<<>> เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติต่างๆ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน กำปั้นเอเชียได้สร้างประวัติศาสตร์ให้โลกได้จารึกไว้อย่างมากมาย และหนึ่งในนั้นคือการคว้าแชมป์โลกด้วยสถิติการชกที่น้อยครั้งที่สุด โดยมี แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ และ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น สองตำนานแชมเปี้ยนโลกชาวไทย ครองอันดับอยู่ด้วย  

news201902182235295

 

 

    1. แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ (ขึ้นชก 3 ครั้ง)

 

    ก่อนหน้าที่ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ จะก้าวขึ้นมาเป็นกำปั้นอาชีพเขาเคยผ่านสังเวียนมวยไทยมาก่อนโดยใช้ชื่อว่า ” แสนแสบ เพชรเจริญ ” หรือ ” แสบทรวง เพชรเจริญ ” และยังเคยเป็นขุลพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทยที่ไปคว้าเหรียญทองในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 7 ที่ประเทศสิงคโปร์ (หรือ “ซีเกมส์” ในปัจจุบัน) แถมโชว์โหดไล่น็อกคู่ชกทุกคนในทัวร์นาเมนต์นี้ 

 

 

    ในเวลาต่อมา “แสนศักดิ์” ได้เบนเข็มมาชกในรูปแบบของมวยสากลอาชีพ โดยไฟต์แรกของเขาเปิดตัวได้สวยด้วยการชนะน็อก รูดี้ บาร์โร่ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ในยกที่ 1 จากนั้น “แสนศักดิ์” มีคิวขึ้นชกกับ ไลอ้อน(เท็ตสุโอะ) ฟูรูยาม่า กำปั้นชาวญี่ปุ่น และเขายังโชว์ฟอร์มดุชนะทีเคโอ นักมวยแดนปลาดิบ ในยกที่ 7  หลังจากที่ ” แสนศักดิ์ ” เก็บชัยมาได้ 2 ไฟต์เขาก็มีโอกาสขึ้นมาชิงแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท ของสภามวยโลก (WBC) กับ เปริโก้ เฟอร์นานเดซ นักมวยชาวสเปน 

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

  

 

  ซึ่งแมชต์นี้ “แสนศักดิ์” ก็ไม่ทำให้แฟนมวยชาวไทยผิดหวัง การชนะน็อก “เฟอร์นานเดซ” ในยกที่ 8 ส่งให้เขากลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 5 ของประเทศไทยและสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เป็นนักมวยคนแรกของโลกที่สามารถครองแชมป์สถาบันหลักด้วยการขึ้นชกแค่เพียง 3 ครั้ง หรือที่เรียกกันว่า ”บันได 3 ขั้น” แถมยังเป็นพิกัดที่ใหญ่ที่สุดของไทยอีกด้วย โดยปัจจุบันสถิติของ ” แสนศักดิ์ ” ยังคงอยู่ โดยมี วาซิล โลมาเชนโก้ ยอดกำปั้นชาวยูเครน ครองอันดับที่ 1 ร่วมกับเขาด้วย     

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

    

 

อย่างไรก็ตาม “แสนศักดิ์” สามารถป้องกันตำแหน่งได้แค่ 2 ครั้ง ก่อนจะเสียแชมป์ให้ มิเกล เบลาซเกวซ นักชกชาวสเปน ทว่าเขาได้โอกาสแก้มือกับ ” เบลาซเกวซ ” อีกครั้ง โดยหนนี้ “แสนศักดิ์” ได้ไปประกาศศักดิ์ดาถึงแดนกระทิงดุด้วยการชนะทีเคโอ “เบลาซเกวซ” ในยกที่ 2 ทำให้เข็มขัดซูเปอร์ไลท์เวท (WBC) กลับมาอยู่ในมือเขาอีกครั้ง จากนั้น “แสนศักดิ์” ขึ้นสังเวียนป้องกันแชมป์ได้ 7 ครั้ง ก่อนมาเสียให้กับ คิม ซาง ฮุน ปัจจุบัน “แสนศักดิ์” ได้เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 58 ปี ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการมวยบ้านเราและปิดตำนานแชมป์โลก ”บันได 3 ขั้น”  

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

    

2. วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น (ขึ้นชก 4 ครั้ง)  

 

    วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น หรือ “วีระพล สหพรหม” ที่หลายๆ คนรู้จักกันในอดีต สมัยชกมวยไทยเขาคือยอดมวยแถวหน้า โดยมี แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์ (แซมซั่น กระทิงแดงยิม) ร่วมยุคอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม “วีระพล” เคยได้รับค่าตัวต่อการชก 1 ครั้งสูงถึง 250,000 บาท  

 

 

    ต่อมา “วีระพล” ก็ได้เทิร์นโปรมาชกมวยสากลอาชีพ และไฟต์แรกของเขาคือการชิงแชมป์ รุ่น ซูเปอร์ฟลายเวท อินเตอร์ฯ (WBC) กับ โจเอล จูนิโอ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ผลคือทาง “วีระพล” สามารถเอาชนะทีเคโอไปได้ในยกที่ 3 จากนั้นเขาก็มีโปรแกรมขึ้นชกป้องกันแชมป์อินเตอร์ฯ กับ เมลวิน มากราโม่ นักชกชาวฟิลิปปินส์  ” วีระพล ” ยังรักษาฟอร์มเก่งของเขาไว้ได้หลังเอาชนะทีเคโอ “มากราโม่” ได้ในยกที่ 9 ทว่าในเวลาต่อ ” วีระพล ” ก็ได้สละแชมป์อินเตอร์ฯ 

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

   

 

หลังจากที่ “วีระพล” ได้สละแชมป์อินเตอร์ฯไปแล้ว เขาก็มีคิวอุ่นหมัดกับ แอปดี้ โปฮัง โดยเอาชนะทีเคโอ นักมวยชาวอินโดนีเซียคนนี้ไปได้ในยกที่ 5 และในที่สุด ” วีระพล ” ก็ได้โอกาสชิงแชมป์โลก รุ่นแบนตั้มเวทของสมาคมมวยโลก (WBA) กับแชมเปียนส์ชาวไทย คือ ดาวรุ่ง เอ็มพีปิโตรเลี่ยม (ชูวัฒนะ) แม้การชกครั้งนี้ไม่ได้จบเร็วเหมือนไฟต์ก่อนๆ แต่ทาง ” วีระพล ” ก็ยังเอาตัวรอดไปได้ด้วยการเอาชนะคะแนน “ดาวรุ่ง” ไปแบบไม่เอกฉันท์ (118-113, 117-114, 114-115) ทำให้เขาคว้าแชมป์โลกด้วยการชกเพียงแค่ 4 ครั้ง โดยสถิติของ “วีระพล” เป็นรองเพียง “แสนศักดิ์” และ “โลมาเชนโก้” เท่านั้น (ชก 3 ครั้ง)   

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

  

 

 เวลาต่อมา “วีระพล” เสียแชมป์โลกให้ นานา คอนาดู กำปั้นชาวกานา ในป้องกันตำแหน่งครั้งแรกของเขา จากนั้น “วีระพล” อุ่นเครื่องหลายครั้ง จนได้กลับมาชิงแชมป์โลกอีกหน ทว่าครั้งนี้เขาโยกมาชิงเข็มขัดของสภามวยโลก (WBC) กับ โจอิชิโร่ ทัตสึโยชิ โดยเอาชนะน็อกนักมวยชาวญี่ปุ่นไปได้ในยกที่ 6 ทำให้กลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง และสามารถป้องกันตำแหน่งได้ถึง 14 ครั้งก่อนมาเสียให้กับ โคซูมิ ฮาเซกาว่า    

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

    3. โคเซอิ ทานากะ (ขึ้นชก 5 ครั้ง )

 

    โคเซอิ ทานากะ เริ่มต้นจากการชกมวยสากลสมัครเล่น ก่อนที่จะเปลี่ยนมาค้ากำปั้นอาชีพ โดยแมชต์แรกของนักชกชาวญี่ปุ่นคนนี้ถือว่าเปิดตัวได้แจ่ม ด้วยการเอาชนะคะแนน ออสก้าร์ รักนาฟา นักมวยจากอินโดนีเซีย ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปี ในขณะนั้น ต่อมา “ทานากะ” ยังแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เมื่อเอาชนะคะแนน โรเนลเล่ เฟอร์เรราส และชนะน็อก คริสซัน โอมาเยา สองนักชกจากฟิลิปปินส์แบบไม่ได้ยากเย็นนัก อย่างไรก็ตามไฟต์ต่อมา “ทานากะ” ต้องมาทำศึกสายเลือดกับ เรียวจิ ฮาระ กำปั้นเพื่อนร่วมชาติและเจ้าของแชมป์ OPBF รุ่น มินิมั่มเวท แม้ “ทานากะ” ดูจะเป็นรองเรื่องประสบการณ์ ทว่าเขากลับชนะทีเคโอ “ฮาระ” ได้ในยกที่ 10 

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

 

 

   จากนั้น “ทานากะ” ได้โอกาสขึ้นชกชิงแชมป์โลก รุ่น มินิมั่มเวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) ที่ว่างอยู่ กับ ฮูเลี่ยน เยดราส กำปั้นชาวเม็กซิกัน โดยทาง “ทานากะ” สามารถเอาชนะคะแนนไปได้แบบเอกฉันท์ (117-111, 115-113, 117-111) และคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ซึ่งเขายังสร้างสถิติเป็นแชมป์โลกด้วยการชก 5 ครั้ง พร้อมกับทำลายสถิติของ นาโอยะ อิโนอุเอะ ที่เคยทำไว้อีกด้วย

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

 

 

    ในเวลาต่อ “ทานากะ” ได้ทำน้ำหนักขึ้นมาและสามารถคว้าแชมป์โลก รุ่น 108 ปอนด์ (WBO) ด้วยการเอาชนะทีเคโอ มอยเซส ฟูเอนเตส นักชกชาวเม็กซิกัน ในยกที่ 5 โดยปัจจุบัน “ทานากะ” เป็นแชมป์โลก รุ่น ฟลายเวท ขององค์กรมวยโลกหลังจากที่เขาเอาชนะคะแนนเพื่อนร่วมชาติอย่าง โช คิมูระ ในช่วงปลายปีที่แล้ว และกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นที่ 3 ของ “ทานากะ”     

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

    4. นาโอยะ อิโนอุเอะ (ขึ้นชก 6 ครั้ง)

 

    นาโอยะ อิโนอุเอะ เหมือนกำปั้นญี่ปุ่นหลายๆ คน ที่เริ่มต้นจากการเป็นขุนพลเสื้อกล้ามเยาวชนทีมชาติมาก่อนชกมวยสากลอาชีพ โดยไฟต์เทิร์นโปรของเขาเปิดตัวได้อย่างงดงามด้วยการชนะน็อก คริสซัน โอมาเยา นักชกฟิลิปปินส์ ในยกที่ 4 จากนั้น “อิโนอุเอะ” ก็ยังดุไม่เลิก ไล่เก็บคู่ต่อชก 3 คนรวด โดย ชนะน็อก เงาพระจันทร์ ชูวัฒนะ (ไทย) ยกที่ 1, ชนะทีเคโอ ยูกิ ซาโนะ (ญี่ปุ่น) ยกที่ 10, ชนะคะแนน เรียวอิชิ ทากูชิ (ญี่ปุ่น) หลังจากที่ “อิโนอุเอะ” ทำฟอร์มมาสักพัก ในที่สุดเขาก็ได้ขึ้นชิงแชมป์ (OPBF) รุ่น ไลท์ฟลายเวท ที่ว่างอยู่ กับ เจอร์สัน แมนซิโอ้ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ไฟต์นี้กำปั้นชาวญี่ปุ่นจบเกมเร็วปิดบัญชีได้ในยกที่ 5 สอยเข็มขัด (OPBF) มาครองได้สำเร็จ

 

 

    หลังจากที่ “อิโนอุเอะ” ได้แชมป์ระดับภูมิภาค ทำให้อันดับในสถาบันหลักของเขาดีพอที่จะขึ้นชิงแชมป์โลกกับเม็กซิกันอันตรายอย่าง เอเดรียน เฮอร์นันเดซ ซึ่งกำปั้นเลือดซามูไรก็ไม่ทำให้แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นผิดหวัง ด้วยการเอาชนะทีเคโอ “เฮอร์นันเดซ” ในยกที่ 6 และคว้าแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวท (WBC) พร้อมกับสร้างสถิติเป็นแชมป์โลกจากการชก 6 ครั้ง ซึ่งน้อยที่สุดในญี่ปุ่น ณ ขณะนั้น ก่อนที่จะมาถูก โคเซอิ ทานากะ แชมป์โลกรุ่นน้องมาทำลายในภายหลัง

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

 

 

    ทว่าในเวลาต่อมาทาง “อิโนอุเอะ” ก็ได้สละเข็มขัดแชมป์ 112 ปอนด์ ก่อนจะโชว์แกร่งชนะน็อก โอมาร์ อันเดรส นาร์บาเอซ แชมเปี้ยนส์ชาวอาร์เจนฯ คว้าแชมป์โลก 115 ปอนด์ ขององค์กรมวยโลก มาครอง ปัจจุบัน “อิโนอุเอะ” เป็นแชมป์โลกรุ่น แบนตั้มเวท ของสมาคมมวยโลก และถูกจัดอันดับให้เป็นกำปั้นที่ดีที่สุดหากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ อันดับ 6 (ของเดอะริง) และ อันดับ 7 (อีเอสพีเอ็น) ซึ่งแรงค์กิ้งอยู่เหนือ 2 ยอดนักชกเอเชียอย่าง ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น และดอนนี่ เนียเตส โดยเขาเป็นนักมวยญี่ปุ่นอีกคนที่เคยเป็นแชมป์โลก 3 รุ่น   

 

 

เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง     

 

 

ลิงก์เดิม :: เปิดสถิติกำปั้นเอเชียผงาดคว้าแชมป์โลกจากการชกน้อยครั้ง
images

@ credit news –image :: siamsport co.th

 

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments