banner-x

 

 

<<>> ภายหลังจากที่ทางสำนักพระราชวัง ได้ออกประกาศ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา

คนในแวดวงกีฬาไทยร่วมแสดงความเสียใจและไว้อาลัยแด่พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย

โดยเฉพาะในวงการมวยของไทยทั้งมวยไทยและสากล

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระทัยในกีฬา “มวย” เป็นพิเศษ ทั้งมวยไทย และ มวยสากล

 

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสวมมาลัยให้ชาติชาย เชี่ยวน้อย หลังคว้าแชมป์โลกเมื่อ 30 ธ.ค.2509 ด้วยการเอาชนะวอลเตอร์ แม็คโกแวน

 

 

ทรงเสด็จทอดพระเนตรการชกมวยพระที่นั่งหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งเมื่อครั้งที่ “โผน กิ่งเพชร” เป็นนักมวยชาวไทยคนแรกที่ก้าวขึ้นแชมป์โลกคนแรกของประเทศไทย

โผน กิ่งเพชร หรือชื่อจริง “มานะ สีดอกบวบ” ขึ้นชกชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตกับ ปาสคาล เปเรซ าของตำแหน่งชาวอาร์เจนไตน์ ที่เวทีลุมพินี เมื่อ 16 เม.ย.2503 ต่อหน้าพระที่นั่ง และคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ

 

และในวันที่ 12 มกราคม 2506 โผนขึ้นชกหวังทวงตำแหน่งแชมป์โลกคืนจากไฟท์ติ้ง ฮาราด้า ที่ยิมเนเซียม สนามกีฬาแห่งชาติ สถานการณ์ของโผนไม่สู้ดีนัก โดยฮาราด้า ไล่ต้อนโอนเอนมาในยกที่ 7 และ 8

แต่ขึ้นยก 9 มีคนกระซิบบอกที่มุมว่า “ในหลวงเสด็จแล้ว” (ทรงเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ โดยไม่มีหมายกำหนดการล่วงหน้าตั้งแต่ชกกันยกที่ 3 แล้ว)

 

ทำให้ โผนมีกำลังใจ พลิกสถานการณ์ไล่ต้อนฮาราด้า เอาชนะคะแนนได้อย่างเหลือเชื่อ กลับขึ้นครองบัลลังก์โลกเป็นครั้งที่ 2

หลังการชก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงพระราชทานพวงมาลัยให้กับโผน กิ่งเพชร และตรัสชมเชยว่า

 

%e0%b9%82%e0%b8%9c%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%8a%e0%b8%a1%e0%b8%9b%e0%b9%8c

“เก่งมาก ที่เอาชนะเอาตำแหน่งคืนมาได้”

 

นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สนพระทัยในกีฬา “มวยไทย” โปรดให้ สนามมวยเวทีราชดำเนิน สนามมวยที่ได้รับการจัดตั้งโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในฐานะเวทีมวยแห่งแรกของประเทศไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาติให้จัดตั้ง “ทุนนักมวยไทย ในมูลนิธิอานันทมหิดล” ขึ้น เพื่อเป็นเกียรติแก่วงการมวย

 

 

และในการแข่งขันมวยโดยเสด็จพระราชกุศลครั้งที่ 1 เวทีมวยราชดำเนิน จึงได้เป็นแกนนำร่วมกับ เวทีลุมพินี และคณะบุคคลในวงกีฬามวย ได้น้อมเกล้าจัดการแข่งขันมวยโดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อหาเงินสมทบทุน “ทุนนักมวยไทย ใน มูลนิธิอานันทมหิดล” และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการแข่งขันมวยโดยเสด็จพระราชกุศลครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2504 ที่เวทีราชดำเนิน ซึ่ง นับเป็นวันมหามงคลยิ่งของวงการมวยไทย และทรงประทับทอดพระเนตร การแข่งขันตั้งแต่คู่แรกไปจนถึงคู่สุดท้ายของการแข่งขัน

 

 

นำศักดิ์ยนตรกิจ นักมวยพระราชทานคนแรก

 

 

หลังจบการแข่งขัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ยังทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลพระราชทานให้แก่นำศักดิ์ ยนตรกิจ นักชกยอดเยี่ยมมวยไทย และ เขียวหวาน ยนตรกิจ นักชก ยอดเยี่ยมมวยสากล และทรงพระราชทานเข็มปักหน้าอกเสื้อให้กับนักมวยทุกคนที่ชกในรายการด้วย

หลังจากนั้น “พ่อหลวง” ยังคงสนพระทัยในกีฬามวยของไทยมาอย่างต่อเนื่อง

คนในวงการมวยต่างสำนึก รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดไม่ได้

@ News / Photo Credit :sportclassic/Buaksib.com

<<>>   พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา  แถลงการณ์ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต วันที่ 13 ตุลาคม 2559
          วันที่ 13 ตุลาคม 2559 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันที่ปวงชนชาวไทย ไม่แม้แต่จะนึกคิด ไม่แม้แต่จะปรารถนาได้มาถึง เมื่อสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 15.53 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมพระชนมพรรษา 89 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติทั้งสิ้น 70 ปี ถือเป็นความสูญเสียที่ยิงใหญ่ที่สุดของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ นับแต่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489

 
          ทั้งนี้ที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยรับรู้ว่า ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร และเสด็จฯ ไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะ เมื่อพระอาการบรรเทาลงก็ได้ปฏิบัติพระราชกิจตามปกติ ด้วยพระวิริยะอุสาหะ เพื่อความผาสุขของพสกนิกร

          ตลอดเวลาที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนพระอาการดีขึ้นตามลำดับ นำความปลาบปลื้มแก่ประชาชนชาวไทยทั้งชาติ แต่ในที่สุดพระอาการประชวร หาคลายไม่ ประกอบกับพระชนมพรรษามาก ซึ่งในวันนี้ (13 ตุลาคม 2559) จะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทย ตลอดไปนานแสนนาน ดุจวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม

          ระยะเวลา 70 ปี ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เริ่มต้นภายหลังจากมหาสงครามเพิ่งสิ้นสุดลง ประเทศชาติกำลังฟื้นตัวจากภัยสงคราม ประชาชนเปี่ยมด้วยความหวัง เมื่อประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ครองราชย์เป็นผู้นำ เปลี่ยนความท้อแท้ของผู้คน เป็นความแน่วแน่ มั่นคง องอาจ ที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ

          ตลอดรัชสมัยในช่วงที่มีการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่เป็นที่รัก ที่เทิดทูน ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นับเป็น 70 ปีที่ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามโดยแท้          บัดนี้ 70 ปีในรัชสมัย ของพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่งของปวงชนชาวไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมากมายล้นพ้นหาที่สุดมิได้มากเพียงใด ความวิปโยคอาลัยของพสกนิกรชาวไทย ก็มีมากมายหาที่สุดมิได้เช่นกัน
          ทั้งนี้ รัฐบาลขอประกาศให้ปวงชนชาวไทยร่วมตั้งจิตภาวนาตามศาสนาที่ทุกท่านนับถือ ดั่งที่เราเคยร่วมกันภาวนาถวายพระพร และอันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ทุกท่านเคารพนับถือ ให้อภิบาลคุ้มครองตลอดเวลาที่ทรงพระประชวร  เพื่ออธิษฐานภาวนา ขอให้ดวงพระวิญญาณของพระองค์สถิตย์ในสรวงสวรรคต และทรงอภิบาลคุ้มครอง ประชาชนชาวไทยผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ ให้มีความสันติสุขดุจดังที่ประเทศไทย และประชาชนชาวไทยมีมาโดยตลอดภายใต้ร่มมหาพระบารมียาวนาน 70 ปี
          ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในยามทุกข์โศก น้ำตานองหน้าเพียงใด ประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเราและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ต้องดำรงต่อไปอย่าให้การสูญเสียครั้งนี้ทำให้พระราชปณิธานของพระองค์ท่านต้องหยุดชะงักลง          การแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยที่ดีที่สุด คือ การเจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานที่จะรักษาเอกราช ประชาธิไตย ความสมบูรณ์พูลสุข และความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง ตลอดจนการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท

สำนักข่าวบีบีซีรายงาน สำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก 70 ปี ได้เสด็จสวรรคตแล้ว ด้วยสิริพระชนมายุ 89 พรรษา

 

ก่อนหน้านั้นสำนักข่าวบีบีซี ได้รายงานถึงความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยนับเป็นพันๆคน ที่สวมใส่เสื้อสีชมพู ถวายพระพรในหลวงให้หายจากพระอาการประชวร ณ บริเวณโรงพยาบาล ศิริราช

 

ในขณะที่ อัลจาซีรา ยกย่อง พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่แค่กษัตริย์ ที่อยู่เป็นมิ่งขวัญให้กับปวงชนชาวไทย แต่เป็นกษัตริย์แห่ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับตั้งแต่การขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1946

 

นอกจากนี้ อัลจาซีรา รายงานด้วยว่า ปวงชนชาวไทยทรงมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างสุดซึ้งโดยตลอดมา

 

 

ส่วน CNN ได้ยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลกเช่นกัน โดย CNN รายงานตลอดระยะเวลาที่ทรงประทับรักษาพระวรกายอยู่ ณ โรงพยาบาล ศิริราช มีพสกนิกรชาวไทยมาถวายความจงรักภักดีเป็นจำนวนมาก พร้อมกับการสวมใส่เสื้อสีชมพูซึ่งหมายถึงการถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานมัยที่สมบูรณ์ และสีเหลืองซึ่งหมายถึง สีประจำพระองค์
_91896647_mournersepa

 

 

 

 

ร่วมถวายความอาลัยแต่

 

พระบาทสมเด็จพพระปรมินทรมหาภูมิพลอคุลยเดช

 

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  ข้าพุทธเจ้า ทีมงานเว็บไทยเรค ดอทคอม

 

@ News / Photo Credit : manager.co.th/news.kapook.com/fbHARLEM SHAKE HARLEM SHAKE

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments