เห็นได้ว่าหลังประกาศแขวนนวมชกอาชีพเมื่อปี 2015 ชื่อของ “เดอะ มันนี” ยังไม่หายไปจากวงการเพราะขยันรับทรัพย์จากสังเวียนหมัดมวยอยู่เสมอ เช่นไฟต์ข้ามวงการกับ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ ยอดนักสู้ MMA แห่งศึก อัลติเมท ไฟท์ติง แชมเปียนชิป ที่จบลงด้วยชัยชนะ มิตรภาพที่ดี และรายได้รวมทั้งสิ้น 300 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9,700 ล้านบาท) ทั้งค่าตั๋วและลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รวมถึงไฟต์กับ เทนชิน กลายเป็นว่านี่คือวิถีทำกินแห่งใหม่ไปแล้ว ซึ่งปี 2019 อาจเห็น เมย์เวทเธอร์ ไปต่อยกับคนอื่นเพื่อสร้างสีสันและโกยเงินเข้ากระเป๋าอีกก็ได้ แต่ใครล่ะคือรายต่อไป?
คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ
โด่งดังไปทั่วโลกจากการปราบ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ คว้าแชมป์โลก UFC รุ่นไลท์เวท ในปี 2018 ทว่าชื่อเสียงจะทวีคูณยิ่งกว่าเดิมหากเจ้าตัวได้ห้ำหั่นกับ เมย์เวทเธอร์ ต่อจากนี้ โดยหลังจบไฟต์ที่ ลาส เวกัส นูร์มาโกเมดอฟ ก็ส่งสัญญาณขอท้าชกด้วยตลอด เช่นเดียวกับผู้จัดการส่วนตัว อาลี อัดเดลาซิซ ที่คอยให้ข่าวกับสื่ออย่างสม่ำเสมอว่าพร้อมเจรจากับทีมงานของ “พริตตี้ บอย” เพื่อให้เกิดไฟต์ข้ามวงการภาค 2 ขณะเดียวกัน ด้วยคู่ต่อสู้ที่ยังสดใหม่ และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงโอกาสทำเงินที่สูงยิ่ง น่าจะทำให้อดีตนักชกวัย 41 ปี พร้อมพิจารณาเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ
คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์
แม้การสู้กันเมื่อปี 2017 ที่เนวาด้า จะเป็น เมย์เวทเธอร์ ที่ชนะตามกติกามวยสากล อย่างไรก็ตาม นักสู้จอมโวจากไอริช ก็มองถึงโอกาสเผชิญหน้ากันอีกรอบเพื่อขอล้างตาให้หายคาใจ ไม่เพียงเท่านั้น ตอนที่รู้ข่าวว่าอีกฝ่ายจะไปชกกับ เทนชิน นาสึคาวะ ที่ญี่ปุ่นในไฟต์ที่ไม่เป็นทางการ ก็ทำเอาอดีตแชมป์โลก UFC หัวเสียไม่น้อยจึงออกมาด่ากราดที่ถูกมองข้ามพร้อมท้าให้มาเจอกันอีกคำรบ กระนั้นเอง แม็คเกรเกอร์ ก็ต้องไปทำฟอร์มมาใหม่เชือดใครสักคนใน UFC กู้ชื่อเสียงกลับมาก่อนหลังแพ้ให้ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ แบบเสียเชิง เพื่อเรียกร้องให้ ฟลอยด์ หันมาสนใจอีกรอบ
คาเนโล อัลวาเรซ
นักมวยชาวเม็กซิกัน ถูกสถาปนาเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการยุคใหม่หลังสร้างชื่อเล่นงานยอดฝีมือมากมายทั้ง มิเกล ค็อตโต้, อาเมียร์ ข่าน, ชูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ จูเนียร์, “3จี” เกนเนดี โกลอฟกิน จนมีเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวทคาดเอวอยู่ กระนั้นเอง สถิติ 54 ไฟต์ที่ผ่านมา ไฟต์เดียวที่เป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตคือแพ้ เมย์เวทเธอร์ เมื่อปี 2013 ปัจจุบันชื่อของ อัลวาเรซ กลายเป็นที่รู้จักของคอมวยทั่วโลก หากจะขอรีแมตช์ล้างตา “พริตตี้บอย” น่าจะยินดีพิจารณา ไม่เพียงเท่านั้น การที่นักชกวัย 28 ปี ได้ DAZN (ดะโซน) ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งกีฬาระดับโลก เซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนหลัก 5 ปี นั่นหมายถึงโอกาสที่ไฟต์นี้จะทำเงินมหาศาลจากการถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลก มากกว่าค่า PPV ปกติทั่วไป ยิ่งยั่วยวนให้ “มันนี แมน” อย่าง เมย์เวทเธอร์ พร้อมเปิดโต๊ะคุยถ้าอีกฝ่ายยื่นข้อเสนอมาหา
นักสู้ดาวรุ่งคนอื่น
เพราะมีธุรกิจอยู่ในต่างแดนมากมาย ทำให้ เมย์เวทเธอร์ มีโอกาสเดินทางไปยังที่ต่างๆและหากพบกับนักมวยคนใดที่มีหน่วยก้านดี มีฝีมือ โปรไฟล์ ความน่าสนใจเพียง ก็ไม่รอช้าที่จะประกาศไฟต์พิเศษเพื่อกินเงินค่าสัญญากับค่าตั๋วเข้ากระเป๋า แบบเดียวกับ เทนชิน นาสึคาวะ แชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งดาวรุ่งจากญี่ปุ่น รายล่าสุดที่ไปสู้ด้วยหลังเห็นแววสร้างกระแสจากผู้ชมได้ มองในแง่ธุรกิจก็ถือว่า วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย เพราะอย่างน้อยผู้แพ้ก็ยังได้โปรไฟล์ว่าเคยดวลกับนักมวยดีกรีแชมป์โลกมาแล้ว ถือเป็นโมเดลหากินแบบยาวๆของ “เดอะ มันนี่” ต่อจากนี้ก็ว่าได้
@ ลิงก์เดิม ;; เน็กซ์สเตชั่นของ “ฟลอยด์” โกยเงินบนสังเวียนปี 2019