<<>> ศึกมวยโลกรุ่นเวลเตอร์เวต ระหว่าง “แมนนี่ ปาเกียว” ซูเปอร์สตาร์มวยโลกแห่งฟิลิปปินส์ กับ “เจสซี่ วาร์กัส” แชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวตชาวอเมริกัน ขององค์การมวยโลก WBO ที่โทมัส แอนด์ แม็ค เซนเตอร์ ในเมืองลาส เวกัส มลรัฐเนวาด้าของสหรัฐอเมริกา วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 กลายเป็นต้นเหตุของการพลิกขั้วครั้งมโหฬารของวงการมวยโลกจอแก้ว ระลอกล่าสุด
ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของ “บ็อบ อารัม” ซีอีโอของทอปแรงค์ โปรโมชั่น ผู้จัดศึกมวยโลกระหว่าง “ปาเกียวVSวาร์กัส” ว่า ตัดสินใจให้ “ทอปแรงค์ ทีวี” เป็นผู้ดำเนินการถ่ายทอดสดแบบเปย์ เปอร์ วิว เอง เมื่อคู่สัญญาเดิม คือ “เอชบีโอ” แห่งสหรัฐอเมริกา ไม่พร้อมจะดำเนินการและถ่ายทอดสดให้ เนื่องจากติดสัญญาศึกมวยโลกคู่อื่น ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ที่อยู่ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน และจะทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจอย่างมาก
“ดังนั้น เราจึงตัดสินใจดำเนินการเอง ที่ผ่านมาเราจ่ายค่าดำเนินการให้ เอชบีโอ ทุกไฟต์ๆ ละ 7.5% ของยอดรายได้ทั้งหมด ดังนั้น รายได้ 7.5% ที่ว่านี้ เราจึงนำมาเป็นต้นทุนดำเนินการเองดีกว่า”
อารัมกล่าวและยอมรับต่อไปอีกว่า ผลจากการปฏิเสธของ “เอชบีโอ” ครั้งนี้ ทำให้ตัดสินใจแจรจากับ “โชว์ไทม์” ธุรกิจเคเบิลโทรทัศน์คู่แข่งขันของ “เอชบีโอ” เพื่อเปิดโอกาสให้ทอปแรงค์ มีพันธมิตรจอแก้วรายใหม่ ที่ดีกว่าเดิมในอนาคตต่อไป ผลการเจรจามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก คาดว่าจะสามารถสรุปข้อตกลงได้ในเร็วๆ นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า การพลิกขั้วมาเจรจาร่วมมือกันของ “บ็อบ อารัม” กับ “โชว์ไทม์” ครั้งนี้ ทำให้สื่อมวลชนอเมริกันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับการตั้งข้อสังเกตว่า อารัมกำลังวางหมากก้าวใหม่ ก้าวใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อจัดศึกแก้มือระหว่าง “ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์” กับ “แมนนี่ ปาเกียว” ขึ้นมาอีกหรือไม่? เนื่องจากเมย์เวทเธอร์มีสัญญาผูกพันกับ “โชว์ไทม์” เพียงเจ้าเดียวเท่านั้น ถ้าปาเกียวอยู่ในเครือข่ายโทรทัศน์แห่งเดียวกับเมย์เวทเธอร์ ก็จะทำให้การเจรจากันสามารถตกลงกันได้อย่างง่ายดายแน่นอน.
@ credit news –image :: sportclassic/www.zimbio.com
