เกาะติดแบบคนกันเอง กับสื่อไทยสายกำปั้น สร้อย มั่งมี

ข่าวที่ผมเขียน ข่าวที่ผมหา บางข้อความ ข้อมูล ถูกตำหนิ ติติง แปลเป็น ความประสงค์ร้ายบ้าง จงอย่าได้ใส่ใจ หากท่านใด คิดว่า เป็นข่าวสาร ข้อมูลที่ พอจะให้ความรู้ และที่สำคัญ ผมมองว่า นี่คือ “การคืนความสุข” ที่แท้จริง จับต้อง สัมผัสได้ ไม่ใช่เรื่อง เพ้อฝัน เพ้อเจ้อ ใดๆ เชิญเสพ ข่าวสารได้ ตามนี้ ครับ ขอบพระคุณ !!

————-
 ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ป้องกันแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ สภามวยโลก (WBC) พร้อมซิวเข็มขัดเกียรติยศ “เดอะ ริงค์” (The Ring) ที่”ว่าง” กลับเมืองไทยรวดเดียว 2 เส้น หลังเอาชนะ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ผู้ท้าชิงภาคบังคับชาวเม็กซิกัน ไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 117-111,115-113 และ 114-114 ในการชกที่ลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 ก.พ.61 ตรงกับเช้าวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันรุ่งขึ้น 26 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐ ในช่วงเช้า คณะแชมเปี้ยนโลกชาวไทยเตรียมเดินทางกลับจากท่าอากาศยานในนครลอสแองเจลิส โดยจะต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน ก่อนจะบินตรงเข้าประเทศไทย ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เที่ยวบิน “บีอาร์ 211” วันอังคารที่ 27 ก.พ. เวลา 10.40 น.

“เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ เปิดใจก่อนขึ้นเครื่องว่า ตลอดคืนหลังการชกตนแทบไม่ได้นอนเลย หลังจาก “เทรนเนอร์ป๊อป” โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ ปฐมพยาบาลบาดแผลรอยฟกช้ำบริเวณหางตาขวาที่บวมปูดอันเนื่องจากพิษหมัดของเอสตราด้าแล้ว ก็ถูกเชิญไปเลี้ยงฉลองกันทั้งคืนจนกระทั่งช่วงเช้าจึงได้พักผ่อน และงีบหลับไปเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น 
ต่อคำถามที่ว่า เอสตราด้า นั้นสร้างความลำบากใจให้กับเรามากน้อยแค่ไหน เทรนเนอร์ป๊อป กล่าวว่า นักชกเม็กซิกันรายนี้มีเรี่ยวแรงและการฟิตซ้อมเตรียมตัวมาดีมาก หากเปรียบกับนักกีฬาด้วยกันทั่วไป เขาแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว

๛ เผยแผนกำราบ”ไอ้ไก่โต้ง”
การเตรียมพร้อมในการรับมือกับ “กัลโล่” หรือ “ไอ้โก่โต้ง” เอสตราด้า ในไฟต์นี้ “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผจก.แชมป์โลกชาวไทย กล่าวเสริมว่า “เดิมทีเรามั่นใจว่า เอสตราด้า ต้องศึกษาไฟต์การชกระหว่างแหลมกับ โรมัน กอนซาเลซ มาเป็นอย่างดี ในครั้งนั้นเราเน้นการออกหมัดฮุคขวามากเป็นพิเศษ ก่อนจะคว่ำโรมันลงได้อย่างปราศจากข้อกังขา ทว่าในการชกไฟต์นี้ เราเปลี่ยนแผนใหม่ด้วยการให้ ศรีสะเกษนั้นเน้นออกอาวุธด้วยหมัดซ้ายตรงให้มากขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนการดังที่เราวางไว้ จะเห็นได้ชัดว่า หมัดซ้ายตรงของเรานั้นทำงานเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำและนำมาซึ่งชัยชนะในที่สุด”

๛ ไฟต์ต่อไป
ต่อข้อถามที่ว่า สำหรับไฟต์ต่อไป ศรีสะเกษ มีแนวโน้มจะต้องพบกับผู้ท้าชิงคนใด หรืออยากจะชกกับใครมากที่สุด ฮีโร่ชาวไทยตอบว่า ถึงชั่วโมงนี้ ตนพร้อมสู้ได้ทุกคนในรุ่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนทั้งสิ้น หรือหากเอสตราด้าอยากจะแก้มือก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนการชกในยกสุดท้าย (ยกที่ 12) กับเอสตราด้า ซึ่งได้รับการอวยจากสื่อต่างชาติหลายสำนักว่า มีสิทธิจะเสนอเข้าประกวดเป็น”ยกแห่งปี”เลยทีเดียว ซึ่งหลายคนอาจมองว่า น่าเสียวไส้และรู้สึกตกอกตกใจ เกรงว่าตนจะหมดแรงนั้น ขอเรียนตามตรงว่า ทางทีมงานที่มุมนั้นกำชับไม่ให้เดิน เพราะมั่นใจว่าคะแนนเรานำห่างแล้ว แต่สำหรับตนนั้นยืนยันว่าไม่หมดแรงแต่อย่างใด ทว่าเมื่อคู่ต่อสู้ชวนทะเลาะเดินเข้าหา ด้วยศักดิ์ศรีจึงปักหลักแลกหมัดด้วยแบบลืมตายไม่กลัวใดๆทั้งสิ้น ณ วินาทีนั้นคิดอยู่อย่างเดียว จะต้องคว้าชัยชนะให้เด็ดขาดและชกให้สะใจพี่น้องชาวไทยที่เอาใจเชียร์อยู่ทางบ้านให้ได้เท่านั้น แชมป์โลก 2 เส้น วัย 31 ปีกล่าว

๛ ไฟต์ต่อไปยังไม่สรุป
สำหรับแนวโน้มในไฟต์ต่อไปของศรีสะเกษ ด้านเสี่ยฮุยให้ความเห็นว่า “ในเวลานี้ยังไม่อาจสรุปใดๆแน่ชัด แต่มองสถานการณ์คร่าวๆ ถ้าหากทางผู้จัดอเมริกาจะให้เราชกไฟต์ต่อไปในอีก 4 เดือนข้างหน้า ผมมองว่าเป็นเรื่องดี ระยะเวลาทิ้งช่วงสี่เดือนนั้นเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าหากเราต้องรอนานกว่านั้น บางทีผมก็อยากจะขอจัดในบ้านเราสักหนึ่งไฟต์เพื่อให้พี่น้องชาวไทยได้ชมฝีมือการชกของศรีสะเกษอย่างใกล้ชิดกันอีกสักครั้ง ทั้งนี้ยังต้องรอบทสรุปที่ชัดเจนก่อน ซึ่งคงจะรู้ชัดในไม่กี่วันข้างหน้านี้”
สำหรับโปรแกรมของศรีสะเกษหลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย เสี่ยฮุย ผู้จัดการส่วนตัวแจงรายละเอียดว่า ศรีสะเกษจะเดินทางถึงประเทศไทยราวๆ 10.40 น. วันอังคารที่ 27 ก.พ. นี้ หลังจากพิธีต้อนรับที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเสร็จสิ้น ก็จะรีบเดินทางต่อไปยังเวิร์คพอยท์ให้บันทึกเทปออกรายการ ส่วนสื่อช่องใดที่ติดต่อเข้ามาขอสัมภาษณ์นั้น จะต้องจัดลำดับตามความต้องการกันโดยละเอียดอีกครั้ง

ส่วนทางด้านสถานการณ์ในเมืองไทย หลังมีการสอบถามไปยัง “น้องเก๋” พัชรีวรรณ กัณหา หวานใจคนสวยของแชมป์โลก เจ้าตัวเผยว่า ศรีสะเกษนั้นฝันอยากจะได้รถยนต์คันใหม่เป็น โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หลังจากเปรยไว้กับตนก่อนหน้านี้ เพียงแต่ตนนั้นติงไว้ว่า ควรจะหาซื้อที่พักก่อนจากนั้นจึงค่อยคิดซื้อรถ ซึ่งแชมป์โลกชาวไทยเห็นตามคำเสนอแนะของตน จึงได้ซื้อคอนโด ที่พักบริเวณตรงข้ามเซ็นทรัล รัตนธิเบศร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับค่ายมวย ในราคาซื้อขาด 2.5 ล้าน ด้วยเงินสด และเมื่อพี่แหลมเสร็จภาระกิจป้องกันแชมป์โลกกลับมาเที่ยวนี้ ก็คงจะได้ซื้อรถตามที่ตนตั้งใจไว้แต่แรก แฟนสาวกล่าว

๛ เพิ่มค่าตัวรับ 6 ล้านบาท
ในส่วนของหยาดเหงื่อจากการทำศึกกำปั้นไฟต์ล่าสุด มีการรายงานจากต่างประเทศหลังเสร็จสิ้นการชั่งน้ำหนักตัวอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ก่อนชกว่า ไฟต์นี้ แชมป์โลกชาวไทยได้ค่าตัว 2.5 แสนเหรียญสหรัฐ (ราวๆ 8 ล้านบาท) ขณะที่ผู้ท้าชิงเม็กซิกันรับไป 1 แสนเหรียญสหรัฐ(ราวๆ 3.2 ล้านบาท) ด้าน “น้องเก๋” พัชรีวรรณ กัณหา ผู้ใกล้ชิดขวัญใจชาวไทยที่สุดเผยชัดเจนว่า “เสี่ยฮุยรับปากว่าจะให้พี่แหลม 5 ล้านบาทก่อนขึ้นชก ซึ่งพี่แหลมเองก็พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเดิมทีพี่เค้าตั้งใจว่า ถ้าได้ค่าเหนื่อยถึงมือสัก 4 ล้านบาทก็พอใจแล้ว แต่ล่าสุดก่อนพี่แหลมจะขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย ได้โทรมาแจ้งว่า เสี่ยฮุยรับปากช่วงก่อนขึ้นสังเวียนชกว่า หากได้รับชัยชนะเหนือเอสตราด้า จะเพิ่มค่าตัวให้เป็น 6 ล้านบาทเลยทีเดียว”

๛ กระแสรถมาแรง !! 
จากกรณี “น้องเก๋” พัชรีวรรณ หวานใจศรีสะเกษ ให้ข่าวชัดเจนว่า แชมป์โลกชาวไทยต้องการจะซื้อรถใหม่ยี่ห้อ”โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์”ไว้เป็นของตัวเอง ปรากฏหลังเป็นข่าวแพร่ออกไปทางสื่อออนไลน์ และทีวีหลายช่อง รายงานข่าว ทั้งยังมีกระแสมวลชนในโลกโซเชียลเห็นพ้องกันเป็นส่วนใหญ่ว่า ทางยักษ์ใหญ่รถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว ควรจะยกรถยนต์ให้ฟรีๆ พร้อมดึงตัวศรีสะเกษเข้าเป็นพรีเซนเตอร์เลยด้วยซ้ำ ในฐานะเป็นบุคคลที่ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ และสังคมควรจะตอบแทนคุณงามความดีแก่การเสียสละของนักมวยไทยผู้นี้ ซึ่งเคยได้รับความทุกข์ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแสนสาหัสมาก่อนที่จะกลายเป็นแชมเปี้ยนโลกขวัญใจชาวไทยเสียด้วยซ้ำ

๛ คาใจเรื่องคะแนนกรรมการ
ผลพวงจากการให้คะแนนในศึกไฟต์นี้ แม้แชมเปี้ยนโลกชาวไทยจะรักษาตำแหน่งไว้ได้ ทว่าผลที่ออกมากลับไม่เอกฉันท์ โดย สตีฟ มอร์โรว ให้ศรีสะเกษชนะ 117-111 ,แคธีย์ เลียวนาร์ด(หญิง) ให้ชนะ 115-113 ขณะที่ เดฟ มอเร็ตติ กลับให้เสมอกัน 114-114 สรุปนักชกไทยเป็นฝ่ายชนะไปแบบไม่เอกฉันท์ 2-1 เสียงนั้น กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากมายในโลกโซเชียลอีกเช่นกัน ซึ่งแม้จะเป็นโผกรรมการจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกายกชุด ภายใต้การรับรองของสภามวยโลกให้ทำหน้าที่ตัดสินในครั้งนี้ แต่คะแนนที่ออกมานั้นถือว่า คนละทิศละทาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ อ.นพรัตน์ ศรีเจริญ กรรมการชาวไทย ผู้เคยผ่านการทำหน้าที่ตัดสินมวยโลกของ WBC มาแล้วกว่า 300 แมตช์ ให้ความเห็นในกรณีนี้ว่า “การให้คะแนนของแต่ละท่านนั้นจะไม่เหมือนกัน บางคนชอบมวยเดินหรือไฟเตอร์ บางคนชอบมวยลีลาฉาบฉวยหรือบ๊อกเซอร์ การออกหมัดเยอะ การออกหมัดเข้าเป้า และหมัดนั้นมีน้ำหนักหรือไม่ เป็นข้อละเอียดแยกย่อยที่แต่ละคนพิจารณา โดยส่วนตัวแล้วผมเคยทำหน้าที่ร่วมกับ สตีฟ มอร์โรว เห็นว่าเขาเป็นผู้ตัดสินที่มีคุณภาพและยุติธรรมคนหนึ่ง แต่กับกรรมการอีกสองท่านนั้น ไม่เคยร่วมงานกัน จึงไม่ขอออกความเห็น