เมื่อ "มวยสมัครเล่นกลายพันธุ์" ความ "ฉิบหาย" จึงบังเกิด!!

<<>> มวยสากลสมัครเล่น กำลังหมดเสน่ห์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจนใกล้เคียงกับสากลอาชีพ

มวยสากลสมัครเล่น กีฬาที่คนไทยตั้งความหวังมาตลอดกับการลุ้นเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ไล่ตั้งแต่ ซีเกมส์ ,เอเชียนเกมส์ ไปจนถึง โอลิมปิกเกมส์ นับตั้งแต่โอลิมปิกปี 1976 ที่มอนทรีอัล ประเทศแคนาดา มวยสากลสมัครเล่น ทำเหรียญให้ทัพนักกีฬาไทยมาตลอด

ทว่าในวงการมวยสากลสมัครเล่นเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากหมดยุคของ อันวาร์ ชอดรี้ ประธานสหพันธ์มวยนานาชาติ AIBA ชาวปากีสถาน ที่แพ้เลือกตั้ง ชิง โก วู อดีตคณะกรรมการโอลิมปิกสากลชาวไต้หวัน ในปี 2006 กติกาของ มวยสมัครเล่น ก็เริ่มมีการปรับแก้ มาที่ละเล็กที่ละน้อย
มวยสากลสมัครเล่นที่เคยมีปรัชญา “ชกเพื่อเกมกีฬา ไม่ได้เน้นทำร้ายคู่ต่อสู้เหมือนมวยสากลอาชีพ” กลับถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิง

จากเดิมมวยสมัครเล่นจะเน้นชกแค่เข้าเป้า และ จะเซฟนักมวยมาก ความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นเรื่องที่คำนึงถึงที่สุด

ชิง โก วู เข้ามาเปลี่ยนระบบกฏกติกา ให้ “มวยสมัครเล่น” มีความคล้ายคลึง “มวยอาชีพ” มากที่สุด

 

 

เริ่มตั้งแต่ ปรับเวลายก จากเดิม ชก 4 ยก ยกละ 2 นาที ก็เปลี่ยน เป็น ชก 3 ยก ยกละ 3 นาที เวลาต่อยกเท่ากับ มวยอาชีพ
จากนั้นมีการ ปรับระบบการให้คะแนน จากแต่เดิม เป็นระบบกดคะแนน จากกรรมการ 5 คนที่ข้างเวที หากมี 3 คนเห็นว่าหมัดเข้าเป้าแล้วกดพร้อมกัน ก็จะเป็นคะแนนขึ้นทันที เปลี่ยนมาเป็นให้คะแนน ยกละ 10 คะแนน เหมือน มวยอาชีพ

 

และที่ร้ายที่สุด คือ การถอดเฮดการ์ด ซึ่งถือเป็นเครื่องป้องกันสำคัญที่สุดของมวยสมัครเล่น
   
ซึ่งเป็นการปรับแก้ ที่มีการต่อต้านมากที่สุด ทั้งนี้เพราะมวยสากลสมัครเล่น จะเป็นการชกแบบทัวนาเม้นท์ อย่างรายการใหญ่ๆในโอลิมปิก หรือ มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก นักมวยจะต้องชกต่อเนื่อง ในช่วงเวลาจำกัด
ต้องชก 4-5 ไฟต์ภายใน 7-10 วัน หากไม่มีเฮดการ์ดป้องกันจะเสี่ยงต่อการเกิดแผลแตกได้ง่ายมาก ต่างกับ มวยอาชีพ ที่จะชก 3-4 เดือนต่อครั้ง

 

แม้ว่าเหล่าสมาชิกหลายๆประเทศ จะมีปัญหาคาใจแต่ ในเมื่อ IOC หรือ International Olympic Committee คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ยังให้ สิทธิ AIBA ในการ ส่งมวยเข้าแข่งขัน โอลิมปิก

 

บรรดาชาติสมาชิกจึงได้แต่ “กัดปากกลืนเลือดลงท้องไป” ซ้ำร้าย AIBA ยังไปเพิ่มโควต้าเข้ารอบสุดท้าย โอลิมปิก จากมวยที่แข่งขัน World Series of Boxing ทัวนาเมนท์มวยที่ AIBA จัดชกกึ่งมวยสมัครเล่นกึ่งมวยอาชีพ

 

ล่าสุด AIBA ก็ปล่อยของ อนุญาตให้มวยสากลอาชีพมาชกโอลิมปิกได้ ถึงขนาดเตรียมเชิญ แมนนี่ ปาเกียว ซูเปอร์สตาร์วงการกำปั้นโลกที่แขวนนวมไปแล้ว มาชกเป็นกรณีพิเศษ

 

 

มีผู้สันทัดกรณีในวงการมวยตั้งข้อสังเกตุว่า AIBA พยายามจะเข้ามามีบทบาทกับวงการมวยอาชีพ ที่ถือว่าเป็นธุรกิจกีฬาขนาดใหญ่ หวังจะขึ้นมาเป็น สถาบันหลักของวงการมวยโลกเหมือน สมาคมมวยโลก WBA , สภามวยโลก WBC , สหพันธ์มวยนานาชาติ IBF และ องค์กรมวยโลก WBO ที่มีรายได้มหาศาลจากธุรกิจมวยโลก

 

เรื่องนี้ฝ่ายมวยโลกต่อต้านอย่างหนัก ดังจะเห็นได้จาก บรรดาผู้บริหารสถาบันมวยเหล่านี้ประกาศชัดเลยว่าไม่อนุญาติให้ นักมวยที่ครองตำแหน่งแชมป์ หรือ มีแรงกิ้งติดอันดับอยู่ ไปชกมวยภายให้การจัดของ AIBA หากไปชกถึงขั้นปลดออกจากตำแหน่งเลยทีเดียว

 

เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็ต้องดูว่าอนาคตจากนี้ วงการมวยสากลสมัครเล่นจะเดินไปในทิศทางไหน จะจัดชิงแชมป์โลก เหมือนสถาบันมวยโลกอื่นๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยหรือเปล่า

 

แต่ที่แน่ๆ เสน่ห์ ของ Amateur Boxing กำลังจะหมดไปแล้วเมื่อมันจะกลายพันธ์เป็น Professional Boxing แบบเต็มตัวในไม่ช้า เพราะปรัชญาของโอลิมปิกถูกกลืนด้วยผลประโยชน์ทางธุรกิจ

 

เรื่องโดย “Suradech Apaiwong”

ผู้สื่อข่าวกีฬาวอยซ์ ทีวี Voice tv

สนับสนุนเนื้อหา

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments