@ย้อนไปเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้วคู่นี้เคยฉะกันมาแล้วครั้งนึง ซึ่งผลคือ ” ศรีสะเกษ ” สามารถเอาชนะ ” เอสตราด้า ” มาได้แบบหืดขึ้นคอ ในศึกซูเปอร์ฟลาย 2 ของ HBO ทว่าหลังจากนั้นกำปั้นจังโก้รายนี้ก็ไม่เคยพ่ายให้ใครอีกเลย แถมยังครองอันดับรองแชมป์โลกเบอร์ 1 เพื่อรอวันได้กลับมาล้างตากับ ” ศรีสะเกษ ” อีกครั้ง และในที่สุดฝันของ ” เอสตราด้า ” ก็เป็นจริง เมื่อทางสภามวยโลก(WBC) เลือกเขาเป็นคู่ชกของ ” เจ้าแหลม ” ในการป้องกันแชมป์โลกไฟต์บังคับ   

 

4ข้อพึงระวังของศรีสะเกษก่อนขึ้นทำศึกรีแมตช์กับเอสตราด้า

    ศึกรีแมตช์ครั้งนี้หากวัดกันตามหน้าเสื่อและสถิติทาง ” ศรีสะเกษ ” ดูดีกว่า ” เอสตราด้า ” ชัดเจน แถม 20 ไฟต์หลังสุดของแหลมยังไม่เคยแพ้ใคร โดยชนะน็อกได้ถึง 16 ครั้ง ทว่าความสวยหรูต่างๆ นาๆ กลับมีหลายจุดที่น่าเป็นห่วงและต้องพึ่งระวังในสงครามแค้นครั้งนี้


    1. การป้องกันหมัด

 

4ข้อพึงระวังของศรีสะเกษก่อนขึ้นทำศึกรีแมตช์กับเอสตราด้า

  

 สิ่งที่เป็นปัญหาและจุดอ่อนใหญ่ๆของ ” ศรีสะเกษ ” คือการป้องกันตัว หากย้อนไปดูแมชต์แรกของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าทาง “เอสตราด้า ” พยายามปล่อยหมัดแย็บและยิงหมัดหน้าซึ่งถือว่าเป็นการโจมตีที่ถูกจุด เพราะด้าน ” เจ้าแหลม ” มักจะชกไม่ค่อยรัดกุมการ์ดตกเปิดหน้าอยู่บ่อยครั้ง แถมผู้ท้าชิงชาวเม็กซิโกยังมีหมัดขวาที่พร้อมจะเคาเตอร์ใส่แหลมอยู่ตลอดหากเดินเข้ามาตัดลำตัวแบบไม่ระวังก็จะโดนต่อยสวนมากลับไปทันที

 

     แม้กำปั้นจังโก้คนนี้จะมีอัตราน็อกคู่ต่อสู้แค่ 63 % ทว่าเขากลับสามารถอาศัยจังหวะที่ ” ศรีสะเกษ ” เดินบุกแบบย่ามใจโดยไม่ระวัง บวกหมัดขวาสวนเข้าเต็มหน้า ” เจ้าแหลม ” จนร่วงมาแล้ว (ช่วงปลายยกที่ 2,ต้นยกที่ 5) แต่ยังโชคดีที่กรรมการไม่ได้นับเลยรอดตัวไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเหมือนข้อบงชี้ว่าด้วยสไตล์การชกบุกแหลกของแหลมจะใช้เพียงแค่โยกหลบหมัดอย่างเดียวอาจคงยังไม่พอสำหรับการชกครั้งนี้ หากการ์ดไม่แน่นบล็อกหมัดหน้าไม่ได้อาจทำให้แชมป์โลกชาวไทยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายก็ได้ 

 


    2. แผลแตกระหว่างการชก

 

4ข้อพึงระวังของศรีสะเกษก่อนขึ้นทำศึกรีแมตช์กับเอสตราด้า


    
    หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ” ศรีสะเกษ ” เคยเป็นเจ้าเข็มขัดแชมป์โลก 115 ปอนด์ เส้นนี้มาแล้วครั้งนึง ก่อนจะเสียให้ คาร์ลอส คูเอดราส ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกันไป ในปี 2014 ซึ่งการแพ้ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของฝีมือหรือโดนน็อก แต่มันเกิดจากปัญหาศีรษะชนกันจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์ที่หางคิ้วซ้ายของ ” คูเอดราส ” 

 

    โดยอุบัติเหตุหนนี้ได้ส่งผลให้ ” เจ้าแหลม ” ถึงกับต้องเสียแชมป์โลกไป เมื่อกรรมการได้ยุติการชกในยกที่ 8 พร้อมกับรวบรวมคะแนนเพื่อตัดสินผล แพ้ – ชนะ อย่างไรก็ตามการชกครั้งนั้นแหลมได้แพ้คะแนนให้แก่ ” คูเอดราส ” (73-78,74-77.75-77) แม้ 3 ยกหลังกำปั้นชาวไทยจะทำได้ดีกว่าชัดเจนแต่ก็ไม่พอให้เขารักษาแชมป์โลกไว้ได้ และนี้ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงของ ” ศรีสะเกษ ” ที่เกิดขึ้นกับเขาในชีวิตบนสังเวียน

 

    ” คูเอดราส ” มีอะไรหลายๆอย่างที่คลายคลึงกับ  ” เอสตราด้า ” ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การชกในแบบเอาต์บ็อกเซอร์ หรือเป็นมวยที่ถนัดขวาเหมือนกัน แถมช่วงชกและส่วนสูงยังเท่ากันอีก ทว่าสิ่งต่างกันออกไปถือฝีมือของ ” เอสตราด้า ” ที่เหนือกว่า ซึ่งเขาเคยเอาชนะกำปั้นเพื่อนร่วมชาติอย่าง ” คูเอดราส ” มาแล้ว และนี้คือเหตุผลที่ ” ศรีสะเกษ ” ไม่ควรจะประมาทด้วยสไตล์การชกที่เครื่องร้อนช้าของแหลมหากเกิดแผลแตกจนไม่สามารถชกต่อได้ไม่ว่าฝั่งไหนก็ตาม ก็อาจเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นอีกครั้ง

 

    ซึ่งศึกไฟต์นี้ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลแตกระหว่างแข่งขันอยู่พอสมควร เพราะด้วยทั้งคู่เป็นมวยคนละทางเมื่อบวกหมัดกันมีโอกาสที่ศีรษะจะชนกันสูงมาก แถม ” เอสตราด้า ” ยังใช้หมัดแย็บและหมัดหน้าได้ดี หากโดนบ่อยๆก็อาจจะเรียกเลือดจาก  ” เจ้าแหลม ” ได้เหมือนกัน


    3. สภาพร่างกายหลังรีดน้ำหนัก

 

4ข้อพึงระวังของศรีสะเกษก่อนขึ้นทำศึกรีแมตช์กับเอสตราด้า

    

หลังจากที่ ” ศรีสะเกษ ” ได้เปิดเผยว่าตอนนี้ตัวเขายังมีหน้ำหนักเกินอยู่ 7 กิโลกรัม และมั่นใจไร้ปัญหาแน่นอน ในไฟต์ขึ้นชก 4 ยก กับรุ่นน้องร่วมสังกัดอย่าง นวพล NKL อย่างไรก็ตามแม้เจ้าตัวจะออกมาแสดงท่าทีไม่กังวลเรื่องนี้ ทว่าด้วยน้ำหนักที่เกินอยู่เยอะขนาดนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงอยู่พอสมควร

 

    เพราะเมื่อเอาน้ำหนักตัวของ  ” เจ้าแหลม ” ในพิกัดมารวมกับที่เกิน บอกได้เลยบอกว่าเขาทะยานขึ้นไปชกรุ่น ไลท์เวท กับ วาซิลโลมาเชนโก้ ยอดแชมป์โลกชาวยูเครนได้เลย ซึ่งเราคงต้องหวังพึ่งความเก๋าของ ” เสี่ยฮุย ” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ บอสใหญ่แห่งนครหลวงโปรโมชั่น ในการวางแผนรีดน้ำหนัก

 

ดยไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของแชมป์โลกชาวไทยมากจนเกินไป หาก ” ศรีสะเกษ ” หักโหมรีดน้ำหนักจนร่างกายจนกรอบหรือล้า เชื่อว่ามีเขาปัญหากับไฟต์รีแมตช์แน่ แถมมีโอกาสสูงที่ทางผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกันจะดึงเกมยาวเพื่อมาลุ้นแต้มกันตอนครบยก ก็ต้องมาดูกันต่อว่าถ้าจริงตามที่คาดการไว้ทางทีมสตาฟของแหลมจะแก้ไขอย่างไร 


    4. เทคนิคและความเร็ว

 

4ข้อพึงระวังของศรีสะเกษก่อนขึ้นทำศึกรีแมตช์กับเอสตราด้า

    

แม้นักมวยจังโก้รายนี้จะไม่ใช่ประเภทต่อยโป้งเดียวปิดบัญชี แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ” เอสตราด้า ” คือยอดฝีมือแถวหน้าในพิกัดนี้ ซึ่งเขามาพร้อมกับเทคนิคที่ยอดเยี่ยมและความเร็วอันเลิศ หากจะยกให้กำปั้นชาวเม็กซิกันรายนี้เป็นมวยสไตล์เอาต์บ๊อกเซอร์ที่ดีที่ของรุ่นนี้คงไม่ใช่คำพูดที่ยกยอปอปั้นจนเกินจริงแต่อย่างใด

 

     ศึกรีแมชต์ครั้งนี้ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิโกคงอยากจะให้เกมจบแบบครบยกแล้วมาวัดแต้มกันเพื่อหาผลแพ้-ชนะ ซึ่งไฟต์นี้ ” ศรีสะเกษ” มีปัญาหากับความเร็วและสเต็ปเท้าของ ” เอสตราด้า ” แน่นอน หากย้อนไปดูไฟต์แรกของการพบกันของคู่นี้เห็นได้ชัดเลยว่าช่วงต้นๆ “เจ้าแหลม ” โดนสปีดของกำปั้นชาวเม็กซิกันเล่นงานจนเกือบเสียท่าไปเหมือนกัน กว่าแหลมจะคลำเป้าเจอเขาก็ชกวืดจ้วงลมไปหลายครั้ง

 

 

    แม้เจ้าของแชมป์โลกชาวไทยจะรู้ว่าลำตัวของ ” เอสตราด้า ” ค่อนข้างเปราะโดนหนักๆแล้วมีอาการให้เห็น ทว่ามันไม่ได้เหมือนตอนชกกระสอบทรายที่จะอยู่นิ่งๆให้ ” เจ้าแหลม ” ปล่อยหมัดอัดสีข้างแบบสบายๆ เพราะด้วยฟุตเวิร์คที่พริ้วเหลือกินและหมัดหน้าที่พร้อมทำงานอยู่ตลอดเวลา มันเลยไม่ใช่งานง่ายที่แหลมจะเดินย่าง 3 ขุมเข้าไปล้วงลำตัวได้โดยที่ไร้ริ้วรอยจากพิษหมัด

 

ลิงค์ต้นข่าว ::     4ข้อพึงระวังของศรีสะเกษก่อนขึ้นทำศึกรีแมตช์กับเอสตราด้า

 

    ภาพจาก : hbo.com/boxing 

 

@ News  Photo Credit : siamsportco.th

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments