายโปรโมชั่นได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดแข่งขันด้วยการใส่แสงสีเสียงสุดตระการตาพร้อมกับห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำ สร้างอรรถรสใหม่ในการรับชมให้กับเหล่าแฟนมวยได้เป็นอย่างมาก 

 

ในปี 2019 ต้องบอกว่าเป็นอีกปีที่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในวงการมวยสากลบ้านเรา ซึ่งมีทั้งเรื่องดีและเรื่องน่าผิดหวังเกิดขึ้นมากมาย วันนี้ FOX Sports Thailand จะพาไปย้อนรอยเรื่องราวที่สุดของวงการมวยสากลไทยที่เกิดขึ้นในปี 2019 มาให้เหล่าคอมวยโลกได้ติดตามกัน  

 

#ไร้เทียมทานแห่งปี 

 

Photo Credit: ชยพล มูลศรี

 

ตำแหน่งนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก วันเฮง ซีพีเอฟ แชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นสตรอว์เวต 105 ปอนด์ ที่ถูกยกย่องให้เป็นนักชกที่ดีที่สุดของรุ่นนี้ ด้วยระยะเวลาที่ครองตำแหน่งมายาวนานถึง 5 ปีและขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในปีนี้ถึง 2 ครั้ง ด้วยการชนะคะแนน ทัตซึยะ ฟูกูฮาร่า ผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น ก่อนจะส่งท้ายปีด้วยการโค่นอดีตแชมป์โลก WBO อย่าง ซิมพิเว่ คองโก รองแชมป์โลกอันดับ 1 ชาวแอฟริกาใต้  ในการป้องกันตำแหน่งไฟต์บังคับเมื่อ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนฟอร์มเข้าตา “สุดหล่อ” ออสการ์ เดอลา โฮย่า นายใหญ่แห่ง “โกลเด้นบอย โปรโมชั่น” จับเซ็นสัญญาเข้าสังกัดเป็นจำนวน 5 ไฟต์ที่ วันเฮง ชกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับว่าเป็นบิ๊กดิลแห่งปีของวงการมวยโลกไทยประจำปี 2019 เลยทีเดียว

 

 

ในปี 2020 ต้องคอยดูกันว่าด้วยวัย 34 ปีของ วันเฮง จะสามารถทำผลงานได้ดีขนาดไหนในการลุยตลาดแห่งวงการกำปั้นโลกอย่างอเมริกาซึ่งนับว่าไม่ใช่งานง่ายของยักษ์แคระจากสารคามรายนี้เลย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกำปั้นระดับเขี้ยวลากดินแทบทั้งสิ้น หากใครไม่แน่จริงไม่มีทางได้มาชกที่แดนมะกันนี่อย่างแน่นอน   

 

#น่าเสียดายแห่งปี 

 

 

 

สำหรับน่าเสียดายแห่งปีคงต้องยกให้ สะท้านเมืองเล็ก ซีพีเอฟ ที่เจ้าตัวบินไปชิงเข็มขัดสมาคมมวยโลก (WBA)​ รุ่นไลท์ฟลายเวต 108 ปอนด์ กับ ฮิโรโตะ เคียวคูจิ เจ้าของแชมป์ชาวญี่ปุ่นในฐานะรองแชมป์อันดับ 10 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ณ สังเวียน มากุฮาริ ในเมืองชิบะ ซึ่งก่อนชกต้องบอกว่าเหล่ากูรูจากหลายสำนักต่างมองว่าไฟต์นี้ผู้ท้าชิงจากไทยไม่น่ารอดเงื้อมือแชมป์โลกเกินยก 6 เพราะหากใครเป็นคอมวยโลกจะทราบกันดีว่า เคียวคูจิ นั้นถือว่าเป็นยอดมวยรุ่นกระเป๋าคนหนึ่งในยุคนี้เลยทีเดียว

 

 

แต่พอเผชิญหน้ากันบนเวทีกลับผิดคาดชนิดที่แทบหักปากกาเซียนเพราะ สะท้านเมืองเล็ก นั้นสู้ยิบตาเลยทีเดียวแถมช่วงแรกๆ ของการชกยังเป็นฝ่ายออกอาวุธได้จะแจ้งกว่าด้วย ทว่า เคียวคูจิ ที่ได้เสียงเชียร์จากแฟนเจ้าถิ่นกลับฮึดในช่วงท้ายๆ ก่อนจะทำแต้มแซง สะท้านเมืองเล็ก จนเอาชนะไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ 117-112 และ 117-111 ทั้ง 2 เสียง ทำให้นักชกจากค่ายเพชรยินดีรายนี้ชวดแชมป์โลกไปอย่างน่าเสียดาย 

 

#น็อคเอ๊าท์แห่งปี

 

 

สำหรับน็อคเอ๊าท์แห่งปีคงหนีไม่พ้นเจ้าของฉายา “ดาวรุ่งผีพุ่งไต้” อย่าง ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก นักชกกำปั้นหนักประจำค่ายเกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น ที่บินไปชกตัดเชือกกับ อากิฮิโระ คอนโดะ นักชกเจ้าถิ่น เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ สังเวียน โครักคูเอ็น ฮอล์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหาผู้ชนะไปชิงแชมป์สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) รุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวต 140 ปอนด์ ในครั้งต่อไป

ตลอดการชกนั้นต้องบอกว่าทั้งคู่เดินเกมแลกอาวุธกันอย่างรัดกุม  ก่อนจะมาอวสานเอาในยกที่ 5 เมื่อไอ้หมัดผีพุ่งใต้ได้จังหวะงัดอัปเปอร์คัตขวาเข้าเต็มปลายคางนักชกเจ้าถิ่นอย่างจังจนหงายหัวฟาดพื้นชนิดที่ช็อกแฟนมวยเจ้าถิ่นเลยทีเดียว แม้ คอนโดะ จะลุกขึ้นมาได้แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว ทำให้ ดาวเหนือ เอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 5 พร้อมคว้าตั๋วไปชิงแชมป์โลกไฟต์บังคับกับ จอร์จ เทย์เลอร์ เจ้าของตำแหน่งชาวสก็อตแลนด์ ในปี 2020 ต่อไป

 

 

#ดาวรุ่งที่น่าจับตามองแห่งปี

 

 

 

แม้ปัจจุบันจะมีดาวรุ่งเกิดขึ้นมามากมายบนเส้นทางมวยสากลบ้านเรา แต่หากถามว่าใครน่าจับตามองที่สุดประจำปี 2019 คงหนีไม่พ้น เพชรโกศล เกียรติกรีรินทร์ ที่โชว์ฟอร์มจนเข้าตา กรีนซึดะ โปรโมชั่นมวยชื่อดังของญี่ปุ่นจับเซ็นสัญญาเข้าสังกัดพร้อมดันให้ถึงชิงแชมป์โลกในอนาคต 

นักชกหนุ่มวัย 19 ปี ที่มี “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ เป็นไอดอลรายนี้ต้องบอกว่าโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมคว้าชัยชนะมา 13 ไฟต์รวดแล้ว โดยเฉพาะ 3 ไฟต์ในญี่ปุ่น โชว์ฟอร์มสวยหรูน็อก ริคาร์โด้ ซูเอโน่ ดีกรีแชมป์ WBC Asia รุ่นฟลายเวต เพียงแค่ยกแรก ตามมาด้วยการทุบ เมดิสัน มากันติ นักชกอินโดนีเซียในยกที่ 3 ก่อนจะคว้าชัยส่งท้ายปีด้วยการชนะคะแนน คริสเตรียน บาโคลอต มวยดาวรุ่งพุ่งแรงจากฟิลิปปินส์ที่ชนะรวดมา 12 ไฟต์ ไปอย่างสนุก ซึ่งต้องคอยติดตามกันต่อไปสำหรับกำปั้นไทยในสีเสื้อซามูไรรายนี้ว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนในตลาดกำปั้นโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

 

#แชมป์อายุน้อยที่สุดแห่งปี

 

Photo Credit: แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน

 

ต้องบอกว่าเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ประจำวงการมวยสากลไทยในปีนี้เลยก็ว่าได้สำหรับการคว้าแชมป์รายการ “The Fighter ล่าฝันบัลลังก์โลก” ในรุ่นเวลเตอร์เวตของ “แสงอาทิตย์ ลูกดินกองทราย” ด้วยวัยเพียง 15 ปี

ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศรุ่นเวลเตอร์เวต พิกัด 147 ปอนด์ เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง แสงอาทิตย์ ลูกดินกองทราย กับ เพชรใหม่ ช.ชูชีพ ที่หักปากกาเซียนน็อก กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย ยอดมวยถ้วยพระราชทานปี 60  มาได้เพียงยกแรกในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งรูปเกมแม้ทั้งคู่จะแลกหมัดกันได้อย่างสนุกสูสี แต่ทว่าจังหวะทีเด็ดทีขาดนั้น แสงอาทิตย์ ชกได้เข้าเป้าแม่นยำกว่าจนสามารถเบียดเอาชนะคะแนนไปได้ในที่สุด   

 

น่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับเด็กหนุ่มอนาคตไกลรายนี้ ด้วยวัยเพียง 15 ปี เขาจะไปได้ไกลเพียงใดบนถนนสายมวยโลกนี้   

 
 

สำหรับรายการนี้ถือว่าเป็นศึกใหญ่อีกหนึ่งรายการที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจัดโดย “เสี่ยเอี๊ยง” ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ ทายาทแห่งค่ายแกแล็คซี่บ๊อกซิ่ง โปรโมชั่น เพื่อสานฝันนักชกไทยสู่แชมป์โลก โดยนอกจาก แสงอาทิตย์ ที่คว้าแชมป์ในรุ่นเวลเตอร์เวต 147 ปอนด์แล้ว ยังมี อานนท์ อยู่ปรางค์ ที่คว้าแชมป์ในรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวต 130 ปอนด์ และ จอมโว กีล่าสปอร์ต อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยคว้าแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ อีกด้วย 

 

#เซอร์ไพรส์แห่งปี

 

Photo Credit: JM คนตัวลาย มวยไทย ยิม

 

ถือว่าสร้างเซอร์ไพร์สส่งท้ายปีเลยทีเดียวสำหรับ “คน ตัวลาย” เฉลิมพล เจเอ็มยิมส์ นักชกหน้าโหดอารมณ์ดี วัย 31 ปี หลังบินไปชิงเข็มขัดแชมป์ WBC Asia รุ่นไลต์เฮฟวี่เวต ที่ว่าง กับ จอห์น โคราเก้ นักชกขวัญเจ้าถิ่น ณ สังเวียน The Sir John Guise Indoor Arena กรุงพอร์ตมอร์สบี  ประเทศปาปัวนิวกินี 

 

 

ซึ่งเกมการชกแม้ เฉลิมพล แม้จะไปอย่างมวยรองบ่อนแต่กลับใช้ประสบการณ์บนสังเวียนที่เหนือกว่าสอนเชิง โคราเก้ ตลอดการชกทั้ง 10 ยก ก่อนจะยำแต้มชนะไปอย่างขาดลอย 99-91  2 เสียง และ 98-92 คว้าแชมป์ WBC Asia รุ่นไลต์เฮฟวี่เวต ที่ว่าง มาได้อย่างสวยงาม แถมยังเป็นแชมป์มวยสากลอาชีพระดับนานาชาติรุ่นใหญ่ที่สุดของเมืองไทยในเวลานี้เลยทีเดียว   

 

#ปราชัยแห่งปี

 

 

ปราชัยแห่งปีคงหนีไม่พ้น “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลเกือบ 20 ชั่วโมงเพื่อขึ้นป้องกันแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต กับคู่รักคู่แค้นอย่าง ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า เป็นคำรบที่ 2 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2019 ณ สังเวียน เดอะฟอรั่ม อิงเกิ้ลวูด ในลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่ง ตลอดเกมการชกต้องบอกว่า เอสตราด้า ที่ไฟต์นี้แก้ทางมาดีเป็นฝ่ายอาศัยความรวดเร็วที่เหนือกว่าดักต่อยจังหวะสองจนแชมป์โลกชาวไทยไล่ไม่จน แม้ในช่วง 4 ยกสุดท้าย ศรีสะเกษ จะเปลี่ยนมาใช้การ์ดซ้ายตามที่ตัวเองถนัดและสามารถทำได้ดีขึ้น แต่มันก็สายเกินไป เพราะครบยก เอสตราด้า ที่ทำคะแนนตุนไว้ตั้งแต่ช่วงต้นเกมการชกเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนได้อย่างเป็นเอกฉันท์

 

โดยกรรมการ 2 ท่านให้ เอสตราด้าชนะไป 115-113 และอีกท่านหนึ่งให้ชนะ 116-112   ทำให้ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า แย่งแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตและเดอะริงค์จากเอวศรีสะเกษไปครอง พร้อมขึ้นแท่นเป็นราชาในรุน 115 ปอนด์ คนใหม่ได้สำเร็จ 

 

 

สำหรับช่วงนี้แม้ข่าวคราวการเก็บตัวฝึกซ้อมของอดีตแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยจะค่อนข้างเงียบ แต่ก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่า WBC มีคำสั่งให้เขาเป็นตัวยืนรอพบกับผู้ชนะระหว่าง ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ที่คิวขึ้นชกเดิมพันธ์แชมป์กับ คาลิด ยาไฟ แชมป์โลก WBA รุ่นเดียวกันจากอังกฤษ ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งนี่อาจจะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของอดีตแชมป์โลกวัย 33 ปี จาก อ.อุทุมพรพิสัย แล้วก็เป็นได้ 

 

เอ็มลี หมัดเด็ดบทความโดย :: เอ็มลี หมัดเด็ด

 

@ News  Photo Credit : foxspor .co.th

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments