<<>> น้องฝ้าย สุกัญญา ศรีสุราช จอมพลังสาวไทยจากชลบุรีประกาศศักดาในเวทีโอลิมปิกได้อย่างยิ่งใหญ่หลังคว้าเหรียญทอง ยกน้ำหนักรุ่น58กก. มาครองได้สำเร็จ เป็นเหรียญทองที่2ของทัพนักกีฬาไทยและทัพยกลูกเหล็กสยามในริโอเกมส์ครั้งนี้
news201608090317110

 

 

การแข่งขันยกน้ำหนักหญิงรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 58 กิโลกรัม ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล โดยในรุ่นนี้ทัพยกลูกเหล็กไทยส่งลงแข่งขันสองคนได้แก่ แต้ว พิมศิริ ศิริแก้ว เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก4ปีที่แล้วที่ ลอนดอนเกมส์ และน้องฝ้าย สุกัญญา ศรีสุราช สาวน้อยวัย 21 ปี จากชลบุรี โดยผลการแข่งปรากฎว่ากลายเป็นสองสาวไทยที่แข่งขันกันเองอย่างสุดมันส์แต่เป็น น้องฝ้ายที่ทำผลงานได้เยี่ยมกว่าโชว์ความแข็งแกร่งทั้งท่าสแนทซ์และคลีนแอนด์เจิร์กทำน้ำหนักรวม 240กก. คว้าเหรียญทองไปครองอย่างยิ่งใหญ่ โดยในท่าสแนทซ์นั้นน้องฝ้ายยกได้110กก. ทำลายสถิติโอลิมปิกของ ลี เซียว ยิง ของจีนเมื่อ4ปีที่แล้วที่อังกฤษ ขณะที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์กยกได้ 130 กก.

 

 

ขณะที่ พิมศิริ ศิริแก้ว แม้จะพลาดเหรียญทองอีกครั้งแต่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้า เหรียญเงิน มาครองได้อีกสมัยทำน้ำหนักรวม 232กก. (สแนทซ์102กก./คลีนแอนด์เจิร์ก130กก.) ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของสาวจากไต้หวัน
สำหรับเหรียญทองนี้ ทำให้ สุกัญญา ศรีสุราช กลายเป็นนักยกน้ำหนักคนที่5ในประวัติศาสตร์ของไทย ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ต่อจาก อุดมพร พลศักดิ์, ปวีณา ทองสุก, ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล และโสภิตา ธนสาร

 

ายหลังการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่สนาม ริโอเซนโตร-ปาวิลเลียน 2 กรุง ริโอ เดอ จาเนโร คืนวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2559 “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช จอมพลังสาวไทยคว้าเหรียญทอง และ “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว คว้าเหรียญเงิน จากยกน้ำหนักหญิง รุ่น 58 กิโลกรัม
       
       โดย “แต้ว” ที่คว้าเหรียญเงินยกน้ำหนักจากโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย คือ 2012 และ 2016 ซึ่งเจ้าตัวกล่าวหลังจบการแข่งขัน ว่า “ดีใจมากที่เราทำได้ 1 เหรียญทอง กับ 1 เหรียญเงิน ตอนนี้ไม่ทราบว่าทางบ้านทั้งที่เมืองไทย และที่บ้านเกิด แต่ก็ต้องขอบคุณมาก ๆ ที่คอยส่งกำลังใจมาเชียร์แต้ว”
       
       “ต้องบอกว่าเราทำงานกันมาดีมาก ๆ โดยเฉพาะทีมงาน วันนี้ไม่ใช่วันของแต้ว ของฝ้าย แต่เป็นวันที่เราทำเพื่อชาติ ขอบคุณสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ที่คอยดูแลเหมือนลูกแท้ ๆ”
       
       “เงินรางวัลที่ได้รับ ยังไม่มีแผนเลยว่าจะไปทำอะไร ส่วนอนาคตหลังจากนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสมาคมยกน้ำหนักฯ ตอนนี้ต้องวางแผนแก้บนก่อน เพราะไม่ทราบว่าแม่ไปบนอะไรไว้บ้าง แต่น่าจะหลายที่”

 

 

 

120802e3q19260
       
       พร้อมกันนี้ “แต้ว” ยังกล่าวถึงการที่ตนสละสิทธิ์ในการยกท่าคลีน แอนด์ เจิร์ก ครั้งที่ 3 พร้อมกับส่งให้ “ฝ้าย” คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ส่วนตัวเองรับเพียงแค่เหรียญเงิน ว่า “น้องฝ้ายสุดยอดอยู่แล้ว ขอบอกว่าเรามาแข่งขันครั้งนี้ เรามาเป็นทีม เราทำเพื่อประเทศชาติ เราไม่มีเกี่ยงเลยว่าใครจะได้เหรียญอะไร สำหรับแต้วขอให้ชาติเราได้เหรียญทองก็พอแล้ว”
       
       “มันเป็นเรื่องแผนการที่เราวางไว้แล้วด้วย ที่ไม่ออกไปยกครั้งสุดท้าย อีกทั้งเป็นการเซฟร่างกายของเราด้วย สำหรับ แต้ว เหรียญเงินแต้วก็ดีใจมากแล้ว เราคิดอยู่เสมอว่าทำเพื่อชาติ”
       

 
       นอกจากนี้ “แต้ว” กล่าวถึงสายสัมพันธ์ของตนกับ “ฝ้าย” ด้วยว่า “เราเห็นเขาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นเขามาซ้อม เป็นเด็กดำ ๆ มันก็เหมือนตอนเรามาแรก ๆ นั่นแหละ โค้ชให้ทำอะไรก็ทำ จนวันหนึ่งเขาได้มาเก็บตัวทีมชาติร่วมกัน เขาก็ดูเราเป็นตัวอย่าง ทั้งเรื่องการฝึกซ้อม และทุก ๆ เรื่อง เรามีอะไรก็แนะนำน้อง ถึงวันนี้ก็ดีใจที่เห็นเขาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จ”
       
       ขณะเดียวกัน พิมศิริ ยังกล่าวในโอกาสใกล้วันแม่ด้วยว่า “สำหรับ แต้ว นั้นสำคัญมาก เพราะเดือนที่แล้วเป็นเดือนเกิดของแม่แต้ว ส่วนเดือนนี้ก็ใกล้วันแม่ ถือว่าแต้วมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับแม่ได้แล้ว ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์สูงสุดในชีวิต เหรียญเงินเหรียญนี้จะมอบให้กับแม่ของแต้ว”
       

 
       สำหรับ พิมศิริ ซึ่งคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกครั้งนี้ จะได้รับเงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ จากเหรียญทอง 6,000,000 บาท, ตัน ภาสกรนที (อิชิตัน) 1,000,000 บาท, โอสถสภา 500,000 บาท และ เอไอเอส 500,000 บาท รวมแล้ว 8,000,000 บาท

 

@ credit news –image :: olympic2016.siamsport.co.th/ manager.co.th/ www.naewna.com

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments