Pacquiao_Algieri_Final_PC_141119_001a

 

-@@- เป็นสุดสัปดาห์แห่งความสุขสำหรับคนรักกีฬาอย่างแท้จริง เนื่องจากสารพัดกีฬาดังที่คนเฝ้ารอเวียนมาบรรจบครบครันกับการแข่งขันระดับ “บิ๊กแมทช์” ในหลากหลายชนิดกีฬา

 

ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลอังกฤษที่เป็นที่สนใจของแฟนบอลชาวไทยจำนวนมาก บิ๊กแมทช์อย่าง อาร์เซนอล เปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังเป็นประเด็นที่แฟนๆกีฬาพูดถึงยังไม่ทันจะเสียงเงียบดี ไม่กี่ชั่วโมงถัดมาศึกมวยรายการใหญ่โดยการจัดของท๊อปแรงค์ ณ เขตปกครองพิเศษมาเก๊าก็ตามมาติดๆ ปิดท้ายด้วยการลุ้นทีมฟุตบอลทีมชาติไทยทำศึกชิงแชมป์อาเซียน โดยจะพบกับเจ้าภาพสิงคโปร์เป็นนัดแรกในช่วงหัวค่ำอีกต่างหาก

 

 

hi-res-e01ec13b891249861bae9270046286f4_crop_north

 

 

แต่หากยังไม่หนำใจแฟนกีฬา เรียนเชิญลุ้นฟุตบอลลีคยุโรปที่จะเตะกันต่อเนื่องในคืนวันอาทิตย์นี้กันให้ตาแฉะกันต่อได้เลย แต่สำหรับผู้เขียนคงต้องขอผ่านล่ะครับ ชาร์จแบตไว้เตรียมสู้งานในวันพรุ่งนี้ดีกว่า

 

เพราะโลกมันกว้างขนาดนี้ สารพัดกิจกรรมที่นำพาความสุขมาให้กับผู้ที่สนใจในสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ดนตรี ภาพยนตร์ หรือสิ่งอื่นๆใด จึงถูกเสิร์ฟตรงเข้าสู่สายตาให้ได้รับชมกันอย่างมีความสุขเป็นการพักผ่อนที่ดีในรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียว

 

b6bf11de0ce1342e660f6a7067008cc5

 

 

อย่างไรก็แล้วแต่ ในความสุขที่ได้รับชมกีฬาจากโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลใบนี้ ความกว้างใหญ่ของมันก็ทำให้ชาวไทยอย่างเราได้รู้กันเสียทีว่า ประเทศของเรานั้นแคบเพียงใด

 

ผมกำลังพูดถึงสองนักมวยชาวไทยที่บินไปร่วมชกในศึกมวยรายการใหญ่ที่มาเก๊าแล้ว ประสบพบกับความพ่ายแพ้แบบที่ต้องเรียกว่า “สู้กันไม่ได้” 

 

ชลธาร อ.พิริยภิญโญ และขวัญพิชิต 13 เหรียญเอ็กซ์เพรส สองมวยสร้างซึ่งเป็นดาราชูโรงของวันทรงชัยยิม พกพาสถิติอันสวยหรู และความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมไปที่มาเก๊า ก่อนถูกทำลายเสียหมดสิ้นทั้งสถิติและความมั่นใจ ภายหลังเดินลงจากเวที

 

ชลธารรองเบอร์ 1 ของ WBO พกสถิติชนะกว่า 50 ครั้ง แพ้เพียงครั้งเดียวต่อ คริส จอห์น ซุปเปอร์แชมป์ในตอนนั้น คนเดียวเท่านั้น ถูก วาซีล โลมาเชนโก้ เจ้าของแชมป์โลก คนปัจจุบันใช้ความเร็วที่เรียกได้ว่าเหนือชั้น และสมบูรณ์แบบมากเล่นงานชลธารจนไม่สามารถสร้างความหนักใจให้กับอดีตแชมป์โอลิมปิคได้เลย ครบยก โลมาเชนโก้ชนะหายห่วง 120-107 ทั้ง 3 เสียง แถมยังอาศัยหมัดชุดอันรวดเร็วทำลายสถิติไม่เคยโดนนับของชลธารไปได้อีกต่างหาก หลังจากปล่อยหมัดที่แม้ไม่แรงมากแต่เข้าเป้าอย่างแม่นยำกระแทกใส่ใบหน้าชลธารอย่างต่อเนื่อง

 

459389180.0

 

 

ส่วนขวัญพิชิต รองเบอร์ 3 ของ WBO พกสถิติไร้พ่าย โดยชนะ 27 เสมอ 2 พร้อมทั้งฉายาใหม่ “น้องปาเกียว” ขึ้นขู่ โจว ซิ หมิง ซุปตาร์จากแผ่นดินใหญ่ แต่เกมส์การชกขวัญพิชิตไม่ได้เอาฝีมือมาจากปาเกียวผู้พี่เลย แค่ยก 2 ก็โดนหมัดของอดีตเหรียญทองโอลิมปิค ที่แทบไม่เคยน็อคใครได้เลย จนร่วงไป 2 นับ แถมทำท่าว่าจะไปไม่รอดอีกหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ซดกันครบ 12 ยก ขวัญพิชิตทำให้ โจว ได้เลือด แต่ก็โดนอีก 1 นับและโดนตัดอีก 1 แต้ม แพ้คะแนนแบบไม่อยากเอ่ยซ้ำ เพราะแพ้ชนะกัน 14-15 คะแนน อยากจะลืมมันเสียบัดนี้

 

18be08cb0da5372e660f6a706700b32c

 

 

อันที่จริงผมเองก็ทำนายผลการชกล่วงหน้าเป็นไปตามนี้เช่นกัน เพียงแต่หวังเล็กๆ ว่าพลังกำปั้นที่พอจะเรียกได้ว่าหนักหน่วงของชลธาร อาจสร้างปาฏิหาริย์ ให้เกิดขึ้นได้บ้าง แต่มันก็เป็นได้แค่วามหวัง แต่ถ้ามองในแง่ดี ประสบการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากการชกมวยบ่ายสามอีกสักร้อยไฟต์แน่นอน เรียนรู้และสู้มันต่อไปผมเชื่อว่าสักวันนักมวยของเราอาจจะแกร่งขึ้น

 

โลกกว้างเท่าเดิม โลกที่นักมวยไทยเคยเดินอย่างยิ่งใหญ่ใครๆก็ต้องยำเกรง แต่บัดนี้โลกใบเดิมนี้มันกว้างเกินไปสำหรับนักมวยชาวไทยเสียแล้ว เรากลายเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่เดินตามหลังพวกเขาหลายร้อยไมล์ ยิ่งมองดู คริส อัลเจียรี่ อดีตนักกีฬาคาราเต้ หรือ คิ๊กบอกซิ่ง ที่หันมาชกมวยอาชีพไม่กี่ปี แต่เบสิคการชก ฟุตเวิร์ค หรือการแย็ป นำหน้านักมวยเราที่ยังคงเดินดุ่มต่อยหนึ่งหมัดไปไกลลิบ ยิ่งสะท้อนให้เห็นความจริง

 

โลกหมุนตลอดเวลา แต่เหมือนเรายืนนิ่งอยู่กับที่ ถ้าหากเราไม่ออกวิ่งสปีดตามให้ทันนับจากตอนนี้

 

เกรงว่าโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ นักชกจากประเทศไทยคงไม่มีเวทีให้แสดงอีกต่อไป !!

 
@ ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว จาก: Aniwat Injongkol

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments