<<>> อนาคตการค้ากำปั้นของ ‘ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น’  จะเดินหน้าต่อที่อเมริกา หรือ กลับมาพอใจกับความสำเร็จในบ้าน

หลังจากที่ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ประกาศศักดาฤทธิ์กำปั้นไทย บนสังเวียนที่ถูกยกย่องว่าเป็นเมกกะของวงการมวยโลก อย่าง เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น ใน มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการ ปราบ ยอดมวยเบอร์ 1 ของโลกอย่าง โรมัน “ช็อกโกลาติโต้” กอนซาเลซ นักชกชาวนิคารากัว เจ้าของแชมป์โลก 4 รุ่น ที่ชนะรวดมา 46 ไฟต์ ทวงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต WBC กลับมาคาดเอวเป็นสมัยที่ 2 ท่ามกลางความสะใจของแฟนมวยชาวไทยทั่วประเทศ

แน่นอนว่าการชกไฟต์นี้เป็นไฟต์บังคับในฐานะที่เราเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 จึงไม่มีออฟชั่นหรือพันธะสัญญาใดๆติดค้างกับ โรมัน กอนซาเลซ แน่นอน แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากอดีตแชมป์โลกชาวนิคารากัวว่าไม่พอใจคำตัดสินอยากขอชกรีแมตช์ล้างตาทันที ส่วนคำสั่งจากทางสภามวยโลกหรือ WBC ที่กำหนดให้ แชมป์โลกรุ่น 115 ปอนด์ต้องชกกับ คาร์ลอส คูเอดราส ที่ชนะมาให้การชกตัดเชือก ก็ยังไม่ได้ระบุกำหนดวันที่แน่นอน 

หลังศรีสะเกษได้แชมป์ มีแฟนมวยมาถามผมหลายคนว่า ศรีสะเกษ จะชกกับใครไฟต์ต่อไป ไม่อยากให้ชกล้างตากับ กอนซาเลซ เลย ไม่อยากให้เจอกับ คูเอดราส ตอนนี้ อยากให้กลับมาชกป้องกันตำแหน่งในไทย ก่อน หรืออย่างน้อย ไปชกที่ญี่ปุ่นก่อน ก็ยังดี
ผมได้แต่ถอนใจ….แต่ก็เข้าใจว่าแฟนมวยอยากให้ศรีสะเกษรักษาเข็มขัดแชมป์ไว้นานๆ

ถ้าเป็นผม ผมตัดสินใจแบบไม่ลังเล เลยว่าชกที่สหรัฐอเมริกาเลย จะกับใครก็ได้ จะล้างตา “กอนซาเลซ” หรือ ล้างตา “คูเอดราส” ได้หมด ถ้าค่าตัวโอเค ไฟต์นี้ ศรีสะเกษ ได้แค่ 75,000 ดอลลาร์ แต่ไฟต์ต่อไปในฐานะแชมป์และเพิ่งปราบมวยเบอร์ 1 โลกมา ค่าตัวต้องได้ 2-3 แสนดอลลาร์ เป็นอย่างน้อย

ถามว่า กลับมาชกในไทยดีกว่ารึเปล่า ดีกว่าตรงที่เราคงป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้แบบไม่ยากนัก เงินทุนจัดก็คงไม่ใช่ปัญหา ศรีสะเกษ เป็นข่าวดังขนาดขึ้นหน้าหนึ่งหัวใหญ่สุดของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้ ดังขนาดไหนลองนึกเอาเอง สปอนเซอร์ คงวิ่งเข้าหา แต่ ในความคิดผมนะมันก็เท่านั้น ศรีสะเกษ คงได้ค่าตัวราว 5 แสนหรือเต็มที่ก็ 1 ล้านบาท จะไปชกป้องกันตำแหน่งที่ญี่ปุ่น ค่าตัวอาจจะ แสนดอลลาร์อัพ แต่ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร ชกชนะ 3-4 ไฟต์ค่าตัวก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไร

ไม่เหมือนกับการได้ไปชกที่สหรัฐอเมริกา มันเหมือนเป็นการอัพเลเวลให้นักชกไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับจากทั่วโลกอย่างแท้จริง เหมือนเมื่อครั้งที่ แมนนี่ ปาเกียว มาชกที่สหรัฐครั้งแรกตอนนั้นค่าตัวก็ไม่ถึงแสนเหรียญ แต่เขาก็ค่อยๆชกทำฟอร์มจนกลายเป็นยอดมวยเบอร์ 1 โลกค่าตัวหลาย 10 ล้านดอลลาร์  

ที่ผ่านมานักมวยของไทยกลัวที่สุดคือการไปชกสหรัฐอเมริกา จะด้วยปัญหาเดินทางไกล ไม่คุ้นชินกับเวลา หรืออะไรหลายๆอย่างที่สำคัญคือกลัว ”แพ้”  ซึ่งก็น่าเสียดาย แชมป์โลกชาวไทยเก่งๆหลายคนไม่มีโอกาสไปโชว์ฝีมือที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของวงการมวยโลก ด้วยเหตุผลที่ว่า “เสี่ยงเกินไป”

ก็ต้องมาดูว่า ศรีสะเกษ ที่ได้ เหยียบบนแผ่นดินสหรัฐ ก้าวแรกคว้าชัยชนะได้อย่างสวยงามแล้ว จะถอนเท้าถอยหลังกลับมาพอใจกับความสำเร็จในบ้าน หรือแค่ ในเอเชียอย่างญี่ปุ่น หรือไม่ ผมเองก็คงได้แค่เอาใจช่วยอยู่ห่างๆนะครับ