@@- ผลการชก ล้มแชมป์ เดิมพันเข็มขัดของมวยรุ่นยักษ์ที่สหราชอาณาจักร ระหว่าง แอนโธนี่ โจชัว แชมป์โลกเข็มขัด 3 เส้น (IBF/IBO/WBA) กับ โจเซฟ ปาร์เกอร์ แชมป์โลกเฮฟวี่เวต WBO เมื่อคืนวันสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า “สองยักษ์”ต่างเสียสถิติทั้งคู่..

 

Anthony Joshua vs Joseph Parker

 

* โจชัว เสียสถิติน็อกเอ้าต์กราวรูด.. ส่วน ปาร์เกอร์ เสียสถิติชนะรวด.. เพราะผลการชกออกมาโดย แอนโธนี่ โจชัว ชนะคะแนนเป็นเอกฉันท์ (118-110, 118-110, 119-109) ทำให้ โจเซฟ ปาร์เกอร์ ต้องแพ้เป็นครั้งแรก สถิติตกเป็น (24-1, 18KOs) ในขณะที่ โจชัว เพิ่มสถิติใหม่เป็น (21-0, 20KOs)

 

 

>>> ที่สำคัญกว่านั้น ไฟต์นี้โดนโจมตีอย่างหนักจาก ดิออนเต้ย์ ไวล์เดอร์ แชมป์โลกเฮฟวี่เวต WBC ที่ส่งข้อความทางทวีตเตอร์ว่า.. ปาร์เกอร์โดนปล้น! รวมทั้งปลอบใจว่า คุณไม่ต้องขออภัยใคร เพราะคุณทำได้ถึงขั้นสมควรเป็นผู้ชนะในไฟต์นี้…

@@ โจเซฟ ปาร์เกอร์ (นักชกนิวซีแลนด์) ต้องเสียเปรียบนักชกเจ้าถิ่นครบวงจร.. ต้องบินไกลจากสหรัฐอเมริกามาชกที่สหราชอาณาจักร, น้ำหนักก็เสียเปรียบถึง 6 ปอนด์ (136.5 > 142.5), เตี้ยกว่า 5 เซนติเมตร (193 > 198), ช่วงชกสั้นกว่า 15 เซ็นติเมตร, ที่สำคัญกรรมการให้คะแนน 3 คน และกรรมการบนเวทีอีก 1 คน ล้วนเทใจให้นักชกเจ้าถิ่น..

 

Anthony Joshua

 

 

..กรรมการให้คะแนน 2 คนแรกให้ โจชัวชนะ 10 ต่อ 2 ยก, อีกคนให้ชนะ 11 ต่อ 1 ยก.. ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ตามสายตาของแฟนมวย, นอกจากนี้ กรรมการบนเวทียังปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ถูกต้อง เช่น โจชัวมีปัญหาเทปพันนวมซ้ายหลุด ก็ปล่อยให้ชกต่อโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของปาร์เกอร์ที่พะวงกลัวเทปฟาดโดนตา, พอถึงเวลาคับขันของโจชัวในบางครั้ง กรรมการก็แยกให้ไปจัดการกับปัญหาเกี่ยวกับนวม ซึ่งทำให้โจชัวได้พัก..

 

 

 

…เกมการชกหลายครั้งที่ ปาร์เกอร์ ซึ่งเตี้ยกว่า-สั้นกว่า พยายามเข้าชกในระยะประชิด กรรมการก็หาเรื่องแยก ทำให้โจชัวได้ใช้ประโยชน์ด้านช่วงชกในการชกวงนอกด้วยหมัดแย็บที่ยาวกว่า..ฯลฯ.. นี่คือข้อครหาของแฟนมวย(เท่าที่สืบเสาะมา)…

…แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นชัด คือ 4 ยกหลังสุด ปาร์เกอร์ จะหยุดการเข้าชกในระยะประชิด ทำให้โจชัวสามารถคุมเกมการชกได้.. ผู้มาเยือนจึงต้องพ่ายคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์

 

 

1016575_934188026595582_8021673664984528978_n1-e1418356661782

new-logox2-e14168768727081

@ news credit : อ.ก้อง บางกุ้ง 

 

Photo Credit : Esther Lin/SHOWTIME

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments