<<>> ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ นับว่าเป็นเดือนที่นักมวยสากลชาวไทย จะมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญมากที่สุดก็ว่าได้ โดยสามารถที่จะไล่เรียงลำดับกันไปได้ดังต่อไปนี้ คือ “โตโต้” เอกตะวัน บีทียูเรือไวกิ้ง จากแค้มป์ เกียรติ กรีรินทร์ โปรโมชั่น ที่จะเดินทางไปขึ้นชกตัดเชือกในรุ่นฟลายเวตของ IBF กลับ ฮวน “โคตอง” คาร์ลอส เรเบโค่ อดีตแชมป์โลกรุ่น 108 และ 112 ปอนด์ของ WBA ถึงแดนฟ้าขาวประเทศอาร์เจนติน่า ในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นก็จะเป็นคิวของคู่มวยล้างตาหยุดโลก ในวันเสาร์ที่ 9 กันยายนตามเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทาง “แหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมปโลกมหัศจรรย์จากค่าย นครหลวง บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น
Photo Credit: boxmob.jp
จะหอบเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ WBC ไปให้ทาง “ช็อคโกลาติโต้” โรมัน กอนซาเลซ อดีตแชมป์โลก 4 รุ่นชาวนิคารากัว ล้างตาให้หายสงสัย จากนั้นก็จะเป็นคิวของดาวรุ่งของ เพชรยินดี บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น พลังพล ซีพีเฟรชมาร์ท ที่ล่าสุดเป็นที่ยืนยันแล้วว่า จะได้เดินทางไปชิงแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์ฟลายเวตของ WBO จาก โคไซ ทานากะ เจ้าของตำแหน่งชาวอาทิตย์อุทัย ในวันพุธที่ 13 กันยายน ที่กรุงโอซาก้า ในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นวันนี้คอลัมน์ “ลุยมวยโลกสไตล์นาย… บ็อกซิ่ง-บอย” จะพาท่านมาทำความรู้จักกับ โคไซ ทานากะ แชมป์โลก 2 รุ่นชาวญี่ปุ่น คู่ชกของพลังพลกันสักหน่อย ก่อนที่ทั้งคู่จะพบกันบนสังเวียนเลือดในวันที่ 13 กันยายนที่จะถึงนี้
โคไซ ทานากะ นั้นเป็นเด็กหนุ่มจากเทศบาลเมืองทะจิมิ จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น เขาเกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1995 ปัจจุบันจึงมีอายุได้ 22 ปี ซึ่งทานากะนั้นยังมีพี่ชายที่ชื่อว่า เรียวไม ทานากะ วัย 24 ปี และก็ยังเป็นนักมวยสากลสมัครเล่น ของมหาวิทยาลัยโคมาซาวะอยู่ในเวลานี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วในเครือญาติของเขาก็ยังมี ยูฮานะ โยโกย ลูกพี่ลูกน้องวัย 17 ปี นักสเก็ตน้ำแข็งทีมชาติญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย ดังนั้นหากจะเรียกว่าเขาเกิดในตระกูลนักกีฬา ก็คงจะไม่ผิดเพี้ยนจนเกินไปนัก
Photo Credit: YouTube
ทานากะนั้นชื่นชอบศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก เพราะเขานั้นเริ่มฝึกคาราเต้มาตั้งแต่เรียนอยู่ในระดับอนุบาล ก่อนที่จะเริ่มต้นซ้อมมวยที่ยิมแห่งหนึ่งในเมืองอีกโตกาวะ พร้อมๆกับพี่ชายเมื่อเขามีมีอายุได้เพียง 5 ขวบเท่านั้น
เมื่อทานากะเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนมัธยมชูเกียว เขานั้นก็ได้พบกับ ฮิเดยาสุ อิชิฮาร่า อดีตแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวตของ OPBF ที่เคยผ่านการชิงแชมป์โลกของ WBA ในรุ่นเดียวกันมาแล้ว ที่ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการของชมรมมวยของโรงเรียนดังกล่าว ดังนั้นในเมื่ออาจารย์ได้เห็นแววในตัวของเขา ทานากะจึงได้รับการสนับสนุนให้ได้ขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นในนามของทีมโรงเรียนนับตั้งแต่นั้นมา และเขาก็ไม่ทำให้ครูอิชิฮาร่าผิดหวัง เพราะเขานั้นกวาดแชมป์มวยสากลสมัครเล่นในระดับนักเรียนได้ถึง 4 รายการ รวมทั้งยังได้เหรียญเงิน เอเชียน ยูธ แชมเปี้ยนชิพในปีค.ศ. 2013 อีกด้วย รวมทั้งยังเคยเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ในรายการ AIBA ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในปีค.ศ. 2012 ด้วย
ในที่สุดเมื่อถึงจุดอิ่มตัวในแบบมวยสากลสมัครเล่น ทานากะก็ตัดสินใจทิ้งสถิติชนะ 46 (13KO/RSC) แพ้ 5 เอาไว้เบื้องหลัง เพื่อที่จะขึ้นชกมวยสากลอาชีพในสังกัดของ ฮาทานากะ บ็อกซิ่ง ยิม ของ คิโยชิ ฮาทานากะ อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวตของ WBC ที่จัดมวยในชื่อศึก “โซล บ็อกซ์” มานานหลายปี จากนั้นจึงขึ้นทดสอบสมรรถภาพเพื่อยื่นของไลเซ่นชกมวยอาชีพกับทาง JBC และก็ไม่มีปัญหาเมื่อทานากะผ่านการทดสอบได้ใบอนุญาตชกมวยอาชีพในคลาสบีได้สำเร็จเมื่อวันที่ 22 กันยายนค.ศ. 2013
ทานากะขึ้นชกอาชีพหนแรกเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โดยเป็นการขึ้นชั้นแบบเร่งด่วน เพราะแม้ว่าจะเป็นการชกเพียงแค่กำหนด 6 ยกก็ตาม แต่คู่ชกของเขานั้นก็คือ ออสก้าร์ แร็คนาฟา รองแชมป์โลกอันดับ 6 ของ WBO และแชมป์ WBO Asia-Pacific รุ่นมินิฟลายเวตชาวอินโดนีเซีย ซึ่งทานากะนั้นก็สามารถที่จะส่งแร็คนาฟาลงไปนับ 8 ได้ตั้งแต่ยกแรก ก่อนที่จะเอาชนะคะแนนไปขาดลอย 60-53, 60-54 และ 59-55 เป็นผลให้เขาถูกบรรจุชื่อเข้าอันดับที่ 10 ในพิกัดไลต์ฟลายเวตของ JBC ทันที
ทานากะขึ้นชกอาชีพหนที่ 2 เมื่อวันที่ 16 มีนาคมปีถัดมา โดยเป็นการพบกับ รอนเนล เฟอร์เรราส รองแชมป์โลกอันดับ 12 รุ่นมินิมั่มเวตของ WBA จากฟิลิปปินส์ ในการชกกำหนด 8 ยก และก็เป็นทางทานากะที่โชว์ฟอร์มเหนือกว่า ทำคะแนนเข้าป้ายไปขาดลอย 79-72, 79-73 และ 79-74 ซึ่งหลังจากไฟต์นี้ ทาง WBA ก็ได้บรรจุเขาเข้าเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 14 ในรุ่นมินิมั่มเวตทันที
Photo Credit: BoxRec
จากนั้นทานากะก็ได้ถูกส่งให้พบกับ คริซอน โอมาเยา รองแชมป์มินิฟลายเวตอันดับ 3 ของ OPBF จากฟิลิปปินส์ ในวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 ต่อไปทันที และเขาก็ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2 นาที ก็สามารถที่จะส่งโอมาเยาลงไปนับ 10 คว้าชัยได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งขึ้นสู่รองอันดับ 1 ของ OPBF ในรุ่น 105 ปอนด์ได้ในที่สุด และได้ขึ้นชิงแชมป์มินิฟลายเวตของ OPBF ในไฟต์บังคับจาก ริวจิ ฮาระ เจ้าของตำแหน่งเพื่อนร่วมชาติ ในวันที่ 30 ตุลาคมปีเดียวกันนั่นเอง แต่คราวนี้ทานากะนั้นกลับต้องเจองานหนัก เพราะมีคะแนนตามหลังทางฮาระอยู่เล็กน้อยใน 7 ยกแรก อย่างไรก็ดีทานากะก็กลับมาเร่งเครื่องได้ตั้งแต่ยกที่ 8 เป็นต้นไป ก่อนที่จะเอาชนะ TKO ฮาระไปในยกที่ 10 คว้าแชมป์มินิฟลายเวตของ OPBF มาครองได้สำเร็จเป็นเส้นแรก โดยนับได้ว่าเป็นแชมป์คนที่ 17 ของ OPBF ในรุ่นนี้ และยังกลายเป็นเจ้าของสถิติครองแชมป์ OPBF ที่ชกมาน้อยครั้งที่สุดของญี่ปุ่น คือ 4 ครั้งอีกด้วย
ในปีต่อมา เมื่อทาง คาสึนาริ ทาคายาม่า ประกาศสละตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวตของ WBO เพื่อครองแชมป์โลกรุ่นเดียวกันของ IBF เพียงสถาบันเดียว ดังนั้นเขาจึงได้รับโอกาสทองในการขึ้นชิงแชมป์โลกที่ว่างของ WBO ในรุ่น 105 ปอนด์ กับ ฮูเลี่ยน เยดราส รองแชมป์โลกของ WBO ชาวจังโก้ และทานากะก็ใช้ความเร็วและทักษะที่เหนือกว่า ทำคะแนนเข้าป้ายแบบในที่สุด 117-111, 115-113 และ 115-113 คว้าแชมป์โลกเส้นแรกมาครองได้อย่างวดงามพร้อมกลายเป็นเจ้าของสถิติของประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นครองแชมป์โลกด้วยสถิติการชกน้อยที่ครั้งที่สุด คือ 5 ครั้ง ทำลายสถิติเดิมของ นาโอยะ อิโนเอะ ได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 (ปัจจุบันอิโนเอะเป็นแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวตของ WBO)
ทานากะขึ้นป้องกันตำแหน่งหนแรกในวันที่ 31 ธันวาคมปีเดียวกัน โดยเป็นการพบกับ วิค ซาลูดาร์ แชมป์มินิฟลายเวตของ WBO Asia-Pacific ซึ่ง 5 ยกแรกนั้นทานากะถูกผู้ท้าชิงกำปั้นหนักทำคะแนนนำห่างไปขาดลอย แถมยังโดนขวาตรงลงไปนับในยกที่ 5 อีกด้วย แต่ทานากะนั้นกลับมาพลิกเกมได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อได้จังหวะสวนซ้ายเข้าลำตัวของซาลูดาร์ในยกที่ 6 ส่งผลให้ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์พ่าย TKO ไปในที่สุด ด้วยหมัดเดียวหมัดนี้เท่านั้น
ทานากะตัดสินใจสละตำแหน่งแชมป์โลกรุ่น 105 ปอนด์ ในวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 2016 เพราะเริ่มมีปัญหาในการทำน้ำหนักตัวมากขึ้น จากนั้นจึงขึ้นอุ่นเครื่องหนึ่งครั้งกับรองแชมป์โลกรุ่น 108 ปอนด์ชาวฟิลิปปินส์ เรเน่ ปาติราโน่ และก็สามารถที่จะเอาชนะ KO ไปได้ในยกที่ 6 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมปีเดียวกันนั่นเอง แต่ผลพวงจากไฟต์นี้ก็ทำให้เขานั้นต้องหยุดชกไปนานหลายเดือน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่มือ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทาง “ไอ้งูเหลือม” ดอนนี่ เนียเตส นักชกชาวฟิลิปปินส์ ประกาศสละตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์ฟลายเวตของ WBO เพื่อข้ามไปตามล่าแชมป์โลกรุ่น 112 ปอนด์ (ปัจจุบันเป็นแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ IBF) ทางทานากะที่มือหายเจ็บพอดี ก็ได้รับการผลักดันให้ขึ้นชิงแชมป์รุ่น 108 ของ WBO ที่ว่างลง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2016 และเขาก็กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง เมื่อไล่ถลุง มอยเสส ฟูเอนเตส อดีตแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวต และ อดีตแชมป์เฉพาะกาลรุ่นจูเนียร์ฟลายเวตของ WBO ชาวเม็กซิกัน พ่าย TKO ไปในยกที่ 5 คว้าแชมป์โลกรุ่นที่ 2 มาครองได้อย่างงดงาม และกลายเป็นเจ้าของสถิติโลกคนใหม่ ด้วยการเป็นแชมป์โลก 2 รุ่นที่ชกน้อยครั้งที่สุด คือ 8 ครั้ง ทำลายสถิติของ นาโอยะ อิโนเอะ ได้อีกหนึ่งรายการ
Photo Credit: Twitter
ทานากะพึ่งจะขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์รุ่นที่ 2 ในไฟต์บังคับไปหมาดๆเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา และก็สามารถที่จะเอาชนะคะแนน อังเคล อคอสตาร์ รองอันดับ 1 จากเปอร์โตริโกไปได้อย่างขาดลอย (117-111, 117-111 และ 116-112) ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้สำเร็จ
แบะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าไฟต์ต่อไป ทานากะที่ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยชูเกียว เลือกที่จะป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์ฟลายเวตของ WBO กับทาง พลังพล ซีพีเฟรชมาร์ท อดีตแชมป์ PABA-WBA Asia รุ่นไลต์ฟลายเวตชาวไทย (ปัจจุบัน PABA ไปสังกัด WBS แล้ว) ที่มีดีกรีเป็นรองอันดับ 13 ของ WBO ในพิกัด 108 ปอนด์ จากการจัดอันดับล่าสุด โดยการชกจะมีขึ้นที่ EDION อารีน่า ในโอซาก้า ในวันพุธที่ 13 กันยายนนี้ เป็นที่แน่นอนแล้ว และเชื่อว่าทาง เพชรยินดี บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น จะต้องดำเนินการถ่ายทอดสดการชิงแชมป์โลกของนักชกไทยวัย 32 ปีรายนี้ กลับมาให้แฟนมวยชาวไทยได้ชมและเชียร์กันอย่างแน่นอน
ว่าแต่พลังพลควรจะต้องเตรียมเพลงเปิดตัวแบบหนักแน่น ไปให้ผู้จัดเปิดนำก่อนขึ้นเวทีด้วย เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนามทางทานากะก็จะเป็นการดีมาก เพราะเพลงเปิดตัวขอทานากะก่อนขึ้นเวทีก็คือเพลง I was born to love you ของวงดนตรีร็อคชื่อดัง “ควีน” นั่นเอง
@ ป.ล. เผยแพร่ในนิตยสารน็อคเอาท์ ฉบับ มวยโลก เล่มที่ 1716 ลุยมวยโลกสไตล์นาย… บ็อกซิ่ง-บอย / สบายสบายสไตล์… ชายพจน์
#ขออภัย โฆษณามารบกวน แต่ถ้าไม่มีเขาวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่มีไทยเรค ดูนิดนะคับ
@ news –image credit :: บ็อกซิ่ง-บอย/ www.Boxing-Boy’s/
