<<>> เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง อดีตแชมเปี้ยนมวยไทยสารพัดตำแหน่ง ผันตัวเป็นหัวหน้าคณะ ไม่วายโดนเหลือบลิ้น สัมภเวสี ดีกรียอดมวยดัง ทั้งผู้จัดการ และนายหน้าค้ามวยชาวต่างชาติ ปล้นนักมวยของตนดื้อๆ ล่าสุดกล่อม ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์ มวยเอกคู่บารมีตีตนออกห่าง จนต้องเข้าร้องเรียน “ชาติซ้าย” นายกสมาคมมวยอาชีพ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนวงการมวยโดยทั่วไป
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.62 ที่ บ้านของ “ชาติซ้าย” สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ซอยวิภาวดี 16 กทม. เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง หรือนายสุรศักดิ์ ปักโคทะกัง อดีตแชมเปี้ยนมวยไทยหลายเส้น ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าคณะ “เข้มมวยไทยยิม” พร้อม “เสี่ยหนุ่ม” นายนริศ ว่องประเสริฐการ โปรโมเตอร์ท็อปคิงส์ และ “มร.ทิม” นายทิมาธี ธรรมาชีวะ หัวหน้าคณะศิษย์สองพี่น้อง เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรม และหวังเป็นอุทาหรณ์แก่วงการมวยไทย
โดย เข้ม เผยถึง “เจ้ากอล์ฟ” ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์ นักมวยไทยล่าสุด ซึ่งได้รับรางวัล นักมวยไทยสมัครเล่นชายดีเด่นของ กกท. ผู้อยู่ในการดูแลของตนมานานเกือบ 4 ปี เมื่อเร็วๆนี้ได้เซ็นสัญญากับ อี่เหมย โปรโมชั่นของจีน และรับปากจะเดินทางไปโชว์ตัวที่ประเทศจีนในวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 1 แสนบาท ทว่าเจ้าตัวเกิดเบี้ยวไม่เดินทางไป แต่กลับไปปรากฏตัวในงานแข่งขันมวยของ ออลสตาร์ ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมวยรายการใหญ่ของ บัวขาว บัญชาเมฆ ตัวของยอดวิชาเองก็ไม่ยอมติดต่อรับสายของตน ทั้งยังได้ข้อมูลว่า ยอดวิชานั้นถูกผู้ไม่หวังดีกล่อมให้แยกทางในการดูแลของตนจากบุคคลผู้เป็นตัวการสามราย ได้แก่ ชาวต่างชาติที่ชื่อย่อว่า “ซอ.ซอ.” และ ผู้จัดการตัวแสบ กับ นักมวยไทยชื่อดังแห่งยุค สมรู้ร่วมคิดกัน
“กรณีดังกล่าวอยากให้เป็นตัวอย่างของคนในวงการมวย ตัวผมเองหวังดีกับยอดวิชา ซึ่งถือเป็นรุ่นน้องจะโดนเขาหลอกไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ถ้าอยากได้นักมวยไปผมอยากให้มาคุยกับผมโดยตรง ไม่ใช่ใช้พฤติกรรมแบบนี้ ตัวผมเองไม่ต้องการได้ยอดวิชากลับคืนมา เพียงแต่อยากให้มาคุยกันให้ชัดเจน เวลามาครั้งแรกยกมือไหว้ผมมาอยู่กับผม ถึงเวลาจะไปก็ควรจะคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่ใช่ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะทางจีนที่เซ็นสัญญาไว้เขาก็จะฟ้องร้องเอาเรื่อง หากจะไปขึ้นชกที่จีนในสังกัดอื่น ทั้งนี้เพื่อเป็นอุทธาหรณ์แก่คนในวงการมวย ผมจึงมาขอร้องเรียนต่อ ท่านชาติซ้าย นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพในครั้งนี้ เพื่อขอความยุติธรรม” เข้ม กล่าว
ด้าน “ชาติซ้าย” นายสมชาติ กล่าวว่า “ผมจะช่วยไกล่เกลี่ยให้เป็นไปตามกฏหมายของวงการมวย เรื่องแบบนี้ เด็กมันเลว แม้จะมีคนยุยง แต่มันไม่มีสมองหรืออย่างไร แม้จะมีมือที่สามเข้ามาหลอกเป่าหูก็ตาม กรณีนี้แม้นักมวยไม่ได้ถูกบังคับให้ไปอยู่กับคนอื่น แต่คนผิดคือยอดวิชา เพราะตนเองเซ็นสัญญากับทางจีนอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ผมจะนำเรื่องเข้าสู่ สำนักงานคณะกรรมการมวยของการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาในลำดับต่อไป พร้อมกันนี้จะเรียกทุกฝ่ายมาพูดคุยกันต่อหน้าอีกครั้ง”
ส่วน มร.ทิม เผยว่า “กรณีดังกล่าวอยากให้คดีนี้เป็นตัวอย่าง ผมในฐานะคนทำมวยรู้สึกเห็นใจ เพราะเข้มเองก็เคยเป็นมวยของผมมาก่อน และเคยคิดแยกตัวออกไป จนเขามาขอโทษผมก็ไม่ถือโกรธซ้ำยังให้อภัย จนตัวเข้มเองเมื่อทำมวยแล้ว โดยคนอื่นมารังแกมายุยงเอายอดวิชาไป ในฐานะที่เราเป็นคนมวย ถือว่าเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง และควรจะต้องเอาผิด พวกที่คิดจะปล้นมวยคนอื่นเขาดื้อๆแบบนี้ ต้องลงโทษดำเนินการให้ถึงที่สุด”
ขณะที่ “เสี่ยหนุ่ม” นริศ โปรโมเตอร์ท็อปคิงส์ เผย “ผมเป็นโปรโมเตอร์มวยสร้างมวยมามากมาย สนับสนุนปั้นมวยเหล่านี้จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ค่าตัวก็จ่ายกันแบบยุติธรรม จัดขึ้นชกต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็จะมีพวกสัมภเวสี พวกเหลือบในวงการ ที่หากินกับมวย มาเป่าหูยุยงนักมวยให้แยกตัวออกไป สุดท้ายก็โดนเอารัดเอาเปรียบ คนพวกนี้มีทั้งนายหน้าชาวต่างชาติ และคนไทยด้วยกันเอง ที่เป็นทั้งผู้จัดการ และนักมวยดังมีชื่อเสียง แต่เบื้องลึกหากินด้วยวิธีสกปรก คนวงการมวยต่างรู้ดี เพียงแต่คนทั่วไปไม่ทราบเรื่องที่แท้จริงเท่านั้น”
